๕. การกำหนดกิจกรรมของโครงการ
      จัดการอภิปราย การเรียนรู้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขทางวิทยุชุมชนโดยถ่ายทอดไปยังสถานีวิทยุเครือข่ายประชาชนกำแพงเพชร ในทุกอำเภอ ทุกวันอาทิตย์ตั้งแต่เวลา ๙.๐๐ น ถึงเวลา ๑๑.๐๐ น.อภิปรายโดยเชิญวิทยากร ครั้งละ ๓ท่าน รวมทั้งผู้ดำเนินการ เป็น ๔ ท่าน จัดอภิปรายผ่านระบบโทรศัพท์ (โฟนอิน) ไปทุกอำเภอ โดยดำเนินการ ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ฉบับปัจจุบัน เรียงตามมาตรา และขยายถึงการเลือกตั้งผู้แทนทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ ให้ประชาชนเข้าใจเป็นอย่างดียิ่ง ตามตารางดังนี้
ครั้งที่     เรื่อง                                     ผู้ดำเนินรายการ   วันที่  เดือน ปี
 ๑   ความสำคัญของการเรียนรู้รัฐธรรมนูญ   อ.สันติ อภัยราช   ๖ กุมภาพันธ์ ๕๔
๒   ความเป็นมาของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย   อ.สุวัฒน์ วัฒนศิริ   ๑๓ กุมภาพันธ์ ๕๔
๓   หลักการและเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ   อ.ประทวน เข็มเพชร   ๒๐กุมภาพันธ์ ๕๔
๔   แนวคิดในการสร้างสังคมประชาธิปไตย   อ.เกชา เดชา   ๒๗กุมภาพันธ์ ๕๔
๕   การนำรัฐธรรมนูญไปใช้ในชีวิตประจำวัน   อ. สายรุ้ง วงศ์สมบูรณ์   ๖ มีนาคม ๕๔
๖   บททั่วไปของรัฐธรรมนูญ   อ.ปรีชา แก้วสุข   ๑๓ มีนาคม ๕๔
๗   พระมหากษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญ ครั้งที่ ๑   อ.มงคล มั่นเขตวิทย์   ๒๐ มีนาคม ๕๔
๘   พระมหากษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญ ครั้งที่ ๒   อ.อารีรักษ์ ปานพรหม   ๒๗ มีนาคม ๕๔
๙   สิทธิและเสรีภาพของชนชาวไทย ครั้งที่ ๑   อ.สมพร จันทรปิฎก   ๓   เมษายน ๕๔
๑๐   สิทธิและเสรีภาพของชนชาวไทย ครั้งที่ ๒   อ.ชวินทร์ จรรยาวัฒน์   ๑๐ เมษายน ๕๔
๑๑   สิทธิและเสรีภาพของชนชาวไทย ครั้งที่ ๓   อ.สันติ อภัยราช   ๒๔เมษายน ๕๔
๑๒   สิทธิและเสรีภาพของชนชาวไทย ครั้งที่ ๔   อ.สุวัฒน์ วัฒนศิริ   ๑ พฤษภาคม ๕๔
ครั้งที่     เรื่อง   อ.ประทวน เข็มเพชร   วันที่  เดือน ปี
๑๓   หน้าที่ของชนชาวไทย   อ.เกชา เดชา   ๘ พฤษภาคม ๕๔
๑๔   แนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ   อ. สายรุ้ง วงศ์สมบูรณ์   ๑๕ พฤษภาคม ๕๔
๑๕   ความรู้เรื่องรัฐสภา   อ.ปรีชา แก้วสุข   ๒๒ พฤษภาคม ๕๔
๑๖   สภาผู้แทนราษฎรครั้งที่ ๑   อ.มงคล มั่นเขตวิทย์   ๒๙พฤษภาคม ๕๔
๑๗   สภาผู้แทนราษฎรครั้งที่ ๒   อ.อารีรักษ์ ปานพรหม   ๕ มิถุนายน ๕๔
๑๘   สภาผู้แทนราษฎรครั้งที่ ๓   อ.สมพร จันทรปิฎก   ๑๒ มิถุนายน ๕๔
๑๙   วุฒิสภา   อ.ชวินทร์ จรรยาวัฒน์   ๑๙ มิถุนายน ๕๔
๒๐   คณะกรรมการการเลือกตั้ง ครั้งที่ ๑   อ.สันติ อภัยราช   ๒๖ มิถุนายน ๕๔
๒๑   คณะกรรมการการเลือกตั้ง ครั้งที่ ๒   อ.สุวัฒน์ วัฒนศิริ   ๓ กรกฎาคม ๕๔
๒๒   ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา   อ.ประทวน เข็มเพชร   ๑๐กรกฎาคม ๕๔
๒๓   คณะรัฐมนตรี ครั้งที่ ๑   อ.เกชา เดชา   ๑๗ กรกฎาคม ๕๔
๒๔   คณะรัฐมนตรี ครั้งที่ ๒   อ. สายรุ้ง วงศ์สมบูรณ์   ๒๔กรกฎาคม ๕๔
๒๕   ศาล ครั้งที่ ๑   อ.ปรีชา แก้วสุข   ๓๑กรกฎาคม ๕๔
๒๖   ศาลครั้งที่ ๒   อ.มงคล มั่นเขตวิทย์   ๗ สิงหาคม ๕๔
๒๗   ศาลรัฐธรรมนูญ ครั้งที่ ๑   อ.อารีรักษ์ ปานพรหม   ๑๔ สิงหาคม ๕๔
๒๘   ศาลรัฐธรรมนูญ ครั้งที่ ๒   อ.สมพร จันทรปิฎก   ๒๑ สิงหาคม ๕๔
๒๙   ศาลยุติธรรม   อ.ชวินทร์ จรรยาวัฒน์   ๒๘ สิงหาคม ๕๔
๓๐    ศาลปกครอง   อ.สันติ อภัยราช   ๔ กันยายน ๕๔
๓๑   การปกครองส่วนท้องถิ่น   อ.สุวัฒน์ วัฒนศิริ   ๑๑ กันยายน ๕๔
๓๒   การตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ   อ.ประทวน เข็มเพชร   ๑๘ กันยายน ๕๔
๓๓   คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ   อ.เกชา เดชา   ๒๕ กันยายน ๕๔
๓๔   การถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง   อ. สายรุ้ง วงศ์สมบูรณ์   ๒ ตุลาคม ๕๔
๓๕   การดำเนินคดีทางอาญากับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง   อ.ปรีชา แก้วสุข   ๙ ตุลาคม ๕๔
๓๖   การตรวจเงินแผ่นดิน   อ.มงคล มั่นเขตวิทย์   ๑๖ ตุลาคม ๕๔
๓๗   การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ   อ.อารีรักษ์ ปานพรหม   ๒๓ ตุลาคม ๕๔
๓๘   บทเฉพาะกาล ครั้งที่ ๑   อ.สมพร จันทรปิฎก   ๓๐ ตุลาคม ๕๔
๓๙   บทเฉพาะกาล ครั้ง ที่ ๒   อ.ชวินทร์ จรรยาวัฒน์      ๖ พฤศจิกายน ๕๔
๔๐   สรุปรัฐธรรมนูญ   ทุกคน    ๑๓พฤศจิกายน ๕๔

รายการวิทยุ  ลั่นเมือง ออกอากาศทางสถานีวิทยุ  อสมท.กำแพงเพชร   FM . ๙๒.๗๕ ทุกวันเสาร์เวลา ๑๑.๐๐ น - ๑๒.๐๐ น. ดำเนินรายการโดยอาจารย์สันติ อภัยราช และอาจารย์อารีรักษ์ ปานพรหม
เดือน พฤศจิกายน และธันวาคม  ๒๕๕๓
          เรื่องทุ่งมหาราช กับประวัติศาสตร์เมืองกำแพงเพชร เรียงตามหัวข้อ
                      เรื่องย่อ ตัวละครสำคัญ
                      แนวคิดที่ได้รับจากเรื่อง
                      ทุ่งมหาราชคือชีวืต
                      พินิจบ้านอ่านคน
                      บ้านคลองสวนหมาก
                      เครื่องใช้ในทุ่งมหาราช
                      เรือในทุ่งมหาราช
                      อ่านคน ตัวละคร   รื่น สุดใจ ละมียด เสถียร ป้าแคล้ว
                      สังคมวัฒนธรรมในเรื่องทุ่งมหาราช
                      วรรคทองส่องยุคสมัย
                      คลองสวนหมากกับพระพุทธเจ้าหลวง
                      การทำมาหากิน
                      พะโป้ พญาตะก่า
                      เจ้าเมืองกำแพงเพชร
                      เมืองไตรตรึงษ์
                      ชากังราวกำแพงเพชร
                      วัดพระบรมธาตุ
                      พระเครื่องเมืองนครชุม
                      กำแพงเพชรในศิลาจารึก
                      จารึกนครชุม
                      จารึกฐานพระอิศวร
                      จารึกวงเวียนต้นโพ
                      ทุ่งมหาราชทัศนา
                      สำนวนภาษาในทุ่งมหาราช
                      คิดถึงครูมาลัย

เมืองกำแพงเพชร เป็นเมืองโบราณ ที่เกี่ยวข้องกับพระเจ้าพรหมมหาราชกษัตริย์แห่งเชียงแสนโดยตรง พระเจ้าพรหมมหาราช มหาราชองค์แรกของราชอาณาจักรไทย ที่เสด็จขับไล่ขอมแห่งเมืองอุโมงค์เสลา เตลิดเปิดเปิง ล้มตายจากเชียงแสนลงมาทางใต้ หนึ่งเดือนเศษ จนกระทั่งพวกขอมหนีไปติดลำน้ำปิง ไม่สามารถหนีต่อไปได้ ถูกพระเจ้าพรหมฆ่าตายเป็นอันมาก จนกระทั่งองค์อัมรินทราธิราช เกรงว่าพวกขอมจะสูญเผ่าพันธุ์ จึงขอให้พระวิษณุกรรม เทพเจ้าแห่งช่าง เนรมิตกำแพงสูงใหญ่ขวางกั้นไว้ไม่ให้พระเจ้าพรหมไล่ฆ่าขอมจนสูญเผ่าพันธุ์ กำแพงเนรมิตนั้นต่อมาผู้คนเรียกขานกันว่า กำแพงเพชร
     พระเจ้าพรหมมหาราช ผู้นี้ เปรียบเสมือนผู้ให้กำเนิด เมืองกำแพงเพชร  มีประวัติความเป็นมาที่มหัศจรรย์ ดังมีเรื่องที่น่าสนใจพิสดารดังนี้
      อาณาจักรไทยโยนก มีกษัตริย์ปกครองมาหลายสิบพระองค์ มีกษัตริย์องค์ที่ ๒๕พระองค์หนึ่งทรงพระนามว่า พระเจ้าพังคราช มีมเหสีทรงพระนามว่าพระนางเทวึ พระเจ้าพรหมมหาราชทรงเป็นราชโอรสองค์ที่สองของพระเจ้าพังคราช มีพระเชษฐาชื่อ เจ้าฟ้าทุกขิตกุมาร ซึ่งเป็นอุปราชของเชียงแสน       ในสมัยพระเจ้าพังคราช พวกของขอมแห่ง อุโมงค์เสลา ยกกองทัพมาต่อกับทัพไทย ที่เชียงแสน พวกขอมได้ชัยชนะ แล้วได้เนรเทศ พระเจ้าพังคราช  ไปอยู่เมืองสี่ตวง หรือเวียงสี่ตวง ปัจจุบันคือเวียงแก้ว ตำบลป่าสักน้อย อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย พระเจ้าพังคราช แต่งกายราว เป็นสามัญชน ต้องมาร่อนทองคำ ส่งให้ขอม หลอมเป็นทองคำขนาดผลมะตูม ส่งส่วยให้พวกขอมปีละสี่ลูก ทำให้ประชาชนและพระเจ้าพังคราชลำบากยิ่งนัก พวกขอมเข้าปกครองนครเชียงแสน กดขี่ไทยมาตลอด
     คนไทยตกอยู่ในอำนาจพระยาขอม ที่เมืองเชียงแสน ได้รับการกดขี่อย่างทารุณกรรม ดูถูกเหยียดหยามคนไทย ไม่เว้นแม้แต่ผู้ทรงศีลก็ได้รับความกดขี่ดูแคลนอย่างมากมาย ดังตำนานสิงหนวัติกุมาร ได้บันทึกไว้ว่า
     ที่เมืองสี่ตวง มีสามเณรรูปหนึ่ง  มีอายุราว ๑๙ ปี  ท่านได้ออกบิณฑบาต  ได้เดินเข้าไปในคุ้มของพระยาขอม พระยาขอมแสดงอาการดูถูกดูแคลน ว่าสามเณรเป็นคนไทย กล่าวปริภาษ ด้วยคำหยาบคายว่า เณรผู้นี้ เป็นคนไทย เป็นชาวไพร่ ไม่คู่ควรกับ เรือนและอาหารของพระยาขอมให้ไล่ออกไป จึงบอกแก่ไพร่พลว่า  สามเณรผู้นี้เป็นคนไทย เป็นลูกส่วย พวกสูทั้งหลายอย่าเอาข้าวของของกูไปใส่บาตรแก่มัน ขับไล่มันไป
     สามเณรได้ฟังรู้สึกอับอาย จึงคิดหาทางตอบแทนความชั่วของเจ้าขอมให้ได้ นำอาหารที่บิณฑบาตได้ไปถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระบรมธาตุแต้วตั้งจิตอธิษฐานว่า ด้วกุศลที่ข้าได้ทำไว้ จงบันดาลให้ข้าไปจุติ ภายในเจ็ดวัน และให้ข้าไปเกิดในครรภ์นางมหาเทวีมเหสีแห่งพระเจ้าพังคราช และถ้าข้าเกิดมา ขอให้มีรูปร่างอันงดงาม มีกำลังที่กล้าแข็ง มีอายุยืนยาว  เป็นที่รักของบิดามารดา และประชาชนทั้งปวง เมื่อข้าอายุได้ ๑๖ปี ให้ได้ชัยชนะแก่พระยาขอม ผู้โอหัง ไม่รู้คุณแห่งพระรัตนตรัย
       เมื่อสามเณร ได้ตั้งสัจจะอธิษฐาน ต่อพระบรมธาตุดอยกู่แก้วแล้ว ก็นั่งสมาธิอยู่ใต้ต้นไม้ต้นหนึ่ง ไม่ยอมฉันข้าวและน้ำครั้นล่วง 7 วัน สามเณรองค์นี้ก็ได้ถึงแก่มรณภาพ ด้วยสัจจวาจา ดวงวิญญาณ ของสามเณร ก็ได้ไปถือปฏิสนธิ ในครรภ์ของพระนางเทวี มเหสีของพระเจ้าพังคราชส่วนพระนางเทวี ในราตรีนั้นกาลคืนนั้น ขณะที่พระนางทรงบรรทมอยู่ พอใกล้สว่าง ก็ทรงสุบินนิมิตรว่าได้เห็นช้างเผือกตัวหนึ่ง มายืนอยู่ใกล้พระองค์ แล้วเดินผ่านเข้าไปในเวียงทางทิศใต้ เมื่อพ้นเวียงออกไปแล้ว ได้วิ่งไล่คนทั้งหลาย ฝูงชนได้แตกตื่นหนีกันเป็นวุ่นวาย เมื่อพระนางสดุ้งตื่นขึ้น จึงได้ทรงเล่านิมิตรนี้ ให้พระราชสวามีฟัง พระเจ้าพังคราชทรงทำนายว่า จะมีผู้มีบุญ มาเกิดในครรภ์ของพระนาง ตั้งแต่นี้ต่อไปขอให้พระนางจงรักษาพระครรภ์ไว้ให้ดีเถิด เมื่อพระนางทรงครรภ์ได้เป็นเวลา 3 เดือน พระนางทรงต้องการอาวุธต่างๆ พระเจ้าพังคราช ก็ทรงหาให้ตามความประสงค์ แสดงว่าพระราชโอรสจะต้องเป็นนักรบผู้ยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน
      ครั้นพระครรภ์ครบถ้วนทศมาส พระนางก็ประสูติพระกุมาร มีวรรณผุดผ่อง สิริโฉมงดงาม ดังพระพรหมชั้นสูง พระบิดาจึงทรงขนานพระนามว่า "เจ้าพรหมราชกุมาร" เมื่อทรงเจริญวัย พระบิดา ได้ทรงให้เข้ารับการศึกษา จากครูอาจารย์ที่มีวิชาความรู้ ทางศิลปศาสตร์ และวิชาพิชัยสงคราม พระเจ้าพรหมกุมาร เป็นผู้มีจิตใจกล้าหาญสามารถเรียนศิลปศาสตร์ จากครูบาอาจารย์ได้อย่างว่องไว สามารถใช้อาวุธ และตำหรับตำราพิชัยสงคราม ได้เป็นอย่างดี พระเจ้าพังคราชพระราชบิดา ได้ทรงค้นหาครูบาอาจารย์ ผู้ทรงความรู้ทางพิชัยสงคราม และพระฤาษีผู้ทรงวิชาด้วยอิทธิฤทธิ์ ให้พระกุมารได้ศึกษาอบรม จนพระราชกุมารได้ศึกษาจนจบ ทรงมีฝีพระหัตถ์ อันเข้มแข็ง ยากที่จะหาผู้ที่เสมอเหมือน ในยุคนั้น ตาม
       จากตำนานสิงหนวัติกล่าวว่า พระเจ้าพรหมกุมาร จับช้างเผือกได้เชือกหนึ่ง จากกลางแม่น้ำโขง ชื่อว่า "ช้างเผือกพวงคำ" เมื่อได้ช้างเผือกคู่บารมีแล้ว พระเจ้าพรหมกุมาร ได้ทรงสร้างเมืองใหม่ขึ้นเมืองหนึ่ง ริมฝั่งแม่น้ำสาย ให้ประชาราษฎร์ ชาวบ้านชาวเมือง ช่วยกันขุดคูทดน้ำ จากแม่น้ำสายเข้ามาเป็นคูเมือง ทรงตั้งเมืองนี้ว่า "เมืองพวงคำ" เหมือนกับชื่อช้างเผือกคู่บารมี ปัจจุบันเมืองนี้เป็นที่ตั้งตัวอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
       พระเจ้าพรหมกุมาร ทรงใช้เมือง "พวงคำ" นี้เป็นค่ายฝึกไพร่พล ให้เกิดความชำนิชำนาญ วิชาการใช้อาวุธ ทั้งหัดไพร่พลให้รู้จักการยิงปืนไฟ ให้ได้คล่องแคล่ว เมื่อไพร่พลทั้งหลาย มีความชำนาญจนจบวิชาการรบแล้ว ก็ประกาศแข็งเมือง เลิกการส่งส่วยให้แก่ขอมต่อไป ในเวลาเดียวกันนั้น พระเจ้าพรหมกุมาร ก็ทรงแต่งตั้งไพร่พล ปลอมตัวเข้าไปสืบหาความลับ ข่าวสารในเมืองเชียงแสน อยู่เป็นประจำเพื่อต้องการทราบความเคลื่อนไหว ของพวกขอม ที่จะมีการเตรียมรี้พล ออกมาปราบปรามคนไทยอย่างไรต่อไป

       พญาขอม รอส่วยจากเจ้าแห่ง ไทย คือพระเจ้าพังคราชมาได้ สอง สามปี ไม่เห็นทางไทย นำส่วยที่เป็นทองคำเท่าลูมะตูมจำนวนปีละสี่ลูกไปถวาย พญาขอมก็บันดาลโทสะ คิดจะสั่งสอนคนไทยให้หัวอ่อนลงเสียบ้าง จึงเตรียมยกทัพ ที่จะมาเหยียบย่ำคนไทยให้แหลกอีกครั้งหนึ่ง ฝ่ายคนไทยที่ปลอมตัว อยู่กับฝ่ายขอมในเมืองเชียงแสน เมื่อสืบข่าว ได้เรื่องแน่ชัดแล้ว ก็รีบกลับนำข้อความ และเรื่องราวที่ได้รู้เห็นมากราบทูล พระเจ้าพรหมกุมารทรงทราบ
       พระเจ้าพรหมกุมาร จึงทรงให้แม่ทัพนายกอง ได้เตรียมกองทัพผู้กล้าหาญ ที่ได้ฝึกฝนมาดีแล้ว ออกไปตั้งรับ และสู้รบกับทหารของพวกขอม กองทัพไทยและกองทัพขอม ได้ทำการสู้รบกันที่ทุ่งสันทราย ฝ่ายซึ่งได้ฝึกมาดีกว่า ก็กำความมีชัยชนะ ได้อย่างง่ายดาย ทัพของขอมได้แตกพ่ายไม่เป็นส่ำ หนีเข้าเมืองเชียงแสน แล้วปิดประตูเมืองไว้ทุกด้าน ไม่ยอมออกมาสู้กับไทยอีก เพราะเกรงกลัวฝีมือรี้พลของพระเจ้าพรหมกุมาร กองทัพของเจ้าพรหมกุมาร ก็เข้าล้อมเมืองเชียงแสนไว้ ส่งทหารเข้าประชิดกำแพงเมือง ได้ชัยชนะและได้แก้แค้นดังที่ได้ตั้งอธิษฐานไว้ไทยได้เป็นเอกราชแก่ขอมตั้งแต่นั้นมาด้วยวิธีที่ชาญฉลาดดังนี้

       พระเจ้าพรหมกุมารทรงช้างคู่บารมีชื่อ "พวงคำ" นำพลเข้าบุกประตูเมือง ช้างคู่บารมี เข้าแทงประตูเมืองพังทลายลง ทหารไทยทั้งหลายก็ได้ตรูกันเข้าเมืองได้ คนไทยอดใจที่คับแค้นมานานแสนนาน ถึงทีแล้ว จึงห้ำหั่นทหารขอม ล้มตายลงอย่างมากมาย ให้สมกับที่พญาขอมได้ข่มเหงไทย มาเป็นเวลานาน 17 ปี พวกขอมที่รอดตาย ก็พากันหนีลงทางใต้เพื่อเอาชีวิตรอด ทหารพระเจ้าพรหมกุมาร ได้ขับไล่พวกขอมไป อย่างกระชั้นชิด ริบทรัพย์ และที่จับเป็นเชลยได้ ก็ให้เอาไปทำการงาน ที่ขัดขืนก็ได้ฆ่าเสียให้ตาย เพื่อกวาดล้างพวกขอม ให้สิ้นซากจากเมืองเชียงแสน ทหารพระเจ้าพรหมกุมาร ได้ยกทัพขับไล่พวกขอม ลงไปทางทิศใต้เป็นเวลา 1 เดือน จึงไปพบแผ่นดินกำแพงเพชร และกำแพงเมืองเนรมิตร ไม่สามารถไล่ฆ่าขอมได้อีกต่อไป กำแพงเนรมิตรนั้น ได้กลายเป็น เมืองกำแพงเพชรในเวลาต่อมา
   พรหมกุมาร จึงทรงให้กองทัพไทย เดินทางกลับเมืองเชียงแสน ปรับปรุงซ่อมแซมเมือง ให้เป็นที่เรียบร้อยแล้วจึงได้อัญเชิญ พระเจ้าพังคราช พระราชบิดา มาครองเมืองเชียงแสนต่อไป พระเจ้าพังคราช ทรงรักใคร่พระเจ้าพรหมกุมารเป็นอย่างมาก แล้วทรงยกเมืองเชียงแสน ให้พระเจ้าพรหมกุมาร ทรงครอบครองต่อไป แต่พระเจ้าพรหมกุมารไม่ทรงรับ พระเจ้าพังคราช จะทรงตั้งให้เป็นมหาอุปราช พระเจ้าพรหมกุมารก็ไม่ทรงรับอีก กราบบังคมพระราชบิดาว่า ขอให้ยกพระเชษฐาธิราช คือ เจ้าฟ้า "ทุกขิตกุมาร" ขึ้นเป็นมหาอุปราชเถิด พระเจ้าพังคราชในเมื่อเห็นว่า ความตั้งพระทัยของพระราชโอรสน้อย เป็นอย่างนั้น จึงทรงได้ปฏิบัติตามความประสงค์ ของพระเจ้าพรหมกุมาร คือ ทรงตั้ง เจ้าฟ้าทุกขิตกุมาร เป็นมหาอุปราชแห่งเมืองเชียงแสน
      ฝ่ายพระเจ้าพรหมกุมาร เมื่อทรงปราบพวกขอมสงบราบคาบแล้ว ทรงคิดในอนาคต ไปข้างหน้าว่า เมื่อพวกขอมได้ปราชัยพวกไทย ในภายหลังพวกขอมอาจจะคิดการแก้แค้นอีกก็เป็นได้ พระเจ้าพรหม จึงได้กราบถวายเรื่องราว ให้พระราชบิดาทรงทราบ แล้วกราบลา พาเอาไพร่พล พร้อมทั้งช่างทั้งหลาย มีช่างตีเหล็ก ช่างทอง ช่างไม้ บัณฑิตผู้มีปัญญา พร้อมทั้ง พระสังฆมหาเถร อพยพไปทรงตั้งเมืองใหม่ขึ้น ทางทิศตะวันตก ของเมืองเชียงแสน เมืองนี้ตั้งอยู่บนฝั่งของแม่น้ำฝางตอนบน ทรงสถาปนาเมืองนี้ว่า "เมืองชัยปราการ " ซึ่งได้มีซากเมือง ปรากฏอยู่ในปัจจุบันนี้ การที่พระองค์ทรงสร้างเมืองชัยปราการนี้ขึ้นก็เพื่อจะให้เป็นเมืองหน้าด่าน เพื่อป้องกันข้าศึก ที่จะมาทางทิศตะวันตกของเมืองเชียงแสน
     ตลอดสมัยพระเจ้าพรหมมหาราช ครั้นทรงสร้างเมืองชัยปราการ เสร็จเรียบร้อยแล้วประมาณ 3 ปี พระพุทธศักราชล่วงได้ 949 ปี (ตามบันทึกของกรมศิลปากร ว่า พ.ศ.1483) มีพระมหาเถระองค์หนึ่ง ชื่อว่า พระพุทธโฆษาจารย์ เป็นชาติมอญ มีบ้านเดิมอยู่เมืองสะเทิม (พม่าเรียกว่า ตะโถ่ง) อยู่ใกล้กับเมืองเมาะลำเลิง ประเทศพม่า พระพุทธโฆษาจารย์นี้ ท่านได้ออกจากเมืองมอญ ลงสำเภาไปศึกษาพระพุทธศาสนาในประเทศลังกา มีความรู้พระพุทธศาสนา จบพระไตรปิฏกอย่างแตกฉาน ก็ได้กลับมาสู่ประเทศของตน ท่านได้เผยแผ่พระพุทธศาสนา ในประเทศมอญ และประเทศพม่าตามลำดับ แล้วได้เดินทางเข้ามาในเมืองสุโขทัย ลำดับมา จนถึงเมืองโยนก ถึงเมืองเชียงแสน ในสมัยพระเจ้าพังคราช นอกจากพระพุทธโฆษาจารย์ จะนำพุทธศาสนา มาเผยแผ่ในนครโยนกแล้ว ท่านยังได้อัญเชิญพระบรมธาตุของพระพุทธเจ้ามาด้วย 16 องค์ เป็นอัฏฐิหน้าผาก มีขนาดใหญ่ กลาง เล็ก ได้แบ่งพระบรมธาตุขนาดใหญ่ 1 องค์ ขนาดกลาง 2 องค์ และขนาดเล็ก อีก 2 องค์ ถวายแก่พระญาเรือนแก้ว ส่วนที่เหลือได้ถวายแก่พระเจ้าพังคราช พระเจ้าพังคราชได้นำพระโกฏเงิน พระโกฏทอง และพระโกฏแก้ว มารองรับพระบรมธาตุทั้ง 11 องค์นั้น ทรงมอบให้พระเจ้าพรหมมหาราช นำไปประดิษฐาน ก่อพระเจดีย์ไว้ที่บนดอยน้อยหรือจอมกิตติ ซึ่งเป็นดอยที่ พระพุทธเจ้า ทรงประทานเกษาธาตุ บรรจุไว้ก่อนแล้ว ในสมัยโน้น  ราษฎรพากันนับถือพระพุทธศาสนา อย่างเคร่งครัด
    พระเจ้าพรหมราชให้ช่างก่อพระเจดีย์ชึ้น กว้าง 3 วา สูง 6 วา 2 ศอก บนดอยจอมกิตติ พระเจดีย์แล้วเสร็จ ในวันจันทร์ เดือน 6 เพ็ญ พ.ศ.1483 โดยบริบูรณ์ ได้ให้มีการทำบุญฉลองอย่างมโหฬาร ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ถวายมหาทานแก่ประชาราษฎร์ เป็นการมหาปางอันยิ่งใหญ่ พระพุทธศาสนาก็ได้เจริญรุ่งเรืองในเมืองเชียงแสน โดยเฉพาะในสมัยพระเจ้าพรหมมหาราชนี้ ได้เกิดศิลปกิจกรรม ในสร้างพระพุทธรูปด้วยทองสำริด ซึ่งเรียกว่า ศิลปกรรมสมัยเชียงแสน เมื่อพระเจ้าพรหมมหาราช ได้สร้างเจดีย์จอมกิตติสำเร็จเรียบร้อยแล้ว พระองค์เสด็จกลับ นครชัยปราการ พระองค์ได้ให้ช่างก่อพระเจดีย์ขึ้น ณ บนดอยพระธาตุสบฝาง หลังจากได้สร้าง เมืองชัยปราการเสร็จแล้ว 4 ปี พระองค์ได้นำเอาพระบรมธาตุที่ทรงแบ่งไว้ จากการสร้างพระธาตุดอยกิตติ ได้นำมาบรรจุไว้ที่เจดีย์วัดพระธาตุสบฝางนี้ นอกจากนี้ พระองค์ยังได้ให้ช่าง หล่อพระพุทธรูปขึ้นด้วยทองสำริด เป็นจำนวนมาก ได้นำไปถวายไว้ตามวัดที่พระองค์ทรงสร้าง มีวัดส้มสุก วัดเก้าตื้อ วัดป่าแดง วัดดอกบุญนาคเป็นต้น ประชาชนที่นับถือพุทธศาสนา ก็พากันสร้างพระพุทธรูป ตามเจตนาของแต่ละคนเป็นจำนวนหลายองค์ ถวายไว้ที่บนพระธาตุสบฝางนั้น สิ้นรัชกาลพระเจ้าพรหมมหาราช พระเจ้าชัยศิริโอรสขึ้นครองราชย์อพยพผู้คนมากำแพงเพชร ดังข้อความดังต่อไปนี้
 
 บทการแสดงแสงเสียง ในการสร้างเมืองกำแพงเพชร ของอาจารย์สันติ อภัยราช ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดกำแพงเพชร ในงานประเพณีนบพระเล่นเพลง ปี๒๕๕๓ ว่า   ลุพุทธศักราช ๑๔๖๐  ในสมัยพระเจ้าพังคราช กษัตริย์องค์ที่ ๔๓ แห่งราชวงศ์สิงหนวัติ ได้ถูกพวกขอมขับไล่จากเมืองโยนกพันธ์ไปอยู่เวียงสี่ตวง ใกล้แม่น้ำสาย พระมเหสีทรงประสูติโอรส ทรงพระนามว่า พรหมกุมาร     พรหมกุมาร ทรงมีสติปัญญาเฉลี่ยวฉลาด มีความสามารถและโปรดปรานในการสงคราม เก่งกล้าสามารถมิมีผู้ใดเปรียบเทียบได้  เมื่อพรหมกุมารทรงพระชันษาได้ ๑๖ ชันษา  ได้ทรงปรึกษากับพระราชบิดา ในการขับไล่ขอมให้พ้นแผ่นดิน
พระเจ้าพังคราช ( ออกว่าราชการพร้อมพระมเหสีและขุนนางพร้อมพรหมกุมารขณะกำลังว่าราชการ ขุนเดโชทหารเอกขอมก้าวเข้ามาในท้องพระโรง)  
ขุนเดโช ( ท่าทางยะโส) : พระเจ้าพังคราช ปีนี้ ท่านส่งเครื่องราชบรรณการช้ามากข้าขอลงโทษโดยขอให้ท่านส่งเครื่องราชบรรณาการ ให้แก่พระเจ้ากรุงขอม เป็น๒ เท่าของเมื่อปีกลาย มิฉะนั้นกองทัพของเราจะบดขยี้บ้านเมืองของท่านให้ยับเยิน จำไว้
พระเจ้าพังคราช (แสดงอาการเกรงกลัว) ท่านขุนเดโช  ขอความกรุณาจาก พระยาขอมดำ เราส่งบรรณาการ ช้าเพราะ ข้าวยากหมากแพง  ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล จึงเก็บเกี่ยวได้น้อย  ราษฎรเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า  ขอทุเลาไปก่อน โปรดเห็นแก่ข้าเถอะท่านขุนเดโช
ขุนเดโช  ( ขว้างจอกสุราลงพื้นแตกกระจาย) ไม่ได้  ข้าขุนเดโช ในนามพระยาขอม ไม่อนุญาต ข้าให้เวลา สามเดือน ให้ท่านส่งเครื่องบรรณาการ สองเท่าของที่เคยส่งในเวลาสามเดือน  มิฉะนั้น ข้าจะเผาบ้านเมืองให้สิ้น  กวาดต้อนผู้คนไปกรุงขอม เป็นเชลยของเรา จำไว้ ( เดินออกไปอย่างรวดเร็ว)
พรหมกุมาร  ( เลื่อนตัวลงไปกราบถวายบังคมพระราชบิดาและพระราชมารดา)
ข้าแต่พระราชบิดา และพระราชมารดา  ลูกขออนุญาตจากท่านทั้งสอง ที่จะกำราบ   เจ้าขอม ที่กดขี่ข่มเหงเรามาช้านาน ยะโสโอหังมาก ลูกจะจัดการพวกมันเอง
 พระเจ้าพังคราช   (เลื่อนตัวลงมากอดพระราชโอรส)  ลูกยังเยาว์นัก อายุเพียงสิบห้าชันษา เจ้าจะต่อกรกับพระยาขอมที่โหดร้ายได้หรือลูก
พระมเหสี  ( เข้าสวมกอดราชโอรส)  ลูกรักของแม่ เจ้ามั่นใจหรือลูก พระยาขอม ร้ายกาจนัก จะต่อต้านได้หรือแม่เป็นห่วง
พรหมกุมาร ( ลุกขึ้นยืนแล้วประกาศก้องท้องพระโรง)  ข้าขอประกาศว่า ข้าจะขับไล่ขอมไปให้พ้นจากแผ่นดินไทยของเรา และต่อไปนี้ พวกขอมจะไม่สามารถเข้า มาในขอบขัณฑสีมาไทยได้อีก  ข้าสัญญา  เราจะกู้ชาติไทยของเราให้พ้นจากอำนาจของขอม ข้าจะสั่งสอนพวกมัน  
พระเจ้าพังคราช  พ่อกับแม่ ขออวยพรให้เจ้ามีชัยชนะต่อข้าศึก  อริราชศรัตรู จะมิสามารถเอาชนะลูกได้  

พรหมกุมาร (ประชุมทหารหาญ)  พี่น้องทหารหาญของข้า ถึงเวลาแล้วที่พวกเราจะต้องกู้ชาติ ขับไล่พวกขอมออกไปจากแผ่นดินของเรา พวกมันกดขี่เรามานานแล้วถึงเวลาที่พวกเราจะปลดแอก ประกาศความเป็นไทยเสียที  ( ทหารโห่ร้องขึ้นพร้อมกัน)
กองทัพของพระเจ้าพรหม ปะทะกับกองทัพพระยาขอม กองทัพพระยาขอมสู้ไม่ได้ถอยหนีลงไปทางใต้ ล้มตายไปตลอดทาง จนไปติดลำน้ำปิงไม่สามารถหนีไปได้รอความตายอยู่  องค์อัมรินทราธิราช  สงสารเหล่ามนุษย์  เกรงจะสิ้นเผ่าพันธุ์ จึงตรัสแก่พระวิษณุกรรม ให้หาทางช่วย ไม่ให้ฆ่าฟันกันต่อไป
พระอินทร์  ท่านพระวิษณุกรรมเทพเจ้าแห่งช่างผู้ประเสริฐ  มนุษย์สองเหล่าเข่นฆ่ากัน
ขณะนี้ฝ่ายหนึ่งติดลำน้ำปิงหนีไปไม่ได้แล้ว ท่านจงเนรมิตรกำแพงเมืองขวางกั้นคนสองเผ่าพันธุ์ไว้  สงครามจะได้สิ้นสุด จงลงมือเถิด ท่านผู้ยิ่งใหญ่ เทพเจ้าแห่งช่าง   

พระวิษณุกรรม  พระพุทธเจ้าข้า  ............ขออำนาจแห่งความเมตตา ความดีงาม และความสามัคคี จงดลบันดาลให้ เกิดกำแพงศิลาแลงที่สูงใหญ่ กว่ากำแพงแห่งใด ขวางกั้นไว้ ไม่ให้ล้างเผ่าพันธุ์กัน ณ  บัดนี้ โอม.............
   ทันใดเกิดกำแพงเมืองที่ยิ่งใหญ่ ขวางกั้นทหาร  ของพรหมกุมาร  ใม่ให้ฆ่าฟันขอมดำต่อไปได้   พรหมกุมารจึงยกกองทัพกลับ
......ในกาลต่อมา ประชาชนยกย่อง  พรหมกุมารขึ้นครองราชย์ ทรงพระนามว่า  พระเจ้าพรหม  และเป็นพระเจ้าพรหมมหาราชในที่สุด....
......ต่อมาพระเจ้าชัยศิริ โอรสของพระเจ้าพรหม มหาราช  อพยพผู้คนลงมาทางใต้  เห็นกำแพงเนรมิตยิ่งใหญ่  แผ่นดินอุดมสมบูรณ์  มีลำน้ำปิงไหลผ่านจึงหยุดพัก ณ ที่แห่งนั้น
พระเจ้าชัยศิริ    ชัยภูมิแห่งนี้ เหมาะสม นัก ถ้าเราจะตั้งเมืองใหม่ขึ้นที่นี้  จะเหมาะสมสักเพียงใด
...............ทันใดมีชีผ้าขาวท่านหนึ่งปรากฏตังขึ้น  แล้วกล่าวอย่างก้องกังวานว่า
ชีผ้าขาว  ท่านมหาบพิตร  แผ่นดิน ณแห่ง นี้ เป็นแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์นัก อุดมสมบูรณ์  กำแพงเมืองแข็งแกร่งประดุจเพชร   เกิดขึ้นจากอำนาจแห่งพระวิษณุกรรม   ถ้าท่านสถาปนา เมืองขึ้นสถานที่ แห่งนี้ จะเป็นมหานครที่ยิ่งใหญ่ จะไม่มีข้าศึกใดมาทำลายเมืองได้  .....ขอจงทรงพระเจริญท่านมหาบพิตร
พระเจ้าชัยศิริ   (ประกาศสถาปนาเมืองกำแพงเพชรต่อหน้าทหารหาญ)
แผ่นดินแห่งนี้  มีชัยภูมิ เหมาะสม   น้ำท่าอุดมสมบูรณ์ ที่สำคัญที่สุด มีกำ แพงเมืองที่ยิ่งใหญ่ แข็งแกร่งประดุจเพชร จึงขอ สถาปนาเมืองแห่งนี้  เป็นเมืองสำคัญ ให้มีนามว่า
เมืองกำแพงเพชร  ขอให้เมืองกำแพงเพชร รุ่งเรืองและยิ่งใหญ่ไปนิจนิรันดร์..........

                                                    สันติ อภัยราช

การเทียบระดับทางการศึกษา มิติใหม่ของคนมีอาชีพที่มั่นคง

       มีบุคคลจำนวนมาก ที่ประสบความสำเร็จในชีวิต การทำงาน แต่ไม่มีโอกาสได้ศึกษาเมื่อวัยเด็ก ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน
สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย  หรือ กศน. ได้มีโครงการพิเศษ สำหรับผู้มีความรู้ มีประสบการณ์ และมีอาชีพที่มั่นคงเพื่อเทียบระดับการศึกษาโดยไม่ต้องมาเรียนประจำ โดยเทียบให้ในระดับ ประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนปลาย
กศน. เปิดโอกาสให้ผู้มีความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ และคุณธรรม จริยธรรม ได้รับการรับรองคุณวุฒิทางการศึกษาและมีหลักฐานการศึกษาเพื่อใช้ประโยชน์ในการประกอบอาชีพและแสดงฐานะในสังคม หรือศึกษาต่อ ตลอดจนสร้างแรงจูงใจ ให้บุคคลทั่วไปที่ มีความกระตือรือร้นในการแสวงหาความรู้ เพิ่มทักษะและสั่งสมประสบการณ์ อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต
กศน. จะประเมิน ๒ มิติ คือ
๑.   ประเมินความรู้ความคิดโดยการทดสอบความสามารถ ในการสื่อสาร การคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์และตัดสิน รู้จักแสวงหาความรู้จากเทคโนโลยี  การดูแลสุขภาพกายและสุขภาพจิตของตนเอง  ความเป็นไทย  ความเป็นสากล และการเป็นพลเมืองดี  มีความรู้ในเรื่องทรัพยากร สิ่งแวดล้อมและการดำรงชีพ
๒.   ประเมินประสบการณ์โดยการสัมภาษณ์ ประกอบการพิจารณาแฟ้มประมวลประสบการณ์ โดยนำเสนอผลงาน ในด้านการพัฒนาอาชีพ ด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต ด้านการพัฒนาสังคมและชุมชน
     คุณสมบัติของผู้สมัครเข้ารับการประเมิน
๑.   มีสัญชาติไทย หรือเป็นบุคคลที่เข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมาย
๒.   มีภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่ประจำ ในเขตบริการเทียบรับการศึกษาของสถานศึกษา
๓.   ไม่เป็นนักเรียนหรือนักศึกษาซึ่งกำลังศึกษาในสถานศึกษาทั้งในระบบและนอกระบบโรงเรียน
๔.   มีพื้นความรู้ที่ต่ำกว่าระดับที่ประสงค์จะขอเทียบระดับ
สำหรับที่จังหวัดกำแพงเพชร อำเภอเมือง มีผู้เข้าสอบเทียบความรู้  ปีการศึกษา ๒๕๕๓ จำนวน ๑๔ ท่าน คือระดับประถมศึกษา ๔ท่าน ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ๔ ท่าน  ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ๕ท่าน แต่ละท่าน ล้วนมีประสบการณ์ที่หลากหลาย เป็นผุ้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตแล้วทั้งสิ้น รายการโทรทัศน์วัฒนธรรม จดหมายเหตุวัฒนธรรมกำแพงเพชร และสภาวัฒนธรรมจังหวัดกำแพงเพชร ขอปรบมือให้ผู้เข้ารับการประเมินเทียบระดับการศึกษาทุกคน ที่ใฝ่รู้ใฝ่เรียนอย่างจริงจัง และชื่นชมกับกศน.อำเภอเมืองกำแพงเพชร ที่มีวิสัยทัศน์อันกว้างไกล ในการประเมินในครั้งนี้ ขอขอบคุณ
                                                                        
รายชื่อผู้เข้าประเมินระดับประถมศึกษา
              ๑. นางณัฎฐา สนิทมาก
              ๒. นายสุรพล  ไชยฤกษ์
              ๓. นายประเสริฐ คำจริง
              ๔. นางกนกวรรณ ทับทวี
ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น

              ๑. นานอนุชาติ ถีรกมลชัย
               ๒. นายอนันต์ ศุภกิจเจริญ
               ๓. นายสีกัน   วังคีรี
               ๔. นายปัญญา ศรีลารักษ์
ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
               ๑. นางสาวเสาวณีย์   ควรสมบัติ
               ๒. นางศุภยา  ถีรกมลชัย
              ๓. นางเบญจมาศ สุวรรณชาติ
               ๔. ดาบตำรวจอนุภาส ภู่อ่อน
               ๕. นางสาวนาถชนก ธิศาเวช
                                        สันติ อภัยราช

๑.นางสาวชญาภัทร์     ศรีไพร              ปวช. ๓  ภักดีพณิชยการและเทคโนโลยี
๒.นางสาวหนึ่งฤดี        ชื่นชอบ            ปวช. ๒ ภักดีพณิชยการและเทคโนโลยี
๓.นางสาวจันจิรา        แซ่กือ               ปวช. ๒ ภักดีพณิชยการและเทคโนโลยี
๔.นางสาวพรชุดา       แซ่โซ้ง              ปวช. ๒ ภักดีพณิชยการและเทคโนโลยี


มัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเทศบาล ๒ ทุ่งสวน
18.  เด็กชายวรชาติ  คงสิบ
19.  เด็กหญิงยุพา  คงพันธ์
20.  เด็กหญิงณิรชา  เอี่ยมพงษ์
21.  เด็กชายอภิสิทธิ์  แจ้งใจดี
22.  เด็กหญิงนัฐมล  แก้วสุวรรณ
23.  เด็กหญิงสุนิสา  พยัคโฆ
24.  เด็กหญิงเจนจิรา  แก้วเมือง
25.  เด็กหญิงน้ำฝน  แซ่ตั้ง
26.  เด็กหญิงศศิพร  โพธิ์มาก
ระดับช่วงชั้นที่ 3 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
27.  เด็กหญิงจุไรรัตน์  เปาสันเที๊ยะ
28.  เด็กหญิงโชติกา  เมธา
29.  เด็กหญิงสุดารัตน์  ดุษดี
30. เด็กหญิงกาญจนา พรมเดื่อ

๑. เด็กหญิงสกุลกาญจน์  ยศนันท์   ศึกษาอยู่ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑/๑
                                            โรงเรียนผดุงปัญญา อำเภอเมือง จังหวัดตาก

โรงเรียนเรืองวิทย์พิทยาคม
   ระดับมัธยมศึกษา  ได้แก่
          ๑. เด็กหญิงกรรณิการ์   คุ้มเหตุ      นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่  ๒
          ๒. นายโยธิน      จีนเพชร      นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่  ๕
          ๓. นางสาวสุพัตรา   ยิ้มบุญเกิด                  นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่  ๕

โรงเรียนทุ่งทรายวิทยา
         ๑. นางสาวศศินภา                 ภูศรีฤทธิ์                     นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่  ๕
         ๒. นายอินทนนท์                  บุญจวง                        นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่  ๕
        ๓. นางสาวศศมล                   หิงไธสง                        นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่  ๕


โรงเรียนนครไตรตรึงษ์  ม.ปลาย
1. นางสาวเพ็ญเพชร  โตโทน
2. นางสาววรรณิสา  หมื่นต่างใจ รายชื่อผู้เข้าร่วมประกวดการพูดระดับมัธยมศึกษา

โรงเรียนเทศบาล 1
1. ด.ญ.ธัญวารัตน์   ปั้นทอง      ชั้น ม.3
2. ด.ญ.เพ็ญศรี      โพธิ์ทอง  ชั้น ม.3
3. ด.ญ.จุฑาทิพย์      วงศ์ศรีลา ชั้น ม.3

โรงเรียนทรัพย์สถิตวิทยา
1. ด.ญ.วนิดา   เดชประเสริฐ   ชั้น ม.3
2. ด.ญ.เกศไพริน  วิวัฒน์      ชั้น ม.3
3. ด.ญ.ศศิวิมล   พยัคฆ์เพท   ชั้น ม.3

โรงเรียนพิไกรวิทยา
 ๑ เด็กหญิงพักตร์พิมล     นาคสวัสดิ์  ม๒
 ๒ นางสาวเจนจิรา         แจ่มแจ้ง   ม๕
 ๓ นายนิรันดร                เกษมี     ม.๕

โรงเรียนโพธิธรรมสุวัฒน์ อำเภอโพทะเล พิจิตร

 ๑. นางสาวภัสนันทร์    เอี่ยมกลั่น   ม.๖
 ๒.นางสาวผกามาศ     นาสถิตย์     ม.๖

โรงเรียนวัดกัลปพฤกษ์
 ๑.เด็กหญิงสุภาวดี  อู่ทอง    ม.๑

-โรงเรียนกำแพงเพชรพิทยาคม
 1. นางสาววัชรินทร์   กสิกรรม   ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 4/1

โรงเรียนวชิรปราการวิทยาคม
1. นางสาวกัญยานี พรมเอี้ยง ม.6/1
2. นางสาวกรรณิกา ปงลังกา ม.5/4
3. นางสาวอัญเชิญ สายศร ม.5/4
4. นางสาวอัญชลี ฉายทองคำ ม. 5/1

โรงเรียนโกสัมพีวิทยา
1.นางสาววรุณยุพา ทองระยศ ม.5
2.นางสาวดลพร สืบมี ม.3
3.นางสาวยลรดี คล่องธัญญกร ม.3

โรงเรียนวัชรวิทยา
1.นายพรพัฒนา ทวีสุข
2.นางสาวสุกัญญา แสนยาเจริญกุล
3.นางสาวอุมาพร สุทธิธรรม
4.นางสาวสิริวรรณ มะนาวหวาน
5.เด็กหญิงสุพรรษา ปกป้อง

 โรงเรียนจงสวัสดิ์เจริญวิทยา
  ชื่อ   ๑ เด็กชายสุทธิวัฒน์   ตาคำชัย                    ป.๓   โรงเรียนจงสวัสดิ์เจริญวิทยา
          ๒ เด็กหญิงณภัทร      กาญจนจันทร์              ป.๓  โรงเรียนจงสวัสดิ์เจริญวิทยา
          ๓.เด็กหญิงชนิดาภา   ระกำมา                      ป.๕  โรงเรียนจงสวัสดิ์เจริญวิทยา
          ๔. เด็กหญิงพชนันทร์  พวงทอง                    ป.๕  โรงเรียนจงสวัสดิ์เจริญวิทยา

โรงเรียนวรนาถวิทยา
          ๑.ด.ญ  สิริรัตน์  ประยูรศรี                           ป.๕   โรงเรียนวรนาถวิทยา
          ๒.ด.ญ  สิริกุล  คำมีสว่าง                            ป.๕    โรงเรียนวรนาถวิทยา
         ๓.ด.ญ  นภาพร  อ่วมสถิตย์                           ป.๕     โรงเรียนวรนาถวิทยา

โรงเรียนอนุบาลกำแพงเพชร
           ๑.เด็กหญิงนภิสรา  ศรีศักดา                       ป.๖ โรงเรียนอนุบาลกำแพงเพชร
           ๒. เด็กหญิงธนวรรณ จันทวงษ์                    ป.๕
           ๓. เด็กหญิงจิราภา  เตปันวงษ์                     ป. ๕
           ๔.เด็กหญิงศุภิสรา   รามสูต                        ป.๕
           ๕. เด็กชายจักรณรงค์  อินพหล                    ป.๖     

โรงเรียนเทศบาล ๒ทุ่งสวน
ระดับช่วงชั้นที่ 2 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
1.  เด็กหญิงลัดดาวัลย์  วิรโชติกุล
2.  เด็กหญิงพัชรี  ศิริกุล  
3.  เด็กหญิงวันวิสา  ทองอยู่
4.  เด็กหญิงฐิติพร  โพธิ์มาก
5.  เด็กหญิงศลิษา  กลิ่นหอม
6.  เด็กชายกะเหวก  ชื่นเกษร
7.  เด็กชายนรวิชญ  วงษ์มาลี
ระดับช่วงชั้นที่ 2 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
8.  เด็กหญิงพัชรินทร์  ภัทรไกร  
9.  เด็กหญิงศศิประภา  แก้วเมือง
10.  เด็กหญิงกัลยกร  อ่วมอุไร
11.  เด็กหญิงฤทัยรัตน์  แสงสี
12.  เด็กหญิงกรองกาญจน์  วงเขียด
13.  เด็กหญิงวรัญญา  นีลี
14.  เด็กหญิงสุดารัตน์  วงษ์หม่น
15.  เด็กหญิงธัญญรัตน์  มะโน
16.  เด็กหญิงสิริรัตน์  คงอรุณ
17.  เด็กชายรุ่งโรจน์ ปั้นเทศ

โรงเรียนเพ็ชรศึกษา
๑ เด็กหญิงเพ็ญศรี   คงเสน     ป.๖
๒.เด็กหญิงพัชราพร  บุญหนัก   ป.๖
๓.เด็กหญิงสโรชา    บูรสุขสวัสดิ์ ป.๖

โรงเรียนเจริญสุขอุดมวิทยา
๑.เด็กหญิงดุษฎี โยธาโคตร  ป. ๖

โรงเรียนบ้านนาบ่อคำ
 ดญ.จิตติมา  วงษ์เอี๊อด  ป.4
  ดญ.พรพิมล  เพ็งวงษ์  ป.4

โรงเรียนสาธิตฯ    
    ๑.  เด็กหญิงชญานิษฐ์  สถิตย์อยู่               ชั้นประถมศึกษาปีที่  ๖

โรงเรียนวัดคูยาง
    ด.ญ  นิภาพร  จงกลรัตน์  ป.6/5

โรงเรียนอนุบาลนครชุม
1. ด.ญ.นิรมล   กงจีน      ชั้น ป.6

โรงเรียนบ้านบ่อแก้ว
1. ด.ญ.พรวิไลย    สุขแสง   ชั้น ป.5
2. ด.ช.กัลติชา  บุคะวัน   ชั้น ป.6

ตารางอบรมโครงการปฏิบัติธรรม  วิปัสสนากรรมฐาน แนวสติปัฏฐานสี่                  
ณ  สำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดกำแพงเพชร  แห่งที่ 2  วัดหนองปลิง  อ.เมือง  จ.กำแพงเพชร                  
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากำแพงเพชร เขต 1                   
รุ่นที่   วัน / เดือน / ปี   โรงเรียน   อำเภอ   จำนวน   หมายเหตุ   โทรศัพท์
1   3-5 พ.ย. 53   บ้านหนองโมก กลุ่มกัลยานิมิตร   คลองขลุง   150   อ.พิรุณ    089-7027353
2   8-10 พ.ย. 53   บ้านเขาสว่างอารมณ์      พรานกระต่าย      150   ผอ.วีระ    089-9611829
3   11-13 พ.ย. 53   บ้านโชคชัยพัฒนา   คลองลาน   150   ผอ.พิภพ     081-0433435
4   15-17 พ.ย. 53   ชุมชนบ้านเขาแก้ว   พรานกระต่าย   150   ผอ.สมเดช   081-8864087
5   18-20 พ.ย. 53   วัดแสงอุทัย   คลองขลุง   150   อ.สรัญพร   088-1463618
6   22-24 พ.ย. 53   คลองขลุงราษฏร์รังสรรค์   คลองขลุง   150   อ.วิรัต   089-8608185
               อ.ดำรง   081-2830081
7   25-27 พ.ย. 53   กลุ่มร.ร.หนองหัววัว   พรานกระต่าย   150   ผอ.ขจรยศ   083-4128512
               อ.ดำรง   081-2830081
8   9-11 ธ.ค. 53   วรรณวัฒน์ศึกษา   คลองลาน   150   ผอ.ดุลยวัฒน์    081-284-7759
9   13-15 ธ.ค. 53   กลุ่มร.ร.เทพนคร   เมืองกำแพงเพชร   150   ผอ.วิโรจน์   084-8122402
10   16-18 ธ.ค. 53   อบจ.กำแพงเพชร   เมืองกำแพงเพชร   150   โรงเรียน   055-716912
11   20-22 ธ.ค. 53   บ้านทุ่งเศรษฐี,โนนม่วง,ทุ่งสวน(45)   เมืองกำแพงเพชร   150   อ.วิเชียร   086-2075607
      อนุบาลเมืองกำแพงเพชร(70)   เมืองกำแพงเพชร      ผอ.มงคล   087-2124075
      วัดพระบรมธาตุ(36)   เมืองกำแพงเพชร      ผอ.อุดม   081-3241915
12   23-25 ธ.ค. 53   กลุ่มร.ร.วชิรปราการ   เมืองกำแพงเพชร   150   ผอ.กิตติศักดิ์   081-9716046
13   27-29 ธ.ค. 53   เรืองวิทย์พิทยาคม   พรานกระต่าย   150   ผอ.นุกูล   081-7861474
      กาญจนศึกษา (65)   เมืองกำแพงเพชร   150   วรีรัตน์   087-7298254
               อ.มะลิ   082-5560556
14   5-7 ม.ค. 54   ปัทมดรุณวิทย์ (50)   เมืองกำแพงเพชร      ผอ.ชุติมัน   081-0465133
      บ้านน้ำโท้ง (31)   เมืองกำแพงเพชร      ผอ.นคร   08(6/9)-9314748
               อ.เพ็ญรำเพย   086-9435635
15   10-12 ม.ค. 54   ผินสหราษฎร์พัฒนา   เมืองกำแพงเพชร   150   ผอ.วิทยา   081-8863468
16   13-15 ม.ค. 54   ผินสหราษฎร์พัฒนา   เมืองกำแพงเพชร   150   ผอ.วิทยา   081-8863468
17   17-19 ม.ค. 54   วังตะเคียนประชานุสรณ์   เมืองกำแพงเพชร   150   ผอ.สานิต   089-8581981
18   20-22 ม.ค. 54   วัชรวิทยา   เมืองกำแพงเพชร   150   ผอ.ศุภชาติ   087-8387677
19   24-26 ม.ค. 54   อนุบาลกำแพงเพชร   เมืองกำแพงเพชร   150   อ.ละมัย   086-2142451
20   27-29 ม.ค. 54   วัชรวิทยา   เมืองกำแพงเพชร   150   ผอ.ศุภชาติ   087-8387677
21   31 ม.ค.-2ก.พ.54   ปางศิลาทองศึกษา   ปางศิลาทอง   150   ผอ.ชาติชาย   085-2705175
22   3-5 ก.พ. 54   ปางศิลาทองศึกษา   ปางศิลาทอง   150   ผอ.ชาติชาย   085-2705175
23   7-9 ก.พ. 54   อนุบาลกำแพงเพชร   เมืองกำแพงเพชร   150   อ.ละมัย   086-2142451
24   17-19 ก.พ. 54   นารีราษฎร์สามัคคี   เมืองกำแพงเพชร   150   รองวิฑูรย์   087-8436561
25   21-23 ก.พ. 54   วชิรปราการวิทยา   เมืองกำแพงเพชร   150   รองปัญญา   083-9522536
26   24-26 ก.พ. 54   วชิรปราการวิทยา   เมืองกำแพงเพชร   150   รองปัญญา   083-9522536
27   10-12 ก.พ. 54   ทรัพย์สถิตวิทยาคาร   เมืองกำแพงเพชร   170   ผอ.กรุณา   086-6993062
28   3-5 มี.ค. 54   สักงามประชาสรรค์   คลองลาน   150   ผอ.นรินทร์   081-2812278
29   7-9 มี.ค. 54   บ้านใหม่ธงชัย   คลองลาน   150   ผอ.ปัญญา   089-9077397
30   10-12 มี.ค. 54   บ้านมอเจริญ   ปางศิลาทอง   150   ผอ.ดิเรก   081-6748037
31   14-16 มี.ค. 54   กลุ่มโรงเรียนอ่างทอง   เมืองกำแพงเพชร   150   ผอ.ประเทือง   081-9629395
      ยางเลียงราษฎร์พัฒนา   เมืองกำแพงเพชร   150   ผอ.คะนอง   089-2690740
32   21-23 มี.ค. 54   กลุ่มร.ร.นครชุม,บ้านเขาน้ำเพชร   เมืองกำแพงเพชร      ผอ.สุชาติ   086-2097408
      ยางเลียงฯ,บ้านปางเรือ   เมืองกำแพงเพชร      ผอ.จินตนา   081-9624173
33   26-28 มี.ค. 54   บ้านคลองน้ำไหลใต้   คลองลาน   150   ผอ.บุญรัตน์   081-7852311
34   30 พ.ค.-1 มิ.ย.54   คลองขลุงราษฏร์รังสรรค์   คลองขลุง   150   ผอ.ธารี   081-9723886
35   2-4 มิ.ย. 54   เทพผดุงศิษย์ศึกษา   คลองขลุง   150   ผอ.อนันต์   055-7810323
36   6-8 มิ.ย. 54   สักงามวิทยา   คลองลาน   150   ผอ.ฐานวัฒน์ เศรษฐีธีรยศ   
37   9-11 มิ.ย. 54   อนุบาลคลองขลุง   คลองขลุง   150   ผอ.สนั่น   089-5650940
38   13-15 มิ.ย. 54   อนุบาลคลองขลุง   คลองขลุง   150   ผอ.สนั่น   089-5650940
39   16-18 มิ.ย. 54   โค้งไผ่วิทยา   ขาณุวรลักษบุรี   150   อ.สุชิน   089-7074428
40   20-22 มิ.ย. 54   โค้งไผ่วิทยา   ขาณุวรลักษบุรี   150   อ.สุชิน   089-7074428
41   23-25 มิ.ย. 54   บ้านเพชรมงคล   ปางศิลาทอง   150   ผอ.สหัส   081-8865560
42   27-29 มิ.ย. 54   บ้านปางตาไว   ปางศิลาทอง   150   ผอ.สุชาติ   084-6606746
43   30 มิ.ย.-2 ก.ค.54   บ้านท่าพุทรา   คลองขลุง   150   ผอ.สุชิน   089-9596799
               อ.นภา   085-0511622
44   4-6 ก.ค. 54   บ้านลำมะโกรก   เมืองกำแพงเพชร   150   ผอ.วิลสันต์   089-2727959
               อ.นภา   085-0511622
45   7-9 ก.ค. 54   โค้งไผ่วิทยา   ขาณุวรลักษบุรี   150   อ.สุชิน   089-7074428
46   11-13 ก.ค. 54   โค้งไผ่วิทยา   ขาณุวรลักษบุรี   150   อ.สุชิน   089-7074428
47   14-16 ก.ค. 54   บ้านชายเคือง   บึงสามัคคี   150   ผอ.กำพล   089-8390290
48   18-20 ก.ค. 54   ระหานวิทยา   บึงสามัคคี   150   ผอ.ชูชีพ   089-8080011
49   21-23 ก.ค. 54   คลองลานพัฒนาจินดาศักดิ์   คลองลาน   150   ผอ.ประทีป   081-6217483
50   25-27 ก.ค. 54   วัดคูยาง   เมืองกำแพงเพชร   150   ผอ.สมปราถ   081-8873751
51   28-30 ก.ค. 54   วัดคูยาง   เมืองกำแพงเพชร   150   ผอ.สมปราถ   081-8873751
52   1-3 ส.ค. 54   อุเบกขาราม   คลองขลุง   150   ผอ.สมศักดิ์   087-2023284
53   4-6 ส.ค. 54   โกสัมพีวิทยา   โกสัมพีนคร   150   ผอ.สุทธิพงษ์   087-8481210
54   8-10 ส.ค. 54   วัดคูยาง   เมืองกำแพงเพชร   150   ผอ.สมปราถ   081-8873751
55   11-13 ส.ค. 54   อุทิศศึกษา   ขาณุวรลักษบุรี   150   ผอ.กัมปนาท   089-7037848
               อ.ละเมียด   089-7035670
56   15-17 ส.ค. 54   เฉลิมพระเกียรติ   เมืองกำแพงเพชร   150   ผอ.สมบัติ   086-2006550
57   18-20 ส.ค. 54   ชุมชนบ้านหนองปลิง   เมืองกำแพงเพชร   150   ผอ.สมศักดิ์   084-5744131
58   22-24 ส.ค. 54   กลุ่มร.ร.คณฑี   เมืองกำแพงเพชร   150   ผอ.สุเทพ   089-5672430
59   25-27 ส.ค. 54   กลุ่มร.ร.ท่าขุนราม-ทรงธรรม   เมืองกำแพงเพชร   150   ผอ.มานพ   081-9720766
60   29-31 ส.ค. 54   บ้านโนนสมอ   เมืองกำแพงเพชร   150   อ.บุศรา   089-4382115
61   1-3 ก.ย. 54   บ้านวังเจ้า   บึงสามัคคี   150   ผอ.ครองชนก   089-5627774
62   5-7 ก.ย. 54   อุทิศศึกษา   ขาณุวรลักษบุรี   150   อ.ละเมียด   089-7035670
63   8-10 ก.ย. 54   บ้านหนองใหญ่   เมืองกำแพงเพชร   150   ผอ.โอกาส   081-9714431
64   12-14 ก.ย. 54   กลุ่มร.ร.สหสามัคคี   เมืองกำแพงเพชร   150   ผอ.วีระ   081-9621445
65   15-17 ก.ย. 54   บ้านวังตะเคียน   เมืองกำแพงเพชร   150   รองบรรพรต   087-1940966

 องค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชร ได้เชิญประชุม จัดทำขัอตกลง ตามโครงการ วิถีธรรม วืถีพุทธสู่เยาวชน ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๔ ระหว่าง 
                องค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชร
                ศูนย์ปฎิบัติธรรมประจำจังหวัดกำแพงเพชรแห่งที่ ๒ วัดหนองปลิง
                สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากำแพงเพชรเขต ๑
                สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากำแพงเพชรเขต ๒
               สภาวัฒนธรรมจังหวัดกำแพงเพชร
ดำเนินโครงการ ระหว่างวันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ ถึง ๑๗ กันยายน ๒๕๕๔ รวม  จำนวน ๖๕ รุ่น ๆ ละ ๑๕๐ คน เข้าค่ายสามวันสองคืน ที่วัดหนองปลิง เยาวชนที่เข้าอบรมจำนวน  รวม ๙,๗๕๐ คน  จำนวนงบประมาณทั้งสิ้น ๓,๐๐๙,๕๐๐ บาท (สามล้านเก้าพันห้าร้อยบาทถ้วน) โดยความเห็นชอบของที่ประชุมข้อตกลง
     


                               

ที่เวทีกลาง งานสารทไทยกล้วยไข่เมืองกำแพง  สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกำแพงเพชร นำโดยนางศรีสมร เทพสุวรรณ วัฒนธรรมจังหวัดกำแพงเพชรและข้าราชการของสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกำแพงเพชรทุกท่าน    ได้เชิญยุวชนจากทุกอำเภอ ทุกโรงเรียนในจังหวัดกำแพงเพชร มานำเสนอการเล่าเรื่องเมืองกำแพง และการแสดงทางวัฒนธรรม ซึ่งได้รับความร่วมมือจากสภาวัฒนธรรมอำเภอทุกอำเภออย่างดียิ่ง
ยุวทูตวัฒนธรรม ทุกคนได้แสดงออกถึงวัฒนธรรมกำแพงเพชร ได้อย่างมีคุณภาพ มีทักษะในการเล่าเรื่องเมืองกำแพงเป็นอย่างดี การแสดงแต่ละกลุ่มแต่ละคณะล้วนให้ความรู้และความเข้าใจในวัฒนธรรม แสดงถึงความเข้าใจและความซึมซับวัฒนธรรม จนเข้าสู่ส่วนลึกของสมองและหัวใจ    ในยุวทูต วัฒนธรรม  ประเพณีที่ ยุวทูตวัฒนธรรมแต่ละคนนำเสนอ ล้วนแต่เป็นวัฒนธรรมอันดีงามของกำแพงเพชรทั้งสิ้น
การให้ยุวชน ได้เรียนรู้ถึงวัฒนธรรมอันดีงามของบ้านเกิดตนเอง ทำให้เขารักในบ้านเมือง หวงแหนในบ้านเมืองของตน เมื่อเติบใหญ่ เขาจะเป็นผู้ใหญ่ที่ทรงคุณภาพ ไม่โกงกิน ไม่ฉ้อราษฎร์บังหลวง อันจะนำให้สังคมไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองในอนาคต เมื่อเยาวชนกลุ่มหนึ่งได้รับการบ่มเพาะ ให้เข้าใจในวัฒนธรรม เขาเหล่านั้นย่อมเปรียบเสมือนทูตทางวัฒนธรรม ที่สามารถส่งต่อให้กับเพื่อน ผู้ปกครองญาติ คนรู้จักซึ่งจะทำให้วัฒนธรรมประเพณีของชาติไทย ได้แพร่หลายไปอย่างกว้างขวาง ด้วยโครงการยุวทูตวัฒนธรรม
การให้เยาวชนได้เรียนรู้ วัฒนธรรมประเพณีของตนเอง และกล้านำเสนอกล้าแสดงออกบนเวที ทำให้ยุวทูตวัฒนธรรมทุกคนได้ทำหน้าที่ของตนเองได้ อย่างน่าพอใจ นับว่าโครงการยุวทูตวัฒนธรรม เป็นโครงการที่ดี สมควรได้รับการชมเชยจากทุกฝ่าย  ที่ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกำแพงเพชร ได้ดำเนินโครงการที่มีคุณภาพ และเกิดประโยชน์ต่อบ้านเมือง
ขอบคุณสภาวัฒนธรรมอำเภอทุกอำเภอ  และสถาบันต่างๆที่ส่งยุวทูตวัฒนธรรมเข้าร่วมโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพ  สภาวัฒนธรรมจังหวัดกำแพงเพชร   รายการโทรทัศน์วัฒนธรรมและ จดหมายเหตุวัฒนธรรมกำแพงเพชร ขอปรบมือให้ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกำแพงเพชร ด้วยความชื่นชม ที่ดำเนินโครงการยุวทูตวัฒนธรรมได้อย่างทรงคุณค่าต่อสังคม

สันติ อภัยราช

เดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๓
   วันอังคารที่ ๒ พฤศจิกายน  ๒๕๕๓   เรื่อง   ประวัติศาสตร์ความเป็นมาของชนชาติไทย
   วันอังคารที่ ๙ พฤศจิกายน  ๒๕๕๓   เรื่อง   มหาราชของชาติไทย ประวัติโดยย่อ ภาพรวม
   วันอังคารที่ ๑๖ พฤศจิกายน  ๒๕๕๓   เรื่อง        พระเจ้าพรหมมหาราช  ( ไปประชุมที่แม่ฮ่องสอน)
   วันอังคารที่ ๒๓ พฤศจิกายน  ๒๕๕๓   เรื่อง    พ่อขุนรามคำแหงมหาราช  และศิลาจารึกหลักที่ ๑
   วันอังคารที่ ๓๐ พฤศจิกายน  ๒๕๕๓   เรื่อง   พญาลิไท กับ ประเพณี นบพระเล่นเพลง และจารึกหลักที่ ๓
เดือนธันวาคม ๒๕๕๓
   วันอังคารที่ ๗   ธันวาคม ๒๕๕๓   เรื่อง   ประวัติความเป็นมาของเมืองกำแพงเพชร
วันอังคารที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๕๓   เรื่อง   ท้าวแสนปม กับพระเจ้าอู่ทอง ปฐมกษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา
วันอังคารที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๕๓        เรื่อง   เจ้าแม่ศรีสุดาจันทร์
วันอังคารที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๕๓       เรื่อง   พระสุริโยทัย วีรสตรีแห่งสังคมไทย
เดือนมกราคม ๒๕๕๔
   วันอังคารที่ ๔ มกราคม ๒๕๕๔   เรื่อง   เสียกรุงครั้งที่ ๑ คนไทยแตกความสามัคคี
   วันอังคารที่ ๑๑ มกราคม ๒๕๕๔   เรื่อง   ประวัติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
   วันอังคารที่ ๑๗ มกราคม ๒๕๕๔   เรื่อง   สงครามยุทธหัตถี ประกาศอิสรภาพ
   วันอังคารที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๕๔   เรื่อง   ประวัติสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๔
   วันอังคารที่ ๑  กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔   เรื่อง    ประวัติและผลงานของศรีปราชญ์
   วันอังคารที่ ๘  กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔   เรื่อง   ประวัติและผลงานของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์
   วันอังคารที่ ๑๕  กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔   เรื่อง   เสียกรุงครั้งที่ ๒ คนไทยแตกความสามัคคี
   วันอังคารที่ ๒๒  กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔   เรื่อง   ประวัติสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
เดือนมีนาคม ๒๕๕๔   
   วันอังคารที่ ๑  มีนาคม  ๒๕๕๔   เรื่อง   ประวัติศาสตร์การกู้ชาติ ของพระเจ้าตากสินมหาราช
   วันอังคารที่ ๘  มีนาคม  ๒๕๕๔   เรื่อง   ก๊กต่างๆ ในประวัติศาสตร์การกู้ชาติไทย
   วันอังคารที่ ๑๕  มีนาคม  ๒๕๕๔   เรื่อง   ประวัติพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
   วันอังคารที่ ๒๒ มีนาคม  ๒๕๕๔   เรื่อง   การสร้างกรุงเทพมหานครเป็นราชธานี
วันอังคารที่ ๒๙  มีนาคม  ๒๕๕๔   เรื่อง   พระราชนิพนธ์ เรื่องรามเกียรติ์


เดือน เมษายน ๒๕๕๔
   วันอังคารที่ ๕ เมษายน ๒๕๕๔   เรื่อง   ประวัติสมเด็จพุฒาจารย์(โต )
วันอังคารที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๕๔   เรื่อง   ประวัติสมเด็จพุฒาจารย์(โต ) ต่อ
วันอังคารที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๕๔   เรื่อง   อัจฉริยภาพสมเด็จพุฒาจารย์(โต)
วันอังคารที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๕๔   เรื่อง   ประวัติพระพุทธเจ้าหลวง
เดือน พฤษภาคม ๒๕๕๔
   วันอังคารที่  ๓  พฤษภาคม ๒๕๕๔      เรื่อง   พระพุทธเจ้าหลวงกับเมืองกำแพงเพชร
วันอังคารที่  ๑๐  พฤษภาคม ๒๕๕๔      เรื่อง   พระพุทธเจ้าหลวงกับเมืองกำแพงเพชร (ต่อ)
วันอังคารที่  ๑๗  พฤษภาคม ๒๕๕๔      เรื่อง   พระพุทธเจ้าหลวงกับเมืองกำแพงเพชร (ต่อ)
วันอังคารที่  ๒๔  พฤษภาคม ๒๕๕๔      เรื่อง   พระพุทธเจ้าหลวงกับเมืองกำแพงเพชร (ต่อ)
วันอังคารที่  ๓๑  พฤษภาคม ๒๕๕๔      เรื่อง   พระพุทธเจ้าหลวงกับเมืองกำแพงเพชร (ต่อ)
เดือน มิถุนายน ๒๕๕๔
   




   

บทการแสดง แสงเสียง ในพิธีเปิดงานลอยกระทงประจำปี ๒๕๕๓  ของเทศบาลเมืองกำแพงเพชร
http://www.sunti-apairach.com/letter/fileupload/18102553/story.doc

เพลงประกอบการแสดง
๑.เพลงนพมาศกัลยา http://www.sunti-apairach.com/letter/fileupload/18102553/nobpramatkunlaya.mp3

๒.เพลงแม่ปิงคือสายโลหิต http://www.sunti-apairach.com/letter/fileupload/18102553/ping_naver.mp3

๓.เพลงอยู่ในดง http://www.sunti-apairach.com/letter/fileupload/18102553/sound1.mp3

๔.เพลงกุหลาบบานเย็นhttp://www.sunti-apairach.com/letter/fileupload/18102553/sound2.mp3

๕.เพลงเจ้าช่อมะปรางปิง http://www.sunti-apairach.com/letter/fileupload/18102553/sound3.mp3

       ประเพณีทอดผ้าป่าแถว ตำบลในเมือง จังหวัดกำแพงเพชร เป็นวันที่พุทธศาสนิกชนถวายเครื่องนุ่งห่ม เครื่องไทยธรรม บูชาพระสงฆ์ ก่อนทำพิธีลอยกระทง ในเมืองกำแพงเพชร
       มีวัดสำคัญ ๓ วัด คือ วัดบาง วัดคูยางและวัดเสด็จ เนื่องจากวัดทั้งสามอยู่ใกล้เคียงกันการทำบุญในวันสำคัญ ชาวเมืองจึงนัดหมายประกอบพิธีทำบุญใหญ่หมุนเวียนไปทั้งสามวัดจะนิมนต์พระภิกษุจากวัดอื่นๆ อีกทั้งสองวัดมาทำพิธีร่วมกัน
       วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ ซึ่งเป็นวันลอยกระทง ตกลงกันทำที่วัดบาง ตำบลในเมือง จังหวัดกำแพงเพชร ในตอนเย็นก่อนลอยกระทง ประชาชนทั้งผู้สูงอายุ หนุ่มสาวและเด็กแต่ละครอบครัว จะนำผ้าสบง จีวร บางครั้งก็เป็นผ้าเช็ดตัวสีเหลือง เครื่องไทยธรรม มีธูปเทียน หอมกระเทียม พริกแห้ง น้ำตาลทราย ไม้ขีดไฟ บรรจุไว้ในชลอม กระบุง  หรือภาชนะอื่นๆ เปลี่ยนไปตามสมัย ไปรวมกันที่สถานที่นัดหมายคือวัดบาง กรรมการวัดบาง จะเตรียมกิ่งไม้สด พร้อมใบไม้ ปักแสดงตำแหน่งไว้เป็นแถวๆ ราวกับเป็นป่า ชาวบ้านจะแขวนผ้าไว้บนกิ่งไม้ จึงเรียกว่า ผ้าป่าแถว  เมื่อได้ที่ปักผ้าป่าแถวแล้วเจ้าของผ้าป่าไปจับฉลากชื่อของพระสงฆ์หรือหมายเลขของพระสงฆ์มาติดไว้ที่ผ้าป่า แล้วปูเสื่อนั่งรอที่ผ้าป่าของตน พระสงฆ์ก็จะมาส่องไฟหาชื่อของท่านหรือหมายเลขของท่าน ซึ่งจะเป็นที่สนุกสนาน คอยให้กำลังใจแก่พระสงฆ์ เพื่อหาผ้าป่าที่ท่านจับฉลากได้ เมื่อพระสงฆ์พบผ้าป่าที่ท่านจับฉลากได้ ท่านก็จะทำพิธีชักผ้าป่าพร้อมกับสวดมนต์ให้พรแก่เจ้าของผ้าป่าเป็นเสร็จพิธี  
        ประชาชนจะพากันไปชมมหรสพ เช่น ลิเก หนังกลางแปลง หรือเพลงพื้นบ้าน แล้วจึงไปลอยกระทงที่ท่าน้ำวัดบาง  
        การทอดผ้าป่าแถวของตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชรนับว่าเป็นเอกลักษณ์เฉพาะท้องถิ่นที่เกิดจากความศรัทธาของประชาชน ซึ่งเตรียมผ้าป่าแถวมาทอดกันโดยมิได้นัดหมายหรือเกณฑ์กันมา นับว่าการทอดผ้าป่าแถวเป็นประเพณีของประชาชนชาวกำแพงเพชรอย่างแท้จริง
และเป็นหนึ่งเดียวในโลก ตามที่มีการสำรวจกันมา
         ในปัจจุบัน ส่วนราชการจังหวัดกำแพงเพชร ได้นำการทอดผ้าป่าแถวมาจัดกันในเทศกาลต่างๆรวมถึงงานประเพณีของจังหวัดด้วย  อาทิงานนบพระเล่นเพลง งานสารทไทยกล้วยไข่เมืองกำแพง
ซึ่งเป็นการทำการทอดผ้าป่าแถว ในระบบราชการ ที่ประชาชนทั่วไปมิได้มาร่วมงานแต่ประการใดเพียงแต่ได้ บอกกล่าวเชิญชวนหน่วยราชการ มาเป็นเจ้าภาพ มิได้ มาตามธรรมชาติหรือศรัทธา ตามแบบของประชาชน ในการทอดผ้าป่าแถวที่วัดบาง ซึ่งไม่ต้องบอกกล่าวหรือเชื้อเชิญ ไม่มีเจ้าภาพ ไม่ต้องจัดตั้ง ประชาชน จะเข้ามาทอดผ้าป่าแถวอย่างเป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง
        ผ้าป่าแถว จึงเป็นวัฒนธรรมสูงค่าของเมืองกำแพงเพชร ที่ควรดำรงรักษาไว้ให้เป็นธรรมชาติและศรัทธาของประชาชนอย่างแท้จริง

                                                             สันติ อภัยราช

บทการแสดง แสงเสียง ในพิธีเปิดงานลอยกระทงประจำปี ๒๕๕๓  ของเทศบาลเมืองกำแพงเพชร
http://www.sunti-apairach.com/letter/fileupload/18102553/story.doc

เพลงประกอบการแสดง
๑.เพลงนพมาศกัลยา http://www.sunti-apairach.com/letter/fileupload/18102553/nobpramatkunlaya.mp3

๒.เพลงแม่ปิงคือสายโลหิต http://www.sunti-apairach.com/letter/fileupload/18102553/ping_naver.mp3

๓.เพลงอยู่ในดง http://www.sunti-apairach.com/letter/fileupload/18102553/sound1.mp3

๔.เพลงกุหลาบบานเย็นhttp://www.sunti-apairach.com/letter/fileupload/18102553/sound2.mp3

๕.เพลงเจ้าช่อมะปรางปิง http://www.sunti-apairach.com/letter/fileupload/18102553/sound3.mp3

ฉากที่ ๑ พระร่วงเจ้าสถาปนาประเพณีลอยกระทง



ฉากที่ ๒ ประเพณีลอยกระทงที่กำแพงเพชร มีทอดผ้าป่าแถว แสดงพื้นบ้าน และลอยกระทง
ในวันเพ็ญเดือนสิบสอง ในปีนี้ตรงกับวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๓



เชิญชมพิธีเปิดงานลอยกระทงจังหวัดกำแพงเพชรที่ยิ่งใหญ่ตระการตาด้วยระบบแสง สี เสียง
เรื่อง ประทีปแก้ว ธาราขวัญ สวรรค์แห่งชากังราว ในวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน  ๒๕๕๓ เวลา ๒๐.๓๐ น.
หน้าลานอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย

เมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๕๓ คุณศรีรัตน์ วงษ์วิรัตน์ นักวิชาการศึกษาเทศบาลเมืองกำแพงเพชร คุณ อธิการ ยามา ผู้อำนวยการกองการศึกษาเทศบาลเมืองกำแพงเพชร มาเยี่ยมที่บ้านอภัยราช  ปรึกษาเรื่องพิธีเปิดงานลอยกระทงให้ยิงใหญ่ตระการตากว่าทุกๆปี
โดยมอบหมาย และ เชิญชวนให้ช่วยดำเนินการจัดการแสดง มินิ แสงเสียงเปิดงานลอยกระทงให้เทศบาล
   เพื่อบ้านเมืองของเรา รับทำให้ด้วยความเต็มใจ และจะทำให้ดีที่สุด  แต่ถ้าจะให้ไปขอทำด้วยตนเอง ไม่เคยทำ เพราะเรามิใช่ผู้รับเหมา แต่ถ้าจะให้ช่วยก็ขอมายินดีช่วยเหลือทุกงาน
   ติดต่อ  อาจารย์ชนินทร์ อ้นอารี ฝ่ายเทคนิคแสง เสียง ที่วิทยาลัยเทคนิคกำแพงเพชร  ท่านยินดีอย่างยิ่ง ที่ได้ทำงานร่วมกันเพื่อบ้านเมืองของเรา อีกครั้ง  
 ติดต่ออาจารย์สุปราณี แสงทอง โรงเรียนวชิรปราการวิทยาคม เล่าวัตถุประสงค์ และเข้าโครงเรื่องให้ฟัง ท่านยินดีช่วยเหลือทั้งหมด ประสานงานทีมงานและผู้กำกับให้ น้องสาวสุปราณี แสงทอง ถือว่าสนิทสนมกันมากที่สุดเมือ่ทำงานร่วมกันที่วชิรปราการวิทยาคม ขอให้ตั้งชื่อเรื่องด้วย เธอตั้งว่า ประทีปแก้ว ธาราขวัญ กำลังชั่งใจระหว่างธาราขวัญ กับธาราสวรรค์  ชื่อไหนติดปากง่ายและความหมายดีกว่ากัน ใครอ่านเจอแนะนำด้วยจะขอบคุณยิ่ง ขอ          ตัวแสดง เป็นพระร่วงเจ้า   นางนพมาศ   เสนา  นางงามถือกระทงและโคมไฟ  ๔ คน นางรำในเพลงศรัทธารำลึก หกถึงแปดคน ประชาชน ทอดผ้าป่าแถว สิบคน พระ แสดง ๕ รูป (ยังไม่ได้เขียนบทแค่วางโครงเรื่องไว้)
        ติดต่ออาจารย์นิชรา พรมประไพ ยอดฝีมืออีกท่าน จากโรงเรียนนครไตรตรึงษ์ ขอนักแสดงเพลง รำโทน รำชี้บท เป็นเยาวชนประมาณ ๑๓ คน  ท่านยินดีและเต็มใจอย่างยิ่ง จะซ้อมให้สวยที่สุด

              ติดต่ออาจารย์ตั้ง ทำกระทงขนาด สามเมตร ให้นางนพมาศเข้าไปนั่งได้ ถอดกลีบได้ และดัดแปลงเป็นกระทงสำหรับเปิดงานได้ โดย ปักเทียนขนาดใหญ่ไว้กลาง เพื่อให้ประธานจุดเทียนเปิดงาน มีไฟวิ่ง และพลุน้อยสี   ประกอบพิธีเปิด เพื่อให้ยิ่งใหญ่อลังการ ไม่เหมือนใครเรียบร้อยดีทุกท่านให้ความร่วมมืออย่างดียิ่ง

            ยังคิดไม่ตกว่าจะจบด้วยเพลง  คิงออฟคิง หรือไม่อยากให้พ่อเหนื่อยดี  ต้องปรึกษาอาจารย์จ่า ธิติมา มหบุญพาชัย แห่งภักดีพณิชการอีกครั้ง  คิดว่าไม่มีปัญหาเพราะท่าน มีอุดมการในการรับใช้บ้านเมืองเช่นเดียวกัน

              พบคุณอธิคม สือพัทธิมา ร้านบางกอก ๙๙ เฟอร์นิเจอร์ ว่าจะใช้ เพลง ศรัทธารำลึก สำหรับรำ เพลง กระทงของใคร เป็นเสียงประกอบ และจบฟินาเร่ ด้วยเพลง แม่ปิงคือสายโลหิต ท่านอนุญาตให้ใช้เพลงของท่านได้ ขอบคุณมาก

         เหลือเขียนบทให้ดีที่สุด  ต้องเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทุกอย่างลงตัวหมดแล้ว เหลือเราต้องทำให้ดีที่ ในเวลาที่ใช้แสดง ประมาณ
 ๓๐ นาที บวกลบ ๕ นาที ให้เป็นการเปิดงานที่เป็นไทย และประทับใจผู้ชมอย่างที่สุด