จดหมายเหตุวัฒนธรรมกำแพงเพชร โดย อาจารย์สันติ อภัยราช
เมษายน 24, 2024, 08:04:43 am *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: จดหมายเหตุวัฒนธรรมกำแพงเพชร โดย อาจารย์สันติ อภัยราช
ยินดีต้อนรับสมาชิก และผู้เยื่ยมชมทุกๆท่าน
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องสั้น วันวานที่รอคอย โดย นางสาวสิริพร เข็มเพ็ชรโต ศึกษาอยู่ชั้นปีที่ ๒ โปรแกรมวิชาภา  (อ่าน 2922 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
apairach
Administrator
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1414


ดูรายละเอียด อีเมล์
| |
« เมื่อ: สิงหาคม 27, 2012, 02:34:27 pm »

วันวานที่รอคอย
   เช้าวันนี้ที่สดใส มีแสงแดดอ่อน ๆ ของยามเช้า และพรั้งพร้อมไปด้วยอากาศที่ๆบริสุทธ์ ตัวผมยื่นอยู่ ณ ที่แห่งนี้ในบ้านที่เปี่ยมไปด้วยความสุขท่ามกลางครอบครัวที่ผมและภรรยาร่วมกันสร้างขึ้นมาและพวกเรายังมีพยานรักที่น่ารักอีกสองคนเป็นลูกสาววัยสามขวบฝาแฝดที่น่ารักและกำลังซนได้ใจผมจริงๆ แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ผมต้องผ่านอะไรมามากมายจนทำให้ผมนั้นเกือบที่จะเสียสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตผมไป เกือบที่จะสูญเสียสิ่งที่เรียกว่าครอบครัวไป นับย้อยกับไปประมาณหกเดือนก่อนหน้านี้ ที่บ้านของผมเกิดน้ำป่าท่วมจึงทำให้ไร่มันสำปะหลังที่ผมทำเกิดความเสียหายและทำให้ครอบครัวของผมขาดรายได้ที่จะนำมาใช้จ่ายภายในครอบครัว ผมจึงเลือกที่จะเดินออกจากบ้านเพื่อที่จะเข้ามาหางานทำที่กรุงเทพฯผมเดินทางมาทำงานกลางเมืองหลวงเพื่อที่จะหารายได้ให้กับครอบครัวและลูกๆได้อยู่อย่าสบายผมได้ติดต่อกับเพื่อนคนหนึ่งที่เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างเพื่อที่จะมาทำงานกับเขา และมันก็เป็นไปดั่งที่ผมคิดเพื่อนผมคนนี้รับผมเข้าทำงานในตำแหน่งโฟร์แมน ผมได้เงินเดือนจากการทำงานในครั้งนี้เป็นจำนวนมากต่อเดือนมันทำให้มากพอที่จะทำให้คอบครัวของผมสุขสบายได้ผมส่งเงินเดือนจำนวนเจ็ดสิบเปอร์เซ็นจากเงินเดือนของผมให้กับภรรยาเป็นอย่างนี้ทุกเดือน จนกระทั้งวันหนึ่งที่วันนี้เป็นวันเงินเดือนออกทั้งลูกน้องและเพื่อนๆต่างพากันไปเที่ยวเป็นปกติทุกเดือนของวันที่เงินออกแต่ต่างตรงวันนี้เพื่อนๆกับเลือกที่จะชวนผมไปด้วยและที่ขัดไม่ได้เลยก็ตรงที่มีเจ้านายไปด้วยนั่นเองผมจึงลองไปกับพวกเพื่อนดูผมเองก็อยากรู้เหมือนกันว่ามันสนุกตรงไหนกันเชียว พอไปถึงมันก็เป็นสถานที่ ที่ มีแสงไฟสลัวๆ และก็มีโต๊ะมากมายมีผู้ชายวัยทำงานนั่งอยู่ทุกโต๊ะและมีผู้หญิงนั่งอยู่ข้างๆเพื่อที่จะคอยรินเครื่องดื่ม นวดตรงนั้น นวดตรงนี้ไปเรื่อยๆ และก็มีแต่เสียงเพลงที่ดังๆและฟังไม่ค่อยจะรู่เรื่องเท่าไหร่ ในความคิดของผม ผมคิดว่าสถานที่แห่งไม่น่าเข้ามาเที่ยวเลย งานวัดแถวบ้านผมสนุกกว่าตั้งเยอะ แต่ไหนๆก็มาแล้วยังผมก็จะลองเปิดใจเที่ยวแบบนี้ดูบ้างจะเป็นไร ในเมื่อเพื่อนๆก็มากัน ผมจึงนั่งลงและสนุกตามเพื่อนๆไม่นานผมก็รู้สึกว่ามันเริ่มที่จะสนุกแล้วเพราะข้างกายผมตอนนี้มันมีสาวมานั่งใกล้ๆคอยบริการผมทุกอย่าง และเสียงเพลงที่ดังขึ้นมันทำให้ผมนั้นเริ่มที่อยากลุกขึ้นไปเต้นและผมก็รู้สึกว่าการมาเที่ยวในครั้งนี้เป็นอะไรที่วิเศษมากที่เดียวผมเริ่มที่จะติดมันเริ่มที่จากการมาเที่ยวเดือนระครั้งเป็น อาทิตย์ระครั้ง และก็เกือบที่จะทุกวัน ชีวิตผมเปลี่ยนไปหลังจากนั้นจากคนรักครอบครัวกลายเป็นไม่ใส่ใจครอบครัวและทอดทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างไปอย่างไม่คิดเสียดายจนกระทั้งวันที่ผมถูกเจ้านายเรียกไปพบเพื่อตักเตือนพฤติกรรมของเขาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะเขาละทิ้งหน้าที่ของตนเองและเหตุการณ์ในครั้งนี้มันทำให้ผมนั้นถูกตัดเงินเดือนถึงยี่สิบเปอร์เซ็นและเป็นเวลาสามเดือนแต่ผมก็ไม่ได้เลิกนิสัยการเที่ยว การดื่ม แต่อย่างใด ผมกลับทำมันมากขึ้น มากขึ้น จนผมเริ่มที่จะใช้จ่ายเงินอย่างกับคนผมือเติบและผมก็ส่งเงินให้ทางบ้านลดน้อยลงเพื่อที่ผมจะได้มีเงินเที่ยวมากขึ้นผมเป็นอย่างนี้อยู่ได้ไม่นานเจ้านายก็เรียกพบผมอีกและส่งเด็ดขาดว่าให้ผมเลิกนิสัยแบบนี้สะไม่อย่างนั้นผมจะถูกไล่ออกสถานเดียวเมื่อได้ยินดังนั้นคำประกาศิตผมจึงเดินคอตกเหมือนไก่เป็นโรคออกมาจากห้องทำงานหัวหน้า ผมมานั่งพักอยู่ที่ห้องเป็นห้องพักธรรมดาที่อยู่ติดทางด่วน ผมเดินออกมานั่งอยู่ที่หน้าต่างมองออกไปและสายตาของผมก็ไปหยุดอยู่ที่ป้ายโฆษณาบนทางด่วนมันเป็นป้ายโฆษณาที่เกี่ยวกับโครงการบ้านอะไรสักอย่างที่ผมจำไม่ได้แต่ที่ผมจำได้ขึ้นใจคือรูปภาพที่ปรากฏอยู่เป็นภาพของครอบครัวที่หยอกล้อกันไปมาและบนหน้าของทุกคนก็มีรอยยิ้มปรากฏอยู่ ผมเห็นดังนั้นก็ถึงกับเข่าออ่นลงนี่ตัวผมลืมอะไรไปเล่าลืมไปเลยว่ามีคนคอยอยู่ข้างหลัง ลืมไปเลยว่ามีใครเฝ้ารอการกลับไปของผมอยู่ ไม่ได้แล้วมาถึงตอนนี้ผมจะต้องเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเองเสียใหม่แล้วผมต้องตั้งใจทำงานเก็บเงินไปฟื้นฟูที่ไร่ของผมให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม และทำให้ครอบครัวของผมกลับมามีความสุขและอยู่พร้อมหน้ากันอีกครั้งให้ได้เมื่อคิดได้ดังนั้นก็มีประโยคหนึ่งวิ่งเข้ามาในสมองผมว่า จงอย่าลืมครอบครัว แต่จงเลือกที่จะทำวันนี้เพื่อครอบครัวมากกว่า ชั้นรุ่งขึ้นผมเลือกที่จะไปทำงานแต่เช้าเพื่อที่จะเริ่มชีวิตใหม่ ผมทะเทกับการเริ่มต้นในครั้งนี้มากเลยผมทำแต่งานไม่สนใจชาวบ้านเข้าว่าจะเป็นไงก็ตาม ผมทำมาได้ระยะหนึ่งผมก็มีเงินเก็บมากพอที่จะกลับบ้านไปแล้วก็พัฒนาไรมันสำปะหลังของผมให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไม่ยาก และผมก็เลือกที่จะเดินทางกลับบ้านกลับไปหาสิ่งที่สำคัญที่สุดกลับบ้านไปหาวันวานที่ผมรอคอยตั้งแต่ที่ผมสำนึกผิดและกลับตัวผมใช้เวลาในการเกินทางประมาณสิบสองชั่วโมงในที่สุดผมก็มองเห็นหลังคาบ้านของผมเองแล้วและเมื่อรถแล่นมาจอดที่หน้าบ้านผมเดินลงรถอย่างภาคภูมิใจที่ได้กลับมาที่นี่อีกครั้งกลับมาหาวันวานที่ผมรอคอยผมเดินตรงเข้าไปในบ้าน บ้านที่เป็นบ้างของผมบ้านที่ผมเฝ้ารอมันมาเกือบหกเดือนที่จากไปผมหยุดถอดรองเท้าและวางกระเป๋าไว้ที่หน้าประตูและเดินเข้าบ้านไป นี่ก็เย็นมากแล้วทุคนคงอยู่ในครัวเพื่อที่จะทานข้าวกันแล้วสินะเมื่อคิกได้ดังนั้นผมจึงตรงเข้าไปในห้องครัวและสิ่งที่ผมคิดมันก็เป็นจริงเพราะทั้งภรรยาและลูกๆต่างพากันนั่งรอมวงกันทานข้าวกันตามแบบของคนต่างจังหวัดและเสียงที่ผมได้ยินไปเสียงแรกก็คือเสียงของลูกสาวทั้งสองคนที่ตะโกนคำว่า ?พ่อกลับมาแล้ว? มันทำให้ผมนั้นแทบที่จะหุบยิ้มด้วยความดีใจไม่ออกเลยผมก้มลงไปช้อนเจ้าตัวแสบทั้งสองขึ้นมาไว้ในออ้มกอดและกอดแบบที่ผมกลัวว่าเข้าจะหายไปจากผมอย่านั้นสักครู่หนึ่งแล้วจึงคลายออ้มกอดนั้นออกและปล่อยเขาไป ผมจึงเดินเข้าไปใกล้ๆภรรยาและสวมกอดด้วยความคิดถึง และผมก็พูดกับเธอว่า ?กลับมาแล้วสินะวันวานที่ผมรอคอย?
   จากเหตุการณ์ในตอนนั้นมันทำให้ผมคิดอะไรได้มากมายที่สำคัญผมไม่ต้องเสียสิ่งที่เรียกว่าครอบครัวไปและทำให้ผมมีวันนี้วันที่มีความสุขที่ได้อยู่กับครอบครัวครอบครัวที่ผมนั้นสร้างเอง




โดย นางสาวสิริพร เข็มเพ็ชรโต ศึกษาอยู่ชั้นปีที่ ๒ โปรแกรมวิชาภาษาไทย  คณะครุศาสตร์ มหาวทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.11 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!