จดหมายเหตุวัฒนธรรมกำแพงเพชร โดย อาจารย์สันติ อภัยราช
เมษายน 29, 2024, 12:00:37 am *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: จดหมายเหตุวัฒนธรรมกำแพงเพชร โดย อาจารย์สันติ อภัยราช
ยินดีต้อนรับสมาชิก และผู้เยื่ยมชมทุกๆท่าน
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่อง อย่าบวชเลยลูก นายพัฒพงษ์ เต่าทอง 541122844  (อ่าน 2739 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
apairach
Administrator
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1414


ดูรายละเอียด อีเมล์
| |
« เมื่อ: สิงหาคม 26, 2012, 05:19:16 pm »

เรื่อง อย่าบวชเลยลูก
ตัวละคร   
พระพุทธรูปสักดิ์สิทธิ์   แม่ นิสัย เป็นคนใจดี รักและเป็นห่วงลูกมาก
   พ่อ นิสัย เป็นคนเงียบๆ รักลูก ใจดีขยันทำงาน
   ลูก ขี่สงสาร ตามใจแม่ กล้าตัดสินใจ ดื่อ
   ป้า ขี่หลัง ขี่สงสาร และขี่กลัว
   พี่ ที่มาส่ง
   เพื่อนบ้าน
   มีเด็กคนหนึ่งชื่อเอ อาศัยอยู่กับพ่อและแม่ในบ้านหลังหนึ่งซึ่งอยู่ติดกับวัด วัดนี้ชื่อวัด อัมพาพนาราม ตั่งอยู่หมู่ที่ 1 ตำบลวังไทร อำเภอคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร อยู่ห่างจากตัวเมืองกำแพงประมาณ 45 กิโลเมตร มีพระพุทธรูปสักดิ์สิทธิ์ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่เคารพนับถือกันมานานทั่้งคนในหมู่บ้านและต่างจังหวัดว่า เป็นพระพุทธรูปสักดิ์สิทธิ์ที่ใครๆ ต่างขออะไรก็มักจะได้อย่างนั้น เชื่อว่าเป็นพระแห่งโชคลาภ
   ในขณะนั้นเอง เอ ก็ได้มีโอกาศเข้ามาวัดอยู่บ่อย เพราะบ้านเออยู่ไกล้วัด ชีวิตของเอก็กินนอนอยู่ที่วัดมาตลอด และเวลาปิดภาคเรียนของทุกๆปี เอก็มักจะมาบวชเป็นสามเณรตามโครงการบวชสามเณรภาคฤดูร้อนที่ทางวัดจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี และในปีนี้เอก็เรียนจบชั้นประถมศึกษาชั้นปีที่.6 จากโรงเรียนชุมชนวังไทรวิทยาคาร( ปัจจุบัน เปลื่ยนชื่อเป็น โรงเรียนอนุบาลวังไทร)
   และปีนี้เออยากจะบวชอีกเหมือนตามปกติที่เคย แต่ปีนี้แม่ของเอก็บอกกับเอว่า
อย่าบวชเลยลูก เอาไว้ปีหน้าเดียวค่อยบวชต่อ
ปีนี้ยังไม่ต้องบวชหรอก
   แต่ผู้เป็นแม่ก็ไม่ได้อธิบายต่อถึงสาเหตุที่ไม่ให้บวช เมื่อพ่อถามแม่ว่าทำไมไม่ให้ลูกมันบวช ที่ลูกบวชก็ดีอยู่แล้วจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง เดียวอยู่ที่บ้านก็ไปเล่นน้ำ เล่นเกมส์ เข้าป่าเข้าดง ต้องมาคอยเป็นห่วงเเปล่าๆ แต่พ่อก็ตามใจแม่โดยไม่ถามต่อ เพราะรู้ดีว่าสิ่งที่แม่ทำนั่นคงคิดดีแล้ว
   ความคาใจนั่นยังอยู่ในใจของผู้เป็นแม่ตลอดช่วงเวลานั้น คำสบประมาทที่เพื่อนบ้านพูดให้แม่ได้ฟัง แต่ด้วยบุญนำวาทสนาส่งหรืออาจเป็นบุญแต่ชาติปางเก่า ที่ทำมาทำให้เอได้บวชในที่สุด และครั้งนี้เอยังคิดไว้ด้วยว่าจะบวชเรียนต่อไปในระดับมัธยมไปอยู่กับรุ่นพี่ วัดเเห่งหนึ่งในตัวอำเภอ แต่ด้วยความรักความห่วงใยที่แม่มีทำให้แม่ต้องพึงความเชื่อทางไสยศาสตร์ แต่ปกติแม่ก็มักจะมีความชอบอยู่บ้างในเรื่องนี้
   หมอดูหรือที่บางคนอาจเรียกว่าหมอเดา สิ่งนี้มักจะมาคู่กันเสมอ หมอดูทักแม่ว่า
   ถ้าลูกของแม่คนนี้บวชเรียนจะเรียนไม่จบ จะต้องมีปัญหาอะไรสักอย่างที่ทำให้เขาเรียนไม่จบ ด้วยคำพูดที่หมอดูพูดประโยคนี้ทำให้แม่อดเป็นห่วงเอไม่ได้จึง ไม่ขอที่วัดว่าอย่าบวชเรียนต่อเลยลูก เป็นครั้งที่สองให้ไปสมัครเรียนต่อที่โรงเรียนมัธยมในหมู่บ้านดีกว่า แล้วเอก็ไปสมัครเรียนต่อที่โรงเรียน วังไทรวิทยาคม (หรือโรงเรียนหนองดอกบัวที่คนส่วนใหญ่รู้จัก) เป็นโรงเรียนประจำชุมชนที่ใหญ่สุด
   พอมาถึงวันที่ทางโรงเรียนกำหนดว่าจะต้องเข้ารับการปฐมนิเทศเพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่หลักสูตรการเรียนการสอนของทางโรงเรียน พรุ่งนี้แล้วที่เอจะต้องลาสึกขาทุกอย่างที่เตรี่ยมไว้ก็เสร็จหมดแล้วเสื้อผ้า น้ำมนต์ ข้าวตอกดอกไม่ ธูปเทียนสำหรับการจะลาสิกขาในวันรุ้งขึ้นของวันปฐมนิเทศวันแรก
   แต่เรื่องก็มักจะไม่จบลงง่ายๆ อย่างที่ทุกคนคิด เย็นวันก่อนถึงวันลาสึกขา เอได้ขอตามไปส่งเพื่อนที่บวชด้วยกัน เพราะเพื่อนคนนี้เขาได้บวชต่อ และจะไปบวชอยู่กับรุ่นพี่อยู่ที่่วัด นาควัชรโสภณ(วัดช้าง) ตั้งอยู่ทางไปศาลหลักเมืองเมือออกจากกำแพงคลองคู่เมืองแล้วเรี้ยวขวาก็จะเห็นป้ายวัดที่มีรูปช้างสามหัวตั้งอยู่เพื่อประกาศว่าที่นี่คือวัดช้าง
   วัดที่เพื่อนของเอไปบวชเรียนต่อ เขาได้ขอตามไปส่งเพื่อน เมื่อมาถึงวัดตั่งแต่ทางเข้ามาตลอดจนถึงหน้ากุฎิพักของสามเณร รวมถึงบรรยากาศต้างๆ ก็ทำให้เอคิดไปเรื่อยเปลื่อยว่าสถานที่เเห่งนี้ทำไมเหมือนว่าเราเคยมาอยู่ที่นี่ เคยมาที่นี่แล้วก่อนหน้านี้ เมื่อส่งเพื่อนเสร็จดูเวลาแล้วก็ใกล้จะค่ำลงทุกที ถึงเวลาที่ พี่ที่มาส่งต้องกลับ
   ความเศร้าความอารัยรัก ความคิดถึงเริ่มแสงฉายออกมาให้ทุกคนเห็นได้เต็มตาในตอนนั้น เป็นเสียงของเด็กคนหนึ่งร้องสอึกสอื่นขึ้นพร้อมกับมีน้ำตาที่ไหลเอิ่อออกมาที่ระหว่างขอบตา ที่อารัยในความคิดถึงบ้าน ทุกคนเริ่มมองเป็นตาเดียวกันว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็รู้อยู่ดีว่าน้องที่รักของเขารู้สึกและนึงอย่างไรใจตอนนั้น
   และเสียงสารภาพในใจก็ดังขั้นว่าผมไม่อย่ากอยู่คนเดียว ผมเหงา เด็กที่ไม่เคยออกจากบ้านไปไหนไกล้มาก่อน เด็กที่ไม่เคยอยู่ห่างจากออ้มกอดของแม่มาก่อน วันนี้เขาจะต้องจากบ้านไปเรืยนต่อ ต้องจากแม่ไปอยู่ในที่ที่เขาไม่รุ้จักหรือเคยอยู่มาก่อน ตอนนั้นเขาแค่อายุได้เพียง 12 ปีเท่านั้น
   เมื่อจบประโยคสนทนาสายตาก็มองมาที่เอ พร้อมคำพุดว่าแล้วใครจะอยู่เป็นเพื่อได้ละเขาก็จะกลับกันแล้วเอมันก็จะต้องกลับไปเรียนต่อ ก็ทนอยู่ไปก่อน หรือว่าจะกลับบ้านละ ตอนนั้นไม่มีเสียงตอบรับจากใคร มีแต่เสียงชักชวนที่ดังขึ้นว่า
   แล้วมึงจะบวชต่อกับกุหรือเปล่า
   จะได้อยู่ด้วยกันสองคน
แล้วพี่ที่มาก็เสริมต่อว่า
   อือ จะบวชก็บวชได้เดียวพี่จะกลับไม่บอกกับแม่
   และพ่อที่บ้านให้
   บวชมัย
   ใจของเอตอนนั้นก็อย่ากจะบวชต่อ แต่อีกใจหนึ่งก็สั่งหนังสือสมัครเรียนแล้วก็เตรียมทุกอย่างไว้แล้วคิดว่ายังไงพรุ่งนี้คงจะต้องลาสึกขาแน่ๆ แล้วถ้าเออยู่ต่อที่นี่แม่กับพ่อจะว่าอย่างไรกับเรื่องนี้ เอเริ่มคิดหนักและตักสินใจยาก และด้วยสถานะการณ์ที่บีบรัดบวกกับความสงสารเพื่อนที่เคยเล่นด้วยกันมาตลอดตั้งแต่เด็กๆ ทำให้เอตัดสินใจจะบวชต่ออยู่กับเพื่อนที่วัดแห่งนี้
   แต่เอขอให้พี่ๆ ที่มาส่งว่าให้กลับไปบอกแม่ผมด้วยว่าผมไม่กลับแล้ว จะบวชเรียนต่ออยู่ที่นี่ อย่าลือบอกกับแม่ผมด้วย ได้เดียวพี่จะกลับไม่บอกแม่เราให้ เสียงสัญญาของลูกผู้ชายทั้งสองฝ่ายถือว่าสิ้นสุดลงที่ตรงประโยคนั้น
   วันรุ่งขึ้นของอีกวันข่าวที่เอจะบวชต่อ ถึงหูพ่อกับแม่ทำให้ท่านทั้งสองร้องเนื้อร้อนใจเป็นอย่างมาก รีบเข้าเมืองมาหาลูกที่วัดตั่งแต่เช้าทั้งๆ ที่ไม่เคยมาวัดนี้มาก่อน เสียงที่สั่นพร่า กับดวงตาที่แดงกล่ำเริ่มมีน้ำตาซึมออกมา พร้อมเสียงพูดขึ้นว่า
   จะบวชจริงๆ หรือลูก
   จะอยู่ได้หรือเปล่า
   ถ้าอย่างไรก็อยู่ปีเดียวก่อนแล้วก็สึกก็ได้
เอยืนนิ่งเพื่อฟังแม่อยู่พักหนึ่งแล้วก็ได้จังหวะตอบ
   เอตอบแม่ว่าผมจะบวชต่อและถ้าอยู่ไม่ได้ก็จะสึกแต่จะลองอยู่ดูก่อนหนึ่งปี คำสบประมาท คำที่หมอดูพูด ทำให้แม่อดอั้นตันใจอย่างมากเป็นความเป็นห่วงลูก แต่ก็นึงถึงคำที่ป้าบอกแม่ว่า
   อย่างไปบังคับลูก
   ลูกจะเรียนอะไร
   ก็ตามใจเดียวลูกจะเครียดเอาได้
เพราะป้าก็เคยเสียลูกสาว เพราะเธอฆ่าตัวตาย ป้าเลยกลัวว่าหลานจะเป็นเหมือนกับลูกสาวของตัวเอง แม่จึงให้ผมบวชเรียนต่อตามคำแนะนำของป้า
   แม่ทิ้งเงินไว้ให้เอแล้วกลับบ้านอย่างไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่นักตลอดเวลาหนึ่งปีที่เอบวชเอกลับบ้านทุกๆ เดือนและร้องให้ทุกๆ เดือน เช่นกันด้วยความคิดถึงบ้านคิดถึงแม่กับพ่อ และคนที่อยู่ที่บ้านแต่เอก็ต้องทน ต้องแอบนั่งร้องให้อยู่คนเดียวในห้องสี่เหลี่ยมกับที่นอนเล็กๆของตัวเอง แต่เอและรวมถึงเพื่อนคนอื่นก็ต่อสู่ๆ กับสิ่งที่เข้ามาทำให้จิตใจของเอต้องเศร้าหมองเอต้องเอาชนะสิ่งเหล่านี้มาตลอด
   ระยะเวลา 3 ปี ที่ผ่านมาเอเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เอคิดจะลาสิกขาจึงโทรศัพท์ไปหาแม่บอกกับว่า
   เอ   จะสึกแล้ว
   แม่   จะให้สึกมั้ย
   ในใจตอนนั้นแม่รู้และเข้าใจแล้วว่าการบวชของลูกเรามันดีแค่ไหน แม่ก็ไม่อยากให้ลูกสึกอยากจะให้ลูกบวชต่ออีกสามปีก่อน ให้เรียนจบ ม.6 ก่อนแล้วจะสึกแม่ก็ไม่ว่า
   จากตอนแรกแม่ไม่อยากให้ลูกชายตัวเองบวชแต่ตอนนี้แม่กลับไม่อยากให้ลูกสึก เพราะแม่รู้ดีว่าที่ลูกของแม่มาบวชมันทำให้แม่มีความสุขมากและเป็นผมดีต่อลูกแค่ไหน ความสุขที่แม่ได้จากการที่เอทำตามใจตัวเองในการเลือกที่จะบวชกับทำตามความปราถนาของแม่ทุกคน คือเรียนหนังสือ ไม่เที่ยวเกเร ไม่ดื่มไม่กิน และอยู่ในร่มกาสาวพัสตร์ ที่มีเกาะป้องกันในตัวเองน้อยคนนักที่จะมีโอกาศแบบนี้
   เวลาที่เอกลับบ้านหรืออยู่วัดใครต่อใครก็ชมแม่ว่าทำบุญอะไรมา คงทำบุญมาดี มีลูกก็ดีไปบวชเรียน ไม่ต้องมาเกเระเกเรอยู่แถวบ้านเหมือนลูกคนอื่นเขา แม่ของเอยิ้มแทบปากจะฉีกหู (แม่บอกเอภายหลัง) จากตอนแรกที่แม่เอต้องกลัวคนอื่นจะว่า และกลัวคำที่หมอดูพูดจะเป็นจริง และอีก 3 ปี ให้หลังจากต่อมาเอก็บวชเรียนจนจบ ชั้น ม.6 และลาสิกขาออกมาศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยราชภัฎกำแพงเพชร ปัจจุบันศึกษาอยู่โปรแกรมวิชาภาษาไทย คณะครุศาสตร์ ชั้นปีที่ 2/55
   ผมดีใจที่ได้ทำให้พ่อกับแม่มีความสุข จากการที่เราทำให้ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรือกังวลกับเรื่องของเรา ว่าจะไปมีเรื่องกับใคร หรือจะไปเกเรที่ไหน แม่ผมหดมห่วงในเรื่องนี้มาตลอด 6 ปีเต็ม ถึงแม้ผมจะทำได้แค่นี้ผมก็มีความสุขแล้ว ที่ได้ทำให้พ่อกับแม่ของผมสบายใจและภูมิใจในตัวผม ถึงแม้จะเป็นระยะเวลาสั่นๆ ก็ตาม
   แล้ววันนี้ล่ะ ! คุณทำอะไรให้พ่อกับแม่ของคุณมีความสุขบ้างหรือยัง ถ้ายังคุณควรคิดได้แล้วว่าวันนี้คุณมัวแต่ทำอะไรกันอยู่...............
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.11 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!