จดหมายเหตุวัฒนธรรมกำแพงเพชร โดย อาจารย์สันติ อภัยราช
เมษายน 24, 2024, 09:24:06 am *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: จดหมายเหตุวัฒนธรรมกำแพงเพชร โดย อาจารย์สันติ อภัยราช
ยินดีต้อนรับสมาชิก และผู้เยื่ยมชมทุกๆท่าน
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่อง พรุ่งนี้ยังไม่สาย โดยนางสาวจารุวรรณ ทองแดง  (อ่าน 2849 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
apairach
Administrator
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1414


ดูรายละเอียด อีเมล์
| |
« เมื่อ: สิงหาคม 26, 2012, 09:58:38 am »

เรื่อง  พรุ่งนี้ยังไม่สาย

ครอบครัวที่แสนสุขเป็นครอบครัวเล็กๆครอบครัวนี้มีสมาชิกในบ้าน 3 คน คือ พ่อ แม่ และแบงค์ เป็นลูกชายคนเดียวของพ่อกับแม่ ครอบครัวของแบงค์เป็นครอบครัวเล็กๆ ที่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ตอนที่แบงค์ยังเป็นเด็ก  แบงค์เป็นเด็กที่น่ารักมาก พ่อกับแม่และญาติพี่น้องรักแบงค์มาก ในตอนที่แบงค์ยังเป็นเด็ก แบงค์เป็นเด็กที่น่ารักตัวอ้วนและตัวโต  เพราะในความอ้วนและตัวโตของแบงค์ในวัยเด็กทำให้พ่อกับแม่แบงค์คิดว่าแบงค์คงจะตัวโตไปกว่านี้แน่ เพราะตัวอ้วนแล้วตัวโตแต่ก็น่ารักตามประสาเด็กของแบงค์  พอแบงค์โตขึ้นแบงค์ตัวสูงและผอมแต่งต่างจากอชตอนที่เป็นเด็ก แบงค์อายุได้ 12 ปี ซึ่งแบงค์กำลังเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆบ้าน  ตอนที่แบงค์เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาที่ 6 แบงค์เป็นเด็กดีมากช่วยงานพ่อกับแม่ทุกอย่าง  พ่อกับแม่ของแบงค์ประทับใจในตัวแบงค์มาก  ครอบครัวของแบงค์เป็นครอบครัวที่ไม่ฟุ่มเฟือยพออยู่พอกิน  พ่อกับแม่ของแบงค์มีอาชีพทำไร่ และเลี้ยงวัวของครอบครัวแบงค์เอง  บ้างครั้งแบงค์ก็จะไปเลี้ยงวัวกับพ่อ  ส่วนแบงค์พอกลับมจากโรงเรียนแบงค์จะทำงานบ้าน  หุงข้าว  ล้างจาน  กวาดบ้าน  ถูกบ้าน  รอพ่อกับแม่กลับมาจากไร่แล้วเลี้ยงวัว  หลังจากที่แบงค์ทำงานบ้านเสร็จแบงค์ก็มานั่งทำการบ้านที่คุณครูมอบหมายให้จากโรงเรียน  ตอนที่แบงค์ยังเรียนอยู่ประถมศึกษาแบงค์ไม่ได้ใช่จ่ายอะไรฟุ่มเฟือยมากนัก  พอแบงค์เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 แบงค์ก็ได้ไปเรียนต่อชั้นมัธยมที่โรงเรียนไม่ไกลจากบ้านนัก  เป็นโรงเรียนประถมที่มีตั้งแต่อนุบาลถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่  3 ตอนที่แบงค์เข้าเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 1  แบงค์ก็ยังเป็นเด็กดีเหมือนเดิม  เพราะว่ายังไม่รู้จะเพื่อนมากเท่าไร  แบงค์ก็ยังทำหน้าที่ที่บ้านเหมือนเดิมเหมือนที่เคยทำทุกวัน  เมื่อเลิกจากโรงเรียนพอแบงค์เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 แบงค์เริ่มรู้จักเพื่อนมากขึ้น  แบงค์เริ่มติดเพื่อน  ไม่ทำงานบ้านเหมือนที่เคยทำ  ไม่ทำการบ้านและก็ไปโรงเรียนสายเป็นประจำ  เพราะการที่แบงค์คบเพื่อนที่เกเร  ทำให้แบงค์เป็นคนชอบเที่ยว  กินเหล้า  แล้วก็เสพสิ่งเสพติด  เริ่มใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือย และก็ทะเลาะวิวาทจนพ่อกับแม่กลุ้มใจมาก  พ่อกับแม่ต้องทำงานเพิ่มมากขึ้น  เพราะแบงค์เริ่มใช้เงินมากขึ้น  โดยที่แบงค์ไม่รู้เลยว่าพ่อกับแม่ทำงานหนักเพื่อแบงค์  พอพ่อกับแม่ได้เงินมาจากที่ทำงาน  พ่อกับแม่ก็ต้องเอาเงินที่ทำงานมาให้แบงค์  แบงค์ติดเพื่อนมากขึ้น  แบงค์ก็เข้าบ้านไม่เคยตรงเวลา  แบงค์เริ่มเป็นเด็กเกเร  เวลาที่แบงค์กลับบ้านดึกพ่อกับแม่รอแบงค์จนกว่าแบงค์จะกลับ  แม่รักแบงค์มาก  แม่รู้ว่าแบงค์ชอบกินอะไรแม่ก็จะรอแบงค์ทุกครั้ง  แต่แบงค์ไม่เคยกลับมาตรงเวลา  จนแม่คิดน้อยใจคิดว่าแบงค์ไม่รักแม่  พ่อกับแม่ฝ่ายเดียวหรือเปล่าที่รักแบงค์  จากแบงค์ที่ตอนเป็นเด็กน่ารักมีแต่คนรักเปลี่ยนเป็นความเกลียดของชาวบ้าน  เพราะไปสร้างปัญหาให้กับชาวบ้าน  สร้างความรำคาญให้กับชาวบ้าน  จนกระทั่งแบงค์จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3  แบงค์ก็ได้เรียนต่ออาชีวะแห่งหนึ่ง  แบงค์ยิ่งเกเรมากขึ้น  ไม่กลับบ้านเลยอยู่แต่กลับเพื่อน  จนจบ  ป.ว.ช3  ด้วยความเกเรของแบงค์ทำให้แบงค์ขี้เกียจเรียน  แบงค์จึงไปทำงานอยู่ที่กรุงเทพ  จากการที่แบงค์ไปทำงานทำให้แบงค์มีความรับผิดชอบมากขึ้น  จากที่เมื่อก่อนพ่อกับแม่ต้องทำงานส่งแบงค์เรียน  พอแบงค์ไปทำงาน  แบงค์มีความรับผิดชอบด้วยที่ส่งเงินมาให้พ่อกับแม่ทุกเดือน  ไม่ใช้เงินฟุ่มเฟือยทำให้แบงค์เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นรู้จักช่วยเหลือตัวเอง  จากคนเกเรกลายเป็นคนดีขึ้นมาได้  ญาติพี่น้องกับมารักอีกครั้ง  แต่เรื่องกินเหล้าของแบงค์ก็ยังมีอยู่แต่แบงค์ไม่ได้กินทุกวันเหมือนตอนที่ยังเรียนอยู่  แบงค์กินเฉพาะช่วงเทศกาลเท่านั้น  หลังจากที่แบงค์ทำหลายปี  พ่อกับแม่แบงค์เคยพุดกับแบงค์ว่าอยากให้แบงค์เป็นทหาร  แบงค์จึงตัดสินใจไปสอบทหาร  สิ่งที่แบงค์คาดไม่ถึงคือแบงค์สอบทหารติด  แบงค์ดีใจมากรีบโทรบอกพ่อกับแม่  พ่อกับแม่และญาติๆต่างดีใจ  พอแบงค์ได้เป้นทหารแบงค์เป็นคนมีระเบียบมากขึ้นอยู่ในกฎมาขึ้น  จากนั้นแบงค์ก็ได้ทำในสิ่งที่แบงค์คาดไม่ถึงให้พ่อกับแม่สำเร็จ  จากที่มีคนดูถูก  มีแต่คนเกลียด  กับมีแต่คนให้เกียรติและยกย่อง  จากเด็กที่เกเรกลายเป็นเด็กที่ดีได้ ?พรุ่งนี้ยังไม่สาย?
ข้อคิดที่ได้
   ขอบคุณคำดูถูกที่ทำให้ผู้ชายคนหนึ่งลุกขึ้นสู่  โดยที่ไม่ยอมถอยจนเป็นผลสำเร็จ


                                                                                                     นางสาวจารุวรรณ ทองแดง
                                                                                                     โปรแกรมวิชาภาษาไทย
                                                                                                      คณะครุศาสตร์
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.11 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!