๑. กิจกรรมการเสริมสร้างวัฒนธรรมประชาธิปไตย
   ๑.๑ การประกวดกล่าวสุนทรพจน์
      รางวัลยอดเยี่ยม       ได้แก่ นายศราวุฒิ   ไชยอิน        จังหวัดเชียงใหม่
      รางวัลดีเด่น        ได้แก่ นายอธิปัตย์    ศรีเปรม        จังหวัดนครสวรรค์
      รางวัลสร้างสรรค์    ได้แก่ นางสาวกาญจนา  มีศักดิ์       จังหวัดเพชรบูรณ์
      รางวัลชมเชย       ได้แก่ นางสาวยลดา   ฉำฉา        จังหวัดอุตรดิตถ์
      รางวัลชมเชย       ได้แก่ นางสาวเมวิตา  สาอินต๊ะ       จังหวัดเชียงราย
   ๑.๒ การประกวดวาดภาพ
      รางวัลยอดเยี่ยม       ได้แก่ เด็กหญิงอาทิตยา  ยะมูล       จังหวัดเพชรบูรณ์
      รางวัลดีเด่น        ได้แก่  เด็กหญิงวราภรณ์ วงศ์ถนอม    จังหวัดนครสวรรค์   
      รางวัลสร้างสรรค์    ได้แก่ เด็กหญิงศุภนิดา  อินต๊ะ      จังหวัดตาก   
รางวัลชมเชย      ได้แก่ เด็กหญิงนพมล  ภานุ      จังหวัดพิษณุโลก
      รางวัลชมเชย       ได้แก่ เด็กหญิงคำบัว         จังหวัดเชียงใหม่

   ๑.๓ การประกวดเรียงความ
รางวัลยอดเยี่ยม       ได้แก่ เด็กหญิงณัฐธิดา   น่วมสุข      จังหวัดอุทัยธานี
      รางวัลดีเด่น        ได้แก่ เด็กหญิงเพ็ญกนก           จังหวัดน่าน
      รางวัลสร้างสรรค์    ได้แก่ เด็กหญิงนราธิป จินดาทิพย์      จังหวัดแพร่
รางวัลชมเชย       ได้แก่ นางสาวรุจิดา  สระมนชัย      จังหวัดเพชรบูรณ์
รางวัลชมเชย       ได้แก่ เด็กหญิงศกลุวรรณ  มนตรีภิวัช   จังหวัดพิษณุโลก

๒. กิจกรรมการเสริมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย
๒.๑ การประกวดกล่าวสุนทรพจน์
รางวัลยอดเยี่ยม       ได้แก่ นางสาวบุญธิตา  สุริยะ      จังหวัดแม่ฮ่องสอน
      รางวัลดีเด่น        ได้แก่ นายวาจาสิทธิ์  พรหมทอง      จังหวัดแพร่
      รางวัลสร้างสรรค์    ได้แก่ นางสาวพชรพลอย อินทสุวรรณ   จังหวัดนครสวรรค์
      รางวัลชมเชย       ได้แก่ นางสาววริสยา  ทองแร่      จังหวัดพิจิตร
      รางวัลชมเชย       ได้แก่ นางสาวชัชวดี  เงินงิ้วราย      จังหวัดพะเยา



-๒-

๓. กิจกรรมไทยโปร่งใส ไทยเข้มแข็ง
   ๓.๑ การประกวดเรียงความ
       - ระดับประถมศึกษา
รางวัลยอดเยี่ยม       ได้แก่ เด็กชายชัยมงคล  เกิดช้า      จังหวัดสุโขทัย
      รางวัลดีเด่น        ได้แก่  เด็กหญิงณัฐนรีย์ ศราธิโรจน์    จังหวัดน่าน
      รางวัลสร้างสรรค์    ได้แก่ เด็กหญิงภักษร  ไพรปรีเปรม    จังหวัดแม่ฮ่องสอน
รางวัลชมเชย       ได้แก่ เด็กหญิงนภิสรา  ศรีศักดา      จังหวัดกำแพงเพชร
      รางวัลชมเชย       ได้แก่       -
       - ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
รางวัลยอดเยี่ยม       ได้แก่ เด็กหญิงอารียา  น่วมสุข      จังหวัดอุทัยธานี
      รางวัลดีเด่น        ได้แก่  นางสาวสุนารี  แต้ว๊าน      จังหวัดตาก
      รางวัลสร้างสรรค์    ได้แก่ เด็กชายอนุพงษ์  สีฟ้า      จังหวัดแพร่
รางวัลชมเชย       ได้แก่ เด็กหญิงศุภนิดา  มนตรีภิวัช   จังหวัดพิษณุโลก 
      รางวัลชมเชย       ได้แก่ เด็กหญิงศุภวิช ดวงภูเนตร      จังหวัดน่าน   

   ๓.๒ การประกวดกล่าวสุนทรพจน์
       - ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
รางวัลยอดเยี่ยม       ได้แก่ นางสาวส่องสกุล  สิทธิแก้ว   จังหวัดนครสวรรค์
      รางวัลดีเด่น        ได้แก่ นางสาวชญาภัทร  ศรีไพร      จังหวัดกำแพงเพชร
      รางวัลสร้างสรรค์    ได้แก่ นางสาวอาทิตยาภา พณิชศักดิ์กุล
      รางวัลชมเชย      ได้แก่ นายสุทธิชัย  มาติ๊บ      จังหวัดเชียงราย
      รางวัลชมเชย      ได้แก่ นางสาวสัตยา  วรรธนสิน      จังหวัดเชียงใหม่

          - ระดับอุดมศึกษา
รางวัลยอดเยี่ยม       ได้แก่ นางสาวปัทมาวดี  เอี่ยมคำ      จังหวัดแม่ฮ่องสอน
      รางวัลดีเด่น        ได้แก่ นายพุทธิไพโรจน์  โชติกุลตรีปัญญา   
      รางวัลสร้างสรรค์    ได้แก่ นางสาวปิยะมาศ  รวงทอง      จังหวัดอุทัยธานี
      รางวัลชมเชย      ได้แก่  นางสาวนิรมล  สุวรรณล้อม   จังหวัดน่าน
      รางวัลชมเชย      ได้แก่  นางสาวปนัดดา   เดชะกุล      จังหวัดลำปาง




-๓-

     -ระดับประชาชน
รางวัลยอดเยี่ยม       ได้แก่    นางสาวอาทร  อุดมศรี      จังหวัดเชียงใหม่
      รางวัลดีเด่น        ได้แก่   นายธีรอมร   ปัญญารังศรี   จังหวัดน่าน
      รางวัลสร้างสรรค์    ได้แก่   นางรัชนีย์   ศรีศักดา      จังหวัดกำแพงเพชร
      รางวัลชมเชย       ได้แก่      -
      รางวัลชมเชย       ได้แก่      -

๓.๓ การประกวดแต่งเพลงพื้นบ้านประกอบชุดการแสดง
รางวัลยอดเยี่ยม    ได้แก่        - 
รางวัลดีเด่น     ได้แก่    จังหวัดกำแพงเพชร  (คณะลำตัดโรงเรียนอนุบาลกำแพงเพชร)
      รางวัลสร้างสรรค์ ได้แก่    จังหวัดนครสวรรค์
      รางวัลชมเชย    ได้แก่    จังหวัดพิษณุโลก
      รางวัลชมเชย    ได้แก่    จังหวัดเพชรบูรณ์

ประชุมการ คัดเลือกนักเรียนและโรงเรียนจริยธรรมดีเด่นที่เขตพื้นที่การศึกษา เพื่อรับทุนจากธนาคารออมสิน  เงินมาก โรงเรียนรางวัล ๑๐๐.๐๐๐ บาท  นักเรียนคนละ ๔๐.๐๐๐ บาท มีผู้ส่งเข้ามาน้อย โรงเรียนมีโรงเรียนเดียว คือโกสัมพีวิทยา นักเรียนมี ๓โรงเรียน คือโกสัมพีวิทยา  กำแพงเพชรพิทยาคม วัชรวิทยา
ผลคือ โกสัมพีวิทยา ได้รับการคัดเลือก นักเรียน คือ วัชรวิทยา
   นักเรียนโรงเรียนกำแพงเพชร จำนวน ๖ คน มาสัมภาษณ์ เรื่องการแสดงพื้นบ้านจังหวัดกำแพงเพชร ให้หนังสือไป    สอนวิธีค้นตว้าทางอินเตอร์เนต ที่เราทำไว้
   นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎกำแพงเพชร มาปรึกษาเรื่องการออกค่ายอาสาพัฒนา ให้เงินไปทำงาน ๕๐๐ บาท
แคท ชญาภัทร์ ศรีไพร โทรมาบอกว่า ได้รับรางวัลที่ ๒ สุนทรพจน์ มัธยมศึกษาตอนปลายระดับภาค
เงินรางวัล ๕,๐๐๐ บาทยินดีด้วย เป็นไปตามคาดหมาย
 อาจารย์รัชนี ศรีศักดา โทรมารายงานว่า ได้รับรางวัลที่ ๓ ประเภทประชาชน ระดับภาค ได้เงินรางวัล
 ๓,๐๐๐ บาท
โทรไปหา ภัณทิรา รามสูต เจ้าหน้าที่ ที่รับผิดชอบ พาไปประกวดรายงานเพิ่มเติมว่า เด็กหญิงนภิสรา ศรีศักดา ได้รับ รางวัลชมเชย เรียงความระดับประถมศึกษา เงินรางวัล ๑,๐๐๐ บาท และครูลมัย มีขันหมาก ส่งเพลงพื้นบ้านเข้าประกวด ได้รับรางวัล ที่ ๒ ระดับภาค เงินรางวัล ๒๐,๐๐๐ บาท
ตามคาดหมาย
กลางคืนจัดรายการวิทยุ ที่กองทัพภาค ๓ รายการรักชาติ รักถิ่น รักแผ่นดิน เมืองกำแพง วันนี้สนทนาเรื่อง บทละครในการแสดงแสงเสียง

                                                     สันติ อภัยราช

เพลงเรือประกอบการแสดงแสงเสียง
เรื่องพระบารมีมากล้น เสด็จประพาสต้น กำแพงเชร
๒๕-๒๗ สิหาคม ๒๕๕๓ ณ กลางลำน้ำปิง หน้าลานอนุรักษ์ฯ
ประพันธ์ โดย ครูลมัย มีขันหมาก
******************************************************************************
เอ่อ เออ เอิ๊งเง๊ย เอ้าฮ้าไฮ้ เชี๊ยบ เชี๊ยบ
พี่พายเรือ ลอยลำ มาตามสายน้ำไหล มองเห็นหน้าทรามวัย   (ฮ้าไฮ้)  พิจารณา
พี่เป็นหนุ่มปากคลอง ล่องเรือมาหารัก ได้มาพบประสบพักตร์ (ฮ้าไฮ้)  ประจักษ์ตา
มองผ่านแสงจันทร์นวล ช่างเย้ายวลตราตรึง ให้แสนสุดคำนึง (ฮ้าไฮ้)  ซึ้งอุรา
เมื่อพิศดูนวลนาง แสนสำอางโสภี จะนั่งเรือไปกับพี่ (ฮ้าไฮ้)  เชิญมา
เชิญน้องมานั่งเรือ พี่ปูเสื่อเอาไว้ให้ พี่จะได้ช่วยพาย (ฮ้าไฮ้)  ให้ขวัญตา
พายของพี่สวยหรู เป็นไม้ประดู่สีแดง ด้ามพายหรือก็แข็ง (ฮ้าไฮ้)  แกร่งกล้า
เรือของพี่ก็ไม่โคลง ขอเชิญน้องลงมานั่ง พี่จะคอยระวัง (ฮ้าไฮ้)  ลำนาวา
จะไม่ให้ยุงริ้นไร มาตอมไต่ตัวน้อง พี่จะคอยกอดตระกอง (ฮ้าไฮ้)  กานดา
(ลง) พี่ขอเชิญน้องสาว..ได้โปรดก้าวขึ้นมา..ไปล่องลำนาวา กับพี่นี้เอย
******************************************************************************
เอ่อ เออ เอิ๊งเงย..เอ้าฮ้าไฮ้ เชี๊ยบ ๆ  หน่อย นอย น๊อย นอย น๊อย นอย นอย  นอย  หน่อย นอย น๊อย นอย น๊อย นอย นอย นอย เอ้าฮ้าไฮ้ เชี๊ยบ ๆ
   โอ้แม่งามเหลือพี่พายเรือ ลอยล่อง อย่ามัวแต่จ้องเอาแต่มองใบหน้า
(พร้อม) จะรักกันหรือไม่รัก ก็อย่ามัวชักมัวช้า โปรดจงตอบกันมาไวๆ เอย
จะรักกันหรือไม่รัก ก็อย่ามัวชักมัวช้า โปรดจงตอบกันมาไวๆ เอย
(พร้อม) จะรักกันหรือไม่รัก ก็อย่ามัวชักมัวช้า โปรดจงตอบกันมาไวๆ เอย
******************************************************************************
เอ่อ เออ เอิ๊งเงย..เอ้าฮ้าไฮ้ เชี๊ยบ ๆ 
ก็นี่แหล่ะหนอคงใช่  ที่เรียกผู้ชายพายเรือพูดจาน่าเบื่อ (ฮ้าไฮ้)  ไม่เข้าท่า
มาแจกรักกันริมตลิ่ง เจอะผู้หญิงแล้วเป็นไม่ได้ หัวเรือนี่เป็นต้องส่าย (ฮ้าไฮ้)   เหมือนเรด้า
มาชวนน้องไปนั่งเรือ บอกว่าปูเสื่อเอาไว้ให้  แล้วจะช่วยกันพาย (ฮ้าไฮ้)  ให้น้องยา
เรือของพี่ ลำนี้ ไม่เห็นมีดีที่ตรงไหน  ลำก็เล็ก ไม่เห็นจะใหญ่  (ฮ้าไฮ้)  ไม่เข้าท่า
พ่อคนพายก็คุยโว แหมอยากจะโชว์ของดี บอกว่าพายของพี่   (ฮ้าไฮ้)  นี้แข็งกล้า
พ่อคนถือท้ายก็ไม่เป็นท่า คนพายข้างหน้าก็ไม่แข็ง หัวเรืองี้ห้อยต่องแต่ง (ฮ้าไฮ้)  เหมือนเมายา
อย่ามาทำปากจัด ประเดี๋ยวแม่ซัด ด้วยท่อนพาย อยากจะโดนก็เข้ามาใกล้ (ฮ้าไฮ้)  เข้ามา
(ลง) อย่ามาทำพูดดี  ไม่เห็นจะมีน้ำยา...เดี๋ยวเอาด้ามพายยันหน้า เสียเลยเอย..(ซ้ำ)

สัมมนา ภูมิปัญญา วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ เอกลักษณ์ และความเป็นอยู่ของชาวกะเหรี่ยง บ้านคลองน้ำไหล อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร ที่หอประชุม โรงเรียนรอดนิลวิทยา

  คุณศรีสมร เทพสุววรณ์ วัฒนธรรม จังหวัดกำแพงเพชร กล่าวรายงาน เปิดโดย นายสำราญ ศรีแปงวงศ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์เขต ๑ จังหวัดกำแพงเพชร  มีชาวกะเหรี่ยงพื้นถิ่น เข้าร่วมสัมมนาประมาณ ๔๐ คน มีเด็กๆ ชาวกะเหรี่ยงร่วมรับฟัง ประมาณ ๑๐๐ คนเศษ
   อาจารย์สันติ อภัยราช ทำหน้าที่วิทยากร สร้างความภูมิใจ ในการเป็นชนชาติกะเหรี่ยง ชาวกะเหรี่ยงให้ความสนใจและให้ความร่วมมือดีมาก พวกเขาบอกว่า เป็นครั้งแรก ที่ให้ความสำคัญกับพวกเขาทั้งหมู่บ้าน
ท่าทางมีความภูมิใจในวัฒนธรรม ของเขาอย่างมาก มีอาจารย์เดช สุวรรณนำปน   นายหวาด คงสวัสดิ์ สมาชิกอบต.คลองน้ำไหล เด็กชายวิเชียร นาตรี นักเรียนชาวกะเหรี่ยงช่วยดำเนินการ ผอ.โรงเรียนชื่อนายวสันต์ ปานทอง ดูแลตลอดเวลา ให้ความสนใจมาก  โรงเรียนรอดนิล ครูอาจารย์ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี    ชาวกะเหรี่ยงทุกคน ให้ความร่วมมือวิเศษมาก
   กลางคืน ไปสโมสรฝึกการพูดกำแพงเพชร มีนักการเมืองท้องถิ่น นักเรียน และประชาชนมาฝึกหลายคน คึกคักดี จะเขียนรายละเอียดต่างหาก

                                                สันติ อภัยราช
[url=http://pic9.in/a2i5]

เมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน - ๑กรกฎาคม ๒๕๕๓  คณะกรรมการประเมินมาตรฐาน การประกันคุณภาพการจัดการศึกษา ของเรือนจำกลางกำแพงเพชร มีผลการประเมินดังนี้

           มาตรฐานที่ ๑ การบริหารและการจัดการศึกษา        ผลการประเมิน  ดี  (๓)    คะแนนเต็ม ๓
           มาตรฐานที่ ๒ ผู้เรียนและผู้สำเร็จการศึกษา           ผลการประเมิน  ดี  (๓)    คะแนนเต็ม ๓
           มาตรฐานที่ ๓ หลักสูตรและการจัดการเรียนการสอน ผลการประเมิน  ดี  (๓)    คะแนนเต็ม ๓
           มาตรฐานที่ ๔ ภาคีเครือข่าย                            ผลการประเมิน พอใช้ (๒) คะแนนเต็ม ๓
           มาตรฐานที่ ๕ การประกันตุณภาพการจัดการศึกษา  ผลการประเมิน ปรับปรุง(๑)คะแนนเต็ม ๓

                                            สรุปผลการประเมิน คะแนน ๒.๘๐ ผลการประเมิน ดี

                                   สันติ อภัยราช  ผู้ทรงคุณวุฒิด้านภูมิปัญญาของเรือนจำกลางกำแพงเพชร

       เขตพื้นที่การศึกษา ร่วมกับธนาคารออมสิน  ดำเนินโครงการประกวดโรงเรียนดีเด่นและนักเรียนดีเด่นด้านคุณธรรมจริยธรรม ประจำปี ๒๕๕๓ โรงเรียนดีเด่น ๑ โรงเรียน นักเรียนดีเด่น ๑คน เพื่อนำเสนอไปยังกลุ่มสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (นครสวรรค์เขต ๓) เพื่อชิงทุน โรงเรียนละ ๑๐๐,๐๐๐ บาท นักเรียนคนละ ๔๐,๐๐๐ บาท คณะกรรมการประชุม เมื่อวันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๓ เวลา ๑๐.๐๐น. ลงมติให้
          
         โรงเรียนดีเด่น ได้แก่ โรงเรียนโกสัมพีวิทยา อำเภอโกสัมพี จังหวัดกำแพงเพชร
        
         นักเรียนดีเด่นได้แก่  นายวีรวัฒน์ อึ้งชัยพงษ์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ โรงเรียนวัชรวิทยา  จังหวัดกำแพงเพชร

                             อาจารย์สันติ อภัยราช คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ทำหน้าที่ ประธานในการดำเนินการพิจารณา

        เช้าประชุมสภาวัฒนธรรมจังหวัดกำแพงเพชร มอบช่อดอกไม้ต้อนรับ คุณศรีสมร เทพสุวรรณ์ วัฒนธรรมจังหวัดคนใหม่ ท่านย้ายมาจากจังหวัดตาก บุคลิกดี ท่าทางดี มีวิสัยทัศน์กว้างขวาง ดูตั้งใจทำงาน และตั้งใจมุ่งมั่นจะทำงานให้วัฒนธรรมจังหวัดกำแพงเพชรก้าวหน้าอย่างแน่นอน มีประธานสภาวัฒนธรรมวัฒนธรรมอำเภอ เข้าร่วมประชุม อาทินายเกรียงศักดิ์  รักพานิชมณีประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอขาณุวรลักษบุร    ีนายไพศาล   เรียนทัพประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอเมือง นางมยุรี    ทรัพย์ประสม ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอคลองขลุง นางสุมาลี    อินทอง ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอไทรงาม นายเรืองศักดิ์ แสงทอง  กรรมการสภาวัฒนธรรมจังหวัด  นางประจวบ เกษรา  กรรมการสภาวัฒนธรรมจังหวัด  นายบุญยืน เนียมรัตน์ ์กรรมการสภาวัฒนธรรมจังหวัด  นายสังวรณ์ กรณ์พิทักษ์  กรรมการสภาวัฒนธรรมจังหวัด และผู้แทนประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอบางท่าน ที่ติดภารกิจมาไม่ได้
   วันนี้อนุมัติ ให้อำเภอละหนึ่งหมื่นบาท เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้สภาวัฒนธรรมอำเภอ อภิปรายโครงการแต่ละอำเภออย่างกว้างขวาง
   แบ่งงานตลาดโบราณสมัยรัชกาลที่ ๕ ให้น้องๆวัฒนธรรมรับผิดชอบ ในวันที่ ๒๕-๒๗ สิงหาคม ๒๕๕๓ ทุกคนเข้าใจเป็นอย่างดี และตั้งใจทำงาน เป้าหมายทำงานให้บ้านเมืองร่วมกัน คุณจันทรา กุลนันทคุณ คุณพัชรพรรณ ชุ่มเปี่ยม ร่วมรับผิดชอบในงานสำคัญนี้
  รับประทานอาหารกลางวัน ร่วมกัน ทุกท่านมีความมุ่งมั่นทำงานวัฒนธรรมร่วมกัน ต้องขอขอบคุณทุกท่าน
   พาหลานไปดูรถ จักรยานยนต์ ที่ร้านชัยเจริญยนต์ อยากเอาคันเก่าไปเปลี่ยน ก็ตามใจแต่รถที่ต้องการไม่มี ต้องรอไปก่อน เจ้าของร้านน่ารักทั้งสามีและภรรยา
  ค่ำไปสอนวัดหนองปลิง วันนี้มีนักเรียนจาก โรงเรียนศรีเกษตร โรงเรียนอนุบาลปางมะค่า โรงเรียนบ้านปางมะนาว นักเรียนแม้แต่ ยังเด็กนัก แต่มีความตั้งใจศึกษา และเรียนรู้ได้อย่างดี ต้องขอบคุณครูอาจารย์ทุกท่าน ทั้งสามโรงเรียน มีความตั้งใจสูงมาก เข้ารับฟังและดูแลนักเรียนประมาณ ๒๐คน น่าชื่นชมมาก ชื่นใจแทนผู้บริหารโรงเรียน ทั้งสามโรงเรียน เอฟ วรพล มากกุญชร สามารถสรุปเรื่องที่เรียนได้ดีมาก



                                                             สันติ อภัยราช

ซ้อมสุนทรพจน์ เรื่อง ไทยโปร่งใส ไทยเข้มแข็ง ให้ชญาภัทร์ ศรีไพร เพื่อไปแข่งขันระดับภาค เธอทำได้ดีมากขึ้นทุกวัน น่าจะเป็นความหวังของจังหวัด

 ออกรายการวิทยุเรื่อง กระทรวงสาธารณสุข จะให้เด็กนักเรียนตั้งท้องเรียนได้ตามปกติ มีผู้ฟังโทรเข้ามาจำนวนมากที่ไม่เห็นด้วย เรื่องนี้รัฐจำเป็นต้องทบทวน

กลางคืน ออกอากาศ เรื่องพะโป้ กะเหรี่ยงตัวละครเอก ในเรื่องชั่วฟ้าดินสลาย และเรื่องทุ่งมหาราช มีความหมายมากที่สุดสำหรับคนกำแพง นำมาเป็นตัวเอกในการแสดง แสงเสียง เรื่อง พระบารมีมากล้น เสด็จประพาสต้นกำแพงเพชร เชิญติดตามชม ๒๕-๒๗ สิงหาคม ๕๓ ณเวทีกลางน้ำริมปิง

กำหนดการจัดกิจกรรม
โครงการส่งเสริมอนุรักษ์วัฒนธรรมชาวไทยภูเขา (กะเหรี่ยง)
ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๓
วันพุธ ที่   ๑๔  กรกฎาคม ๒๕๕๓
ณ โรงเรียนรอดนิลวิทยา  บ้านสามัคคี  หมู่ ๑๖  ตำบลคลองน้ำไหล   อำเภอคลองลาน   จังหวัดกำแพงเพชร
*********************

เวลา ๐๘.๐๐ - ๐๘.๓๐   น.   - ลงทะเบียน / รายงานตัว
เวลา ๐๘.๓๐  ? ๐๙.๐๐ น.      - พิธีเปิดโครงการส่งเสริมอนุรักษ์วัฒนธรรมชาวไทยภูเขา (กะเหรี่ยง)
- การแสดงของชาวไทยภูเขา เชื้อสาย กะเหรี่ยง จำนวน    ๒ ชุด
เวลา ๐๙.๐๐ ? ๑๒.๐๐   น.   - การบรรยายเรื่องวิวัฒนาการและการอนุรักษ์วัฒนธรรมชาวเขา (กะเหรี่ยง)
 โดย อาจารย์สันติ  อภัยราช  ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดกำแพงเพชร
- การเสวนาวิวัฒนาการและการอนุรักษ์วัฒนธรรมชาวไทยภูเขา (กะเหรี่ยง)
วิทยากรประกอบด้วย
-  อ. สันติ อภัยราช       ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดกำแพงเพชร
               -  นายติลา ลิวี                  ตัวแทนชาวไทยภูเขา เชื้อสายกะเหรี่ยง
               -  นายเตจา  สายอินทร์     ผู้ใหญ่บ้าน บ้านสามัคคีธรรม 
               -  นายดิเรก  ดารินทร์        สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล
               คลองน้ำไหล
               -   อาจารย์เดช  สุวรรณนำปน  อาจารย์โรงเรียนรอดนินวิทยา
               -   ตัวแทนนักเรียนชาวไทยภูเขา เชื้อสายกะเหรี่ยง
            - ปิดโครงการฯ
เวลา ๑๒.๐๐ น.         - รับประทานอาหารกลางวัน
            - เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ

*********************


หมายเหตุ   กำหนดการอาจเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม

     ที่เมืองนครชุม โดยเฉพาะหมู่ที่ ๓ มีเพลงพื้นบ้าน การแสดงพื้นบ้านที่น่าสนใจ สมควรสนับสนุนส่งเสริม อยู่หลายประเภท อาทิ รำแม่ศรี รำคล้องช้าง รำโทน เพลงพวงมาลัย  รำวงย้อนยุค กลองยาว มีศิลปินพื้นบ้าน ที่รักในศิลปะการแสดง จำนวนประมาณ ๓๐ ท่าน แต่ละท่านใส่ใจสนใจ เป็นห่วงในการแสดงชุดนี้อย่างยิ่ง กลัวจะสูญหายจากสังคมไทย
    

     หนึ่งเดียวที่โดดเด่นและรักในความเป็นศิลปินอย่างที่สุดคนหนึ่งคือ แม่วันเพ็ญ บุญญสิทธิ์ ศิลปินพื้นบ้านนครชุมจังหวัดกำแพงเพชรของเรา แม่วันเพ็ญนอกจากเป็นศิลปินดีเด่นแล้วท่านยังมีจิตใจที่งดมากมากใจกว้างและรักความเป็นธรรมอย่างที่สุด ทำให้แม่วันเพ็ญจึงโดดเด่นและแตกต่าง


เสียงเพลง แม่ศรีเอย แม่ศรีสาวหงส์ เชิญเจ้ามาลง แม่นางสร้อยทอง ชวนพี่ชวนน้องเชิญแม่ทองศรีเอย
แม่วันเพ็ญ บุญญสิทธิ์ รำอย่างอ่อนช้อย สง่างามอย่าง รำสวยราวกับเป็นแม่ศรีตัวจริง ดั่งกับบรรยากาศในวรรณกรรมทุ่งมหาราชกลับมาอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ผ่านมากว่าร้อยปี


   แม่วันเพ็ญ บุญญสิทธิ์ ท่านเป็นศิลปินพื้นบ้าน ที่ รายการโทรทัศน์วัฒนธรรม จดหมายเหตุวัฒนธรรมกำแพงเพชร และสภาวัฒนธรรมจังหวัดกำแพงเพชร ยกย่องให้เป็นศิลปินพื้นบ้านดีเด่น เป็นแม่แบบและเป็นตัวอย่างแก่ เยาวชนรุ่นหลังที่รักในการแสดงพื้นบ้านอย่างที่สุด

    เกือบสามสิบปี ที่แม่วันเพ็ญ บุญญาสิทธิ์ โดดเด่น          บน แผ่นดินแห่งวัฒนธรรมกำแพงเพชร แม่วันเพ็ญไม่เคย ปฎิเสธงานแม้แต่ครั้งเดียว ไม่ว่าจะมีเงินให้หรือไม่ เงินไม่ใช่เป็นเรื่องสำคัญสำหรับแม่วันเพ็ญ ท่านเคยแสดงหน้าพระที่นั่งมาแล้ว และเคยเล่นการกุศลมานับครั้งไม่ถ้วน ความมีน้ำใจ ความรักในวัฒนธรรม ความรักในเพลงพื้นบ้าน ทำให้แม่วันเพ็ญ ประสบความสำเร็จในชีวิต ในการแสดงพื้นบ้าน และมีความสุขที่สุด ในวัยเจ็ดสิบปี แม่วันเพ็ญ ยังเข้มแข็งและแข็งแกร่งมากที่สุด แม้ท่านจะมีวัยที่ผ่านโลกมาอย่างยาวนาน

     แม่วันเพ็ญ บุญญสิทธิ์ แม่เพลง ศิลปินคนสำคัญ จึงสมควรได้รับการคารวะ จากคนรุ่นหลังและสมควรได้รับการปรบมือให้


                                                              สันติ อภัยราช

          กองทุนครูภูมิปัญญาไทยให้ทุนสำหรับทำวิจัยครูภูมิปัญญามาก้อนหนึ่ง ให้ส่งภายในเดือนกรกฎาคม ๕๓เลยต้องทำทั้งวัน ให้เสร็จ ไม่ง่าย ครูภูมิปัญญารุ่นที่ ๖ มี ๒ คน คือ
    ๑.ครูสันติ อภัยราช               สาขาภาษาและวรรณกรรม (วรรณกรรมท้องถิ่น)
    ๒.ครูสำรวย ทวีทรัพย์            สาขาเกษตร (อยู่อำเภอขาณุวรลักษบุรี)
     ศึกษารายละเอียดที่  http://www.sunti-apairach.com/teacher/
 
         ไปจัดรายการวิทยุที่สถานีวิทยุเครือช่ายประชาชนกำแพงเพชร คลื่น๑๐๐.๒๕      วันนี้ เดจีก้อย ปิยวรรณ อยู่เปี่ยม ลาไปโรงพยาบาล โยโย่ ลูกชายอาจารย์สุวัฒน์วัฒนศิริ มาช่วย ดูแล น่ารักมากสนใจเก่งมาก
       สามารถฟังย้อนหลังได้ที่ http://www.sunti-apairach.com/radio/

         นางสาวปิยธิดา ทองมี นิสิตสาขานาฏศิลป์ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก มาสัมภาษณ์เรื่องการแสดงพื้นบ้าน ระบำคล้องช้าง ได้ให้รายละเอียดทั้งระบำคล้องช้างไตรตรึงษ์ และนครชุม ถ้านิสิตนาฏศิลป์สนใจอย่างนี้ ภูมิปัญญาท้องถิ่นระบำคล้องช้างไม่สูญจากเมืองไทยแน่นอน

        นางสาวชญาภัทร์ ศรีไพร มาซ้อม พูดสุนทรพจน์เรื่อง ไทยโปร่งใส ไทยเข้มแข็ง วันนี้ พูดได้ดีมากขึ้นกว่าเมื่อวาน มีโอกาสได้รับรางวัล หนึ่งในห้า แน่นอน เพราะมีความมุ่งมั่นและมานะมาก

                                                     สันติ อภัยราช

เรียงความเรื่องไทยโปร่งใสไทยเข้มแข็ง (ระดับประถมศึกษา)

ประชาชนชาวไทยจะอยู่อย่างมีความสุขได้ก็ต่อเมื่อ  สังคมของไทยเรามีความเข้มแข็งครบทั้งสามสถาบัน คือสถาบันชาติ สถาบันศาสนาและสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยต้องมีผู้บริหารประเทศที่ยึดมั่นในหลักการบริหารประเทศแบบมุ่งให้   ไทยโปร่งใส ไทยเข้มแข็ง

ความหมายของคำ ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน คำว่า ?โปร่งใส? หมายถึงสมบัติที่แสงผ่านได้และมองเห็นได้ตลอดอีกคำหนึ่งคำว่า ?เข้มแข็ง? หมายถึงแข็งแรงในการงานไม่ย่อท้อหวั่นไหว    เพราะฉะนั้น  ?ไทยโปร่งใส ไทยเข้มแข็ง?ก็น่าจะหมายความว่า ถ้าประเทศไทยทำทุกอย่างให้สามารถตรวจสอบได้ คือสุจริตทุกเรื่องไม่มีทุจริต จะทำให้ประเทศไทยเจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคง

ประเทศไทยในปัจจุบัน มีการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันจนถึงทำลายกัน ใส่ร้ายป้ายสีกัน  การทุจริตและมิจฉาชีพต่างๆก็เพราะใจคนเหล่านั้นมุ่งแต่จะเอาแต่ได้ ไม่คำนึงถึงผิดชอบชั่วดี  มีความเห็นแก่ตัวไม่เห็นแก่ส่วนรวมของผู้มีอำนาจ มีการกอบโกย ฉวยโอกาสของพ่อค้า  นักธุรกิจ โดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของคนส่วนมาก มีความเร่าร้อนใจเพราะโลภจัด ได้เท่าไรไม่รู้จักพอ จนกลายเป็นมัวเมาในวัตถุ  ทะเยอทะยานจนเกินกำลัง  ได้มาโดยสุจริตไม่ทันใจ ก็ลงมือประกอบการทุจริตต่างๆ เพื่อสนองความอยากของตนเอง  อย่างไร้เหตุผล สิ่งที่คนทั่วไปไม่รู้จักพอ ก็คือ อำนาจวาสนา

ทรัพย์สมบัติ อาหาร และ กามคุณ ถ้ารู้จักพอรู้จัดประมาณ ยินดีตามที่ตนได้ ยินดีสิ่งที่เหมาะสมแก่ฐานะของตน จะทำให้สังคมสงบสุข  ปราศจากปัญหาอาชญากรรมและปัญหาสังคม ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการฆ่าข่มขื่น ปัญหาโจรผู้ร้าย

และที่เป็นปัญหากัน ในปัจจุบัน ก็คือ ปัญหาการทุจริต คอรัปชั่นหรือเรียกง่ายๆว่า การคดโกง ล้วนเกิดมาจากคนที่ขาดคุณธรรม เป็นผู้ที่มีจิตใจอ่อนแอ หวั่นไหวต่ออำนาจ สิ่งยั่วยวน หรือ กิเลสได้ง่าย ถ้าแต่ละคนในสังคม ต่างฝึกฝนอบรมใจของตน ให้หนักแน่น มั่นคง ปัญหาในสังคมก็จะไม่เกิดขึ้นเลย การจะทำให้ไทยโปร่งใส ไทยเข้มแข็งได้นั้นจะต้องมีการรณรงค์ ปลูกฝังศีลธรรมแก่ประชาชนทุกเพศทุกวัยเป็นการแก้ปัญหาที่ยั่งยืน อันนำมาวึ่งความมั่นคงของชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วย ทั้งยังส่งผลให้สังคมไทย มีความสงบร่มเย็น รองรับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ

ขอชาวไทยมาร่วมแรงร่วมใจ ให้ความร่วมมือกัน ทำประเทศไทยให้เจริญก้าวหน้า สมกับคำว่า

?ไทยโปร่งใส  ไทยเข้มแข็ง? ตลอดไป

 

 

เด็กหญิงนภิสรา   ศรีศักดา  ชั้น ป. 6/5  โรงเรียนอนุบาลกำแพงเพชร



--------------------------------------------------------------------------------

ท่านคณะกรรมการ ...ท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน ...( ดิฉัน..นางรัชนีย์  ศรีศักดา ...ประชาชนชาวกำแพงเพชรค่ะ)

ไม่ทราบว่าท่านผู้มีเกียรติ...จะมีความรู้สึกเหมือนดิฉันหรือเปล่า...ช่วงนี้...ไม่ว่าจะดูข่าวจากโทรทัศน์...ฟังข่าวจากวิทยุ...หรืออ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์... ล้วนแล้วแต่ทำให้รู้สึกเครียด ...ไม่สบายใจกับการเกิด...

วิกฤตทางเศรษฐกิจ ...วิกฤตทางสังคม ... และ วิกฤตทางการเมือง?

วิกฤตต่างๆเหล่านี้...แสดงให้เห็นว่า...ประเทศไทยเรามีปัญหา ...คือปัญหาคนขาดคุณธรรมจริยธรรม   โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ...ขาดความซื่อสัตย์สุจริต...หรือ...ขาดความโปร่งใส นั่นเอง...มีการทุจริตกันทุกระดับ...ทั้งผู้มีอำนาจ...นักการเมือง ...นักธุรกิจ...ข้าราชการ ...พ่อค้า ... ไม่เว้นแม้กระทั่งประชาชนทั่วไป ...  มีการซื้อสิทธิ์ ขายเสียง ...ซื้อขายตำแหน่ง  ... ใช้ตำแหน่งหน้าที่หาผลประโยชน์ ...นำทรัพย์สินทางราชการไปใช้ส่วนตัว  ... ฮั้วการประมูล... เล่นพรรคเล่นพวก...ที่หนักไปกว่านั้น คือ...มีการคอร์รัปชั่นเชิงนโยบาย ซึ่งเป็นภัยอันใหญ่หลวงของประเทศ...ใครจะไปคาดถึงล่ะคะ ... ว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น...ในเมืองพุทธศาสนาอย่างไทยเรา...ซึ่งมี..หลักคำสอน...ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า...อยู่มากมายหลายหลักด้วยกัน....หัวใจของศาสนาพุทธ คือ ...ให้ทำความดี...ละเว้นความชั่ว ...ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ .....และ...จะลืมไม่ได้เลยที่ต้องเอ่ยถึงก็คือ ...  หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ...ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว...พระองค์ทรงสอนคนไทย..ให้มีความพอประมาณ   มีเหตุผล ... และมีภูมิคุ้มกันที่ดี...แต่คนไทยส่วนใหญ่ ...ทำเสมือนใกล้เกลือกินด่าง ...ไม่ได้นำสิ่งดีมีประโยชน์ มาใช้ในชีวิตประจำวัน... ซ้ำยังขาดความรับผิดชอบต่อสังคมอีกด้วย ...ทำไม่ได้ยินเหมือนคนหูหนวก  ...     ทำมองไม่เห็นเหมือนคนตาบอด ...   ทำพูดไม่ได้เหมือนคนใบ้ ...และ...ทำไม่มีสติเหมือนคนบ้า ?

            ท่านผู้มีเกียรติคะ....เราต้องมาช่วยกันแก้ปัญหาแล้วล่ะค่ะ...เพื่อเป็นการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส? ทำให้ประเทศไทยเข้มแข็งให้ได้....โดย...เริ่มจากตัวเราก่อนเลยนะคะ... เราต้องพัฒนาตัวเราให้เป็นคนดี ...คือ... ไม่ยอมเป็นทาสของความอยาก ...มีความละอายและเกรงกลัวต่อผลของบาป ... ไม่ทำความชั่ว...ทั้งกาย...วาจา ...ใจ ...  ต้องเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน... จากนั้นก็พัฒนาคนในครอบครัว ... ชุมชน ...หมู่บ้าน...  ตำบล...อำเภอ ...จังหวัด ...จนถึงระดับประเทศ     ในขณะเดียวกัน ... คณะผู้บริหารประเทศ ... ก็ต้องพัฒนา...  โดยการเป็นผู้นำที่ดี...  มีศีลธรรม...  มีวิสัยทัศน์ ...  มีความเข้มแข็ง  ...   และมีความกล้าหาญเพียงพอ... ที่จะนำพาประเทศไทย...ซึ่งมี 3สถาบันหลัก... คือชาติ... ศาสนา ...พระมหากษัตริย์ ... อันเป็นที่รักยิ่งของเรา    ให้มีความเจริญรุ่งเรือง...  มั่นคงสืบไป...เมื่อทุกภาคส่วนร่วมมือกันอย่างนี้แล้ว ... ดิฉันเชื่อว่า ...    ?ไทยโปร่งใสไทยเข้มแข็ง  ?     แน่นอนค่ะ

 



--------------------------------------------------------------------------------


 |
 

        รายการลั่นเมืองทางอสมท. ๙๒.๗๕ จัดกับอาจารย์อารีรักษ์ ปานพรหม ครูอ้อย ๆเล่าเรื่องการรับน้องใหม่ ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แปลกมาก เดินทางขึ้นเขา ๑๔ กิโลเมตร
      เล่าเรื่องการจัดตลาดโบราณสมัยรัชกาลที่ ๕ ว่ามีอาหารชนิดใดมาขายบ้าง สนใจอ่านได้ ในเวปไซด์
จดหมายเหตุวัฒนธรรมกำแพงเพชร
       เล่ารายละเอียด ของการปะทะคารมของพะโป้กับทิดรื่น ในการแสดง แสงเสียง เรื่อง พระบารมีมากล้น เสด็จประพาสต้นกำแพงเพชร .....ได้รับการต้อนรับจากเจ้าหน้าที่อสมท.อย่างยอดเยี่ยมทุกคน
        อาจารย์รัชนี ศรีศักดา และ ชญาภัทร์ ศรีไพร  ต้องไปประกวดสุนทรพจน์ระดับภาคที่เชียงใหม่ในวันที่ ๑๕ กรกฎาคม ในฐานะผู้ชนะเลิศ ในระดับจังหวัด มาซ้อมพูดสุนทรพจน์ ถ้าเปรียบเทียบขณะนี้ได้เพียง ร้อยละ๔๐ ภ้าจะชนะในระดับภาคต้องซ้อมให้ถึง ร้อยละ๘๐ จึงมีโอกาสชนะ แต่ทั้งสองท่านมีความตั้งใจอย่างดี พร้อมที่จะพัฒนาตนเองไปได้
      ออกอากาศสถานีวิทยุเครือข่ายประชาชนกำแพงเพชร เชิญ อาจารย์รัชนีย์ ศรีศักดา นภิสรา ศรีศักดาและ ชญาภัทร์ ศรีไพร มาออกอากาศ  ช่วงที่ ๒ พูดเรื่องอาหารโบราณมีผู้สนใจมาก


                                                                    สันติ อภัยราช

ศูนย์เครือข่าย, คลองขลุง ประกอบไปด้วยโรงเรียน
- ชุมชนประชาสามัคคี
- พิบูลวิทยาคาร
- บ้านถนนงาม
- บ้านร้อยไร่
- บ้านมาบคล้า
- วัดคงคาราม
- วัดพรหมประดิษฐ์
- สหราษฎร์ศึกษา
- บ้านห้วยน้อย
- บ้านแม่ลาด
เข้าอบรมจำนวน ๑๕๐ คน นักเรียนทั้งสิบโรงเรียนน่ารักมาก ขยันตั้งใจ ว่าง่าย เก่ง สนใจเรื่องของบ้านเมือง และเรื่องของพระเจ้าอยู่หัวเป็นอย่างดียิ่ง  ตอบปัญหาได้ดี ขยันตอบ กล้ามาก
นักเรียนที่กล้าออกมาสรุปบทเรียนมี
                
                 ด.ญ.รวิวรรณ จันทิมา  (ปาน)  โรงเรียนถนนงาม
                 ด.ญ.วิไลลักษณ์ นามฮุง (เมย์)  โรงเรียนชุมชนประชาสรรค์
                 ด.ญกัณทิมา  วงษ์ศรี              โรงเรียนสหราษฎร์ศึกษา
สรุปได้ดีมาก ให้รางวัลไปพระหลายองค์
                
 ครูจิรายุทธ์ สมพิทักษ์  โรงเรียนวัดพรหมประดิษฐ์ ใส่ใจในบทเรียนมาก ดูแลวิทยากรเป็นอย่างดี ต้องขอบคุณ
ครูวิลาวัลย์ นุชทรวง     โรงเรียนวัดคงคาราม เข้ามาทักทาย แสดงน้ำใจต้องขอบคุณ
พบครู ศิรินา ลูกสาวน้านม เป็นครูอยู่โรงเรียนประชาสามัคคีจำกันไม่ได้ ขอบคุณที่ทักและแนะนำตัวเอง
เป็นเด็กรุ่นหลังมากโตไม่ทันกัน ต้องขอโทษ
เณร นุ สุภาพ และเก่งมาก หาได้ยาก ขอชื่นชมท่าน
ถามนักเรียนไม่ทราบที่มาของชื่อหมู่บ้าน จึงขอเฉลย ดังนี้
เรียกบ้านถนนงาม  เพราะ มีมูลดินคล้ายถนน มีต้นไม้ขึ้นสองข้างทาง เหมือนถนนงดงาม จึงเรียกบ้าน  ถนนงาม
เรียกบ้านร้อยไร่ เพราะ  ในอดีตมีพื้นที่เป็นทุ่งโล่งสามารถทำนา ได้ร้อยไร่ นอกนั้นเป็นป่า
เรียกบ้านมาบคล้า เพราะ  ในอดีตหมู่บ้านมีลำธาร และหนองน้ำใหญ่ คล้าเป็นชื่อต้นไม้ที่ขึ้นที่หนองน้ำ
เรียกแม่ลาด เพราะในอดีต มีน้ำท่วมมากทุกปี มีแอ่งน้ำอยู่เรียกว่าแอ่งแม่ลาด
เรียกว่าห้วยน้อย เพราะในอดีต มีลำห้วยน้อยอยู่ในหมู่บ้าน จึงเรียกว่า บ้านห้วยน้อย

                                                            สันติ อภัยราช