จดหมายเหตุวัฒนธรรมกำแพงเพชร โดย อาจารย์สันติ อภัยราช
มีนาคม 29, 2024, 04:26:21 am *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: จดหมายเหตุวัฒนธรรมกำแพงเพชร โดย อาจารย์สันติ อภัยราช
ยินดีต้อนรับสมาชิก และผู้เยื่ยมชมทุกๆท่าน
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เพลง พิษฐานของชาววังแขม อำเภอคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร  (อ่าน 10342 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
apairach
Administrator
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1410


ดูรายละเอียด อีเมล์
| |
« เมื่อ: มีนาคม 03, 2013, 02:08:06 pm »

เพลง พิษฐานของชาววังแขม อำเภอคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร
เพลงพิษฐาน โดยทั่วไปในภาคกลาง
ความเป็นมา เพลงพิษฐานเป็นเพลงพื้นบ้านภาคกลาง ใช้ร้องเล่นกันในวันสงกรานต์ ซึ่งถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ของไทยแต่โบราณมา คนส่วนใหญ่มักจะทำในสิ่งที่ดีเพื่อเป็นสิริมงคล ตอนเช้าจะไปทำบุญที่วัด หลังจากทำบุญแล้ว จะเล่นเพลงพิษฐานกันก่อนเพื่อเอาโชคเอาชัย แต่ละจังหวัดแต่ละพื้นที่ มีวิธีการเล่น เพลงที่แตกต่างกันไป ตามสภาพวัฒนธรรม ประเพณี
ผู้เล่น แบ่งเป็นฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย จำนวนไม่จำกัด
การแต่งกาย การแต่งกาย ฝ่ายชายนุ่งโจงกระเบน สวมเสื้อคอกลม ผ้าขาวม้าคาดเอว ส่วนฝ่ายหญิงนุ่งโจงกระเบน สวมเสื้อแขนกระบอก
อุปกรณ์ในการเล่น ดอกไม้ ธูปเทียน คนละ ๑ กำ
สถานที่เล่น ลานหน้าโบสถ์ (ที่วังแขมจะเล่นในโบสถ์)ซึ่งมีพระประธานอยู่ด้านใน
วิธีเล่น แบ่งผู้เล่นฝ่ายชายและฝ่ายหญิง ทุกคนถือดอกไม้ธูปเทียนไว้ เริ่มเล่นโดยฝ่ายชายจะนำสวดบูชาพระรัตนตรัย เสร็จแล้วฝ่ายชายจะเป็นผู้ว่าเพลงก่อน มีลูกคู่ร้องรับ ลักษณะการร้องรับแตกต่าง และเพี้ยนคำกันไปบ้างตามท้องถิ่น แล้วฝ่ายหญิงก็จะว่าเพลงแก้ มีลูกคู่ร้องรับ เช่นเดียวกัน ร้องสลับชายหญิงไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเห็นสมควรแก่เวลา เนื้อหาของเพลงเป็นการนำเอาชื่อดอกไม้มาร้องเป็นเพลง เปรียบให้ได้ดังสิ่งที่ตนเองหวังไว้ ซึ่งมีความคล้องในคำร้องให้สัมผัสกับคำอธิษฐาน
ประโยชน์ที่ได้รับ เพื่อให้เกิดขวัญและกำลังใจ ในการที่จะได้รับสิ่งที่ตนปรารถนาจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเพื่อเป็นกำลังใจในการดำรงชีวิตต่อไป  เป็นการบอกรักกัน โดยมีพระประธาน ในโบสถ์ เป็นพยาน ในความรัก และ แนบเนียนมาก ในการบูชาพระประธานในโบสถ์
เพลงพิษฐานเฉพาะถิ่น ที่ตำบลวังแขม อ.คลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร
    เพลงพิษฐาน หรือเรียกตามภาษาชาวบ้านว่า การเก็บดอกไม้เข้าโบสถ์ ที่ตำบลวังแขม อำเภอคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร
      ลุงเหรียญ นาคนาม  ศิลปินพื้นบ้านวังแขม (เสียชีวิตเมื่ออายุ ๙๓ ปี) เล่าว่าในช่วงของวันตรุษสงกรานต์ของทุกปี ชาวบ้านของตำบลวังแขม จะพากันไปทำบุญตักบาตรกันที่วัดวังแขม หรือวัดจันทารามในปัจจุบันครั้นพอทำบุญเสร็จแล้ว บรรดาหนุ่มๆสาวๆ ก็จะพากันไปเก็บดอกไม้สวยที่ปลูกอยู่ตามบ้าน แล้วนำมาบรรจงเรียงใส่พานให้สวยงาม เมื่อนำดอกไม้ใส่พานได้อย่างสวยงามแล้ว ก็พากันนำมาถวายพระประธานในโบสถ์คือหลวงพ่อศรีมงคล ซึ่งเป็นพระประธานในโบสถ์เก่า ซึ่งสร้างกันมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย เรียกว่า ?พิษฐาน? ในโบสถ์กัน
      การนำดอกไม้มาพิษฐานในโบสถ์ หญิงและชายจะนั่งคนละข้างกัน แล้วต่างคนต่างนำพานดอกไม้ กราบพระกันตามประเพณี เมื่อเสร็จจากกราบหลวงพ่อศรีมงคลแล้ว ฝ่ายชายจะหันมาทางฝ่ายหญิง แล้วเริ่มร้องเพลงเกี้ยวสาวที่นั่งในโบสถ์ ในทำนองเพลงพิษฐาน บทร้องจะร้อง เป็นการโต้ตอบกับระหว่างชายหญิง ฝ่ายหญิงจะร้องก่อนว่า

     ? ตั้งใจหมายจิตยอดพิษฐานเอย สองมือถือพานทองเอาดอกพุด เกิดมาชาติหน้าแสนใดก็ขอให้ได้บริสุทธิ์ พิษฐานบรรเลงขอให้เกรงอย่างพิษฐานเอย?
 ฝ่ายชายจะร้องต่อ โดยจะเปลี่ยนกลอนตรงท้ายบทตรงชื่อดอกไม้ให้ลงกับชื่อฝ่ายหญิงที่ตนเองร้องแซวว่า
?ตั้งใจหมายจิตยอดเจ้าพิษฐานเอย สองมือถือพานเอาดอกกระดังงา เกิดชาติหน้าแสดใดก็ขอให้ได้กับแม่วรรณา พิษฐานบรรเลงขอให้เกรงอย่างพิษฐานเอย?
      เมื่อฝ่ายชายร้องจบ ฝ่ายหญิงก็จะโต้ตอบว่า
?ตั้งใจหมายจิตเจ้าพิษฐานเอย สองมือถือพานเอาดอกกระดังงาให้พี่ทำบุญเสียให้เกือบตาย ก็ยังไม่ได้กับแม่วรรณา พิษฐานบรรเลงขออย่าให้เกรงพิษฐานเอย?      
                     ทั้งพ่อเพลงและแม่เพลง ฝ่ายชายและฝ่ายหญิง จะร้องโต้ตอบกันเป็นลักษณะของกลอนสดเป็นการใช้ปฏิภาณไหวพริบมาร้องซึ่งกันและกัน แต่จะลงท้ายบทกลอนด้วยคำว่า ?เอย? เสมอ หลังจากร้องโต้ตอบเพลงพิษฐานในโบสถ์แล้วก็พากันกราบพระ และออกมาร้องรำทำเพลงกันต่อที่หน้าโบสถ์ เป็นเพลงโต้ตอบกันในลักษณะแนะนำหมู่บ้าน โดยร้องเป็นเพลงคล้ายเพลงพวกมาลัยจนเวลาใกล้เที่ยง เมื่อถึงเวลาเที่ยง ฝ่ายหญิงก็จะชวนฝ่ายชายไปรับประทานอาหารกลางวันกันที่บ้านเพื่อแสดงออกถึงความสนิทสนมและคุ้นเคยกันในกลุ่ม
      ครั้นตะวันเริ่มบ่าย พระอาทิตย์อ่อนแสงลง ก็จะพากันไปเล่นรำวงที่ริมหาดทรายหน้าวัด โดยร้องเป็นเพลงรำวงง่ายๆเช่น ?จำปีลอยมา จำปาลอยวน จะรำก็รำ อย่ามาทำเดินวน? แล้วก็ร้องเพลงอื่นๆเป็นเพลงรำวงตามถนัด นอกจากการเล่นรำวงกันริมท่า บางพวกก็จะมีกิจกรรมอื่นๆเช่นการเล่นลูกโยน และขนทรายเข้าวัดไปร่วมกันก่อพระเจดีย์ทรายในวัดซึ่งเป็นรูปเจดีย์ใหญ่องค์เดียวที่ทุกคนร่วมแรงร่วมใจช่วยกันก่อขึ้นมาปรากฏเห็นเป็นเจดีย์องค์ใหญ่ อยู่ในวัดจันทารามมาตราบเท่าทุกวันนี้


ตัวอย่างเพลงพิษฐาน สมัยโบราณ ที่จำกันสืบต่อมา
เพลงพิษฐาน

เพลงพิษฐานนิยมเล่นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยเล่นในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อุทัยธานี นครสวรรค์ กำแพงเพชร สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และสุโขทัย เมื่อหนุ่มสาวทำบุญตักบาตรที่วัดแล้ว ก็จะพากันเก็บดอกไม้เข้าไปไหว้พระในโบสถ์ หญิงและชายนั่งคนละข้าง มือถือพานดอกไม้ เพลงขึ้นต้นด้วยคำว่า "พิษฐาน"มาจากคำว่า อธิษฐาน เพื่อขอพรพระ ฝ่ายชายเริ่มว่าเพลงก่อน ฝ่ายหญิงร้องแก้ เมื่อฝ่ายใดร้อง ลูกคู่ฝ่ายนั้นร้องรับ ไม่ต้องปรบมือ เกี้ยวพาราสีกันไปในเนื้อเพลงซึ่งเป็นกลอนสั้นๆ เพียง ๔ วรรค และมักยกเอาชื่อหมู่บ้านมาสัมผัสกับชื่อดอกไม้

ตัวอย่าง เพลงพิษฐาน จากชาวบ้านตำบลสระทะเล อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์

ชาย : พิษฐานเอย มือหนึ่งถือพาน พานเอาดอกพิกุล
ลูกคู่ : มือหนึ่งถือพาน พานเอาดอกพิกุล
ชาย : เกิดชาติใดแสนใดเอย ขอให้ลูกได้ส่วนบุญ
ลูกคู่ : พิษฐานวานไหว้ ขอให้ได้ดังพิษฐานเอย เอ๋ยเนรมิต ยอดพระพิษฐานเอย
หญิง : พิษฐานเอย มือหนึ่งถือพาน พานเอาดอกจำปี
ลูกคู่ : มือหนึ่งถือพาน พานเอาดอกจำปี
หญิง : ลูกเกิดมาชาติใดแสนใด ขอให้ลูกได้ไอ้ที่ดีๆ
ลูกคู่ : พิษฐานวานไหว้ ขอให้ได้ดังพิษฐานเอย เอ๋ยเนรมิต ยอดพระพิษฐานเอย

ตัวอย่าง เพลงพิษฐาน ของ ชาวบ้านอำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี

ชาย : พิษฐานเอย มือหนึ่งถือพาน ถือพานดอกจอก
เกิดชาติใดแสนใด ขอให้ได้พวกบ้านกระบอก
หญิง : พิษฐานเอย มือหนึ่งถือพาน ถือพานปากกระจับ
เกิดชาติใดแสนใด ขออย่าให้ได้พวกบางพลับ

เพลงพิษฐานนี้ จุดประสงค์นอกจากเพื่อการขอพรแล้ว แก่นของเพลง คือ การทำให้ผู้อธิษฐาน ซึ่งเป็นหนุ่มสาว จะได้มีความสุขสนุกสนาน ได้แสดงออกเกี้ยวพาราสี กระเซ้าเย้าแหย่ ส่วนมากจะไม่ถือโกรธกัน ถ้าร้องเกินเลยไป เช่น

ชาย : พิษฐานเอย มือหนึ่งถือพาน พานแต่ดอกบัว
เกิดชาติใดแสนใด ขอให้ได้เป็นผัวคนชื่อ......... (ออกชื่อฝ่ายหญิง)
หญิง : พิษฐานเอย มือหนึ่งถือพาน พานแต่ดอกแค
เกิดชาติใดแสนใด ขอให้ได้เป็นแม่คนชื่อ......... (ออกชื่อฝ่ายชาย)
 

การแสดงเพลงพิษฐาน บนเวที ในงานประเพณี นบพระเล่นเพลง ๑ มีนาคม ๒๕๕
 

            โบสถ์เก่าวัดจันทาราม ตำบลวังแขม อำเภอคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร

 
สัมภาษณ์ ลุงเหรียญ นาคนาม เมื่อวันที่  ๒๖ เมษายน ๒๕๕๓ ที่บ้านวังแขม
 

                   หลวงพ่อศรีมงคล  วัดจันทาราม วังแขม















« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 03, 2013, 02:15:24 pm โดย apairach » บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.11 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!