จดหมายเหตุวัฒนธรรมกำแพงเพชร โดย อาจารย์สันติ อภัยราช
เมษายน 24, 2024, 01:23:51 am *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: จดหมายเหตุวัฒนธรรมกำแพงเพชร โดย อาจารย์สันติ อภัยราช
ยินดีต้อนรับสมาชิก และผู้เยื่ยมชมทุกๆท่าน
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องพลังของชีวิต นางสาว โสรยา สุวารี คณะครุศาสตร์ มรภ.กพ  (อ่าน 3234 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
apairach
Administrator
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1414


ดูรายละเอียด อีเมล์
| |
« เมื่อ: สิงหาคม 26, 2012, 10:22:15 am »

พลังของชีวิต

       ครอบครัวหนึ่งซึ่งพร้อมด้วยความสุขครอบครัวที่เปรียมไปด้วยรักครอบครัวนี้มีกันอยู่ 3 คน  มีพ่ออุดม แม่ขวัญใจ และลูกสาวที่ชื่อแก้วตา แก้วตาเป็นเด็กสาวที่อายุเพียง 12 ปี เธอเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวพี่อุดมและแม่ขวัญใจรักเขาดังแก้วตาดวงใจยิ่งพ่ออุดมด้วยแล้วนั้นเขาเป็นคนที่รักลูกสาวมากและแก้วตาเป็นเด็กที่ไม่ยอมใครถ้าต้วเองไม่ผิด พ่อรักเขาประเภทที่เรียกได้ว่ายุงไม่ให้ไต่ไลไม่ให้ตอม พ่ออุดมเป็นคนที่ดุมากหวงลูกสาวเป็นคนที่มีความน่าเกรงขามไม่ว่าแม่ขวัญใจหรือแก้วตาก็ต่างเกรงกลัวและเคารพในการตัดสินใจของพ่ออุดมทั้งนั้นแม่ขวัญใจเป็นคุณแม่ที่ยังดูสาวอยู่ตลอดเวลาแม่ขวัญใจใจดีมากแม่จะคอยอยู่เคียงข้างแก้วตาและเข้าใจแล้วตามาเสมอ แก้วตาจึงไม่ค่อยจะกลัวแม่ขวัญใจซักเท่าไร  พ่ออุดมกับแม่ขวัญใจอายุต่างกันมากถึง 10 ปี ครอบครัวของพ่ออุดมมีอาชีพทำการเกษตรทุกคนมีความสุขในอาชีพนี้  แต่อยู่มาไม่นานบ้านเริ่มมีปัญหาจนสุดท้ายพ่ออุดมและขวัญใจก็ได้เลิกลากันสวนแก้วตาต้องอยู่กับพ่อเพราะเหตุผลหลายๆอย่างในตอนนั้นการดำเนินชีวิตของแก้วตาเริ่มเปลียนแปลงไปเพราะความไม่เหมือนเดิมของครอบครัวพ่ออุดมเสียใจมากกับเหตุการที่เกิดขึ้นและไม่สามารถย้อนเวลาได้อีกพ่ออุดมเปลี่ยนไปเป็นคนละคนพ่อเริ่มเอาแต่กินเหล้า ไม่สนใจไร่นาไม่ฟังใครทั้งนั้นแม้กระทั่งแก้วตาเด็กหญิงผู้นี้น่าสงสารความรักความอบอุ่นที่เคยได้รับจากพ่อและแม่ต้องขาดหายไปเด็กอายุเพียง 12 ปี ต้องคอยดูแลงานบ้านซักเสื้อผ้าพ่อและของตัวเอง ต้องทำกับข้าวให้พ่อกินทุกๆวันแก้วตาทำแบบนี้เป็นประจำ  จากความไม่เหมือนเดิมของพ่ออุดมทำให้แก้วตาคิดเสมอว่าเธออยู่เพียงคนเดียวบนโลกใบนี้ทำไมสวรรค์ต้องให้เด็กคนหนึ่งต้องเจอเหตุการณ์มากมายขนาดนี้ด้วยความหว่าเหว่เดียวดายในความคิดของเธอ แก้วตาก็เริ่มติดเพื่อนเริ่มเที่ยว แต่เธอก็ไม่ได้ทำอะไรเสียหายเพียงแต่แก้วตาเริ่มเข้าบ้านมืดเพราะความเหงาแก้วตาจึงอยู่กับเพื่อนมากกว่าที่จะอยู่บ้านจนอยู่มาวันหนึ่งคำพูดต่างๆนานาก็เริ่มเกิดขึ้นกับครอบครัวของแก้วตา แก้วตาเริ่มรู้สึกน้อยใจในโชคชะตาของตัวเองมากยิ่งขึ้น
     หลังจากที่คำพูดของชาวบ้านพูดกันต่างๆนานานั้นว่าเธอเป็นเด็กใจแตกบ้าง อะไรมากมายเรื่องทั้งหมดก็เข้าหูพ่ออุดมจนทำให้แก้วตาโดนลงโทษชุดใหญ่เพราะพ่ออุดมไม่ยอมฟังแก้วตาอีกเลยหลังจากเลิกลากับแม่ขวัญใจ พ่ออุดมเชื่อแต่คนอื่นจึงทำให้แก้วตารู้สึกคิดถึงแม่ขวัญใจมากขึ้นทุกทีแต่แก้วตาไม่สามารถติต่อกับแม่ขวัญใจได้เลยเด็กผู้หญิงคนนี้ต้องนอนร้องไห้ทุกค่ำคืนและอีกสองปีต่อมาพ่ออุดมได้แต่งงานใหม่กับใครไม่รู้แก้วตาทำใจยอมรับไม่ได้เลยแม้กระทั่งกันแต่งงานของพ่อแก้วตาก็ไม่ไปเอาแต่นั่งร้องไห้ว่าทำไมต้องเป็นแบบนี้แก้วตาได้แต่นั่งร้องไห้ไม่หยุดเธอรู้สึกเจ็บปวดมากกับการที่ต้องมีใครอีกคนเข้ามาในครอบครัวแก้วตาพูดกับตัวเองเสมอว่า เราต้องเข้มแข็งตอนนั้นแก้วตาก็พยายามติดต่อแม่ขวัญใจให้ได้แต่ก็ไม่สำเร็จเธอได้ใช้ชีวิตอยู่ในครอบครัวเดียวกันกับแม่เลี้ยงไม่นานเพราะแก้วตาไม่อยากทำให้พ่อลำบากใจเพราะแม่เลี้ยงของเขาเสแสร้งแกล้งทำดีแก้วตากลัวอดใจไม่ได้ที่จะมีปัญหาเขาจึงได้ย้ายไปอยู่กับย่าญาติของพ่ออุดมไม่ค่อยชอบพ่ออุดมนักเพราะพ่ออุดมเป็นคนที่มั่นใจในตัวเองสูงไม่ค่อยฟังใครญาติๆเลยพลอยไม่ชอบแก้วตาไปด้วยหาว่าแก้วตาเป็นคนไม่ดีแต่แก้วตาก็พยายามพิสูจณ์ให้ญาติๆเห็นจนแก้วตาเป็นที่รักของทุกคนโดยเฉพาะปู่กับย่า ย่าพร่ำสอนแก้วตาเสมอว่าอย่าไปโกรธพ่อหรือเกรียดพ่อ พ่อไม่ว่าจะดีหรือจะเลวก็พ่อของเราแต่แก้วตาก็ไม่เคยคิดที่จะโกรธพ่อเลยแม้แต่น้อยเดียวเขากับรักพ่อและสงสารที่ใครๆต่างพากันดูถูกของเขาแก้วตาเริ่มตั้งใจเรียนเพื่อให้พ่อชื่นใจในตัวเขาถึงแม้เขากับพ่อจะไม่ใกล้ชิดกันเหมือนเคยก็ตาม
       เขาตัดสินใจที่จะเริ่มสิ่งใหม่ๆเริ่มที่จะเข้มแข็งแก้วตาไม่เคยร้องไห้หรือแสดงให้ใครๆเห็นอีกเลยว่าเราทุกข์ใจถึงแม้เขาเหนื่อยหรือรู้สึกท้อเขาก็ร้องไห้คนเดียวเพราะ ย่าได้พูดกับแก้วตาว่า ?แก้วรู้ไหมคนที่เป็นทุกข์อยู่แล้วทำให้คนใกล้ตัวทุกข์ด้วยแล้วนั้นเราก็จะไม่มีความสุขแต่ถ้าเราอยู่แล้วทำให้คนอื่นมีความสุขนและสุขนั้นก็จะตอบสนองเราเอง? และย่าก็ยังพูดกับแก้วอีกว่า ?ย่ารู้ว่าแก้วต้องทนความเจ็บปวดที่อยู่ในใจมานานแสนนานแต่แก้วจงรู้ไว้นะว่าน้ำตาไม่ได้แสดงว่าเราอ่อนแอแต่เราจงเก็บน้ำตาที่เราเสียไปมาเป็นบทเรียนของชีวิตนะลูกเก็บความเสียใจมาเป็นพลังเพราะว่าคนเราไม่ได้มีวันนี้แค่วันเดียว สักวันมันต้องมีวันที่เป็นของเรา? แก้วตาได้นำคำของย่าและอยากเห็นพ่อมีความสุข สบายเหมือนคนอื่นๆเขามาเป็นแรงพลักดันในชีวิตและอีก 6 ปีต่อมาแก้วตาก็เจอกับแม่ขวัญใจหลังจากรอมนานถึง 8 ปีเขาสองคนติดต่อกันตลอดหลังจากวันนั้นแก้วตาได้เดินมาถึงความสำเร็จของชีวิต เธอนำใบปริญญามามอบให้พ่อ ปู่ ย่า และแม่ของเขาได้ชื่นใจแก้วตาได้ก้มกราบเท้าพ่อแม่ ปู่และย่าของเขาแล้วก็ได้บอกกับทุกคนว่าแก้วทำได้แล้วนะจะถึงแม้ชีวิตที่ผ่านมาแก้วผ่านอะไรมากมายแต่แก้วไม่เคยคิดโกรธพ่อ กับ แม่เลย แก้วอยากให้รู้ว่าขอบคุณที่ทำให้แก้วมีวันนี้ขอบคุณที่สอนให้แก้วได้รู้ว่าคุณค่าของชีวิตไม่ได้อยู่กับเงินทองแต่มันอยู่ที่เรากระทำและทำให้แก้วรู้ว่าความรักใดในโลกไม่ยิ่งใหญ่เท่าของพ่อกับแม่ถึงแม้ไม่ได้แสดงออกแต่รับรู้ได้โดยสายเลือดและในที่สุดแก้วตาได้ทำอย่างที่ตั้งใจจะทำให้กับพ่อแม่และทุกๆคนที่แก้วรักได้ภูมิใจในตัวแล้วและเขาก็ลบคำสบประมาทของผู้คนได้จนทำให้ใครๆต่างพากันอิจฉาพ่ออุดมที่มีลูกอย่างแก้วตา
   นางสาว โสรยา สุวารี คณะครุศาสตร์ โปรแกรมวิชาภาษาไทย ห้อง 28
       
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.11 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!