จดหมายเหตุวัฒนธรรมกำแพงเพชร โดย อาจารย์สันติ อภัยราช
เมษายน 19, 2024, 09:49:49 am *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: จดหมายเหตุวัฒนธรรมกำแพงเพชร โดย อาจารย์สันติ อภัยราช
ยินดีต้อนรับสมาชิก และผู้เยื่ยมชมทุกๆท่าน
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องสั้นเรื่อง เงา โดยนางสาวพรทิพย์ พ่วงแตง คณะครุศาสาตร์ โปรแกรมวิชาภาษาไทย ชั้นปีที่  (อ่าน 4972 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
apairach
Administrator
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1413


ดูรายละเอียด อีเมล์
| |
« เมื่อ: สิงหาคม 26, 2012, 09:43:41 am »

เงา
แสงไฟจากเสาไฟฟ้าข้างถนน ส่องลอดผ่านเข้ามาตามช่องของหน้าต่างที่เปิดทิ้งไว้  ทุกอย่างเงียบไปหมด ได้ยินเพียงเสียงหมาที่คอยวิ่งไล่กัดกันเพียงครู่เดียวเท่านั้น และแล้วเสียงที่เกิดขึ้นตามมาก็คือเสียงฝีเท้าคนที่กำลังเดินย่องแบบเบาๆ ค่อยๆก้าวเดินอย่างช้าๆ  เสียงนั่นเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ มาพร้อมกับเงา เงาที่สูงใหญ่น่ากลัว และมันก็เข้ามาใกล้จนจะถึงตัวอยู่แล้ว คุณพระคุณเจ้า ช่วยลูกด้วย
เสียงเครื่องจักรกำลังทำงาน แต่ฟ้ามันยังสลัวอยู่เลย พยายามลืมตาที่มันหนักและเกรอะกรังไปด้วยขี้ตาหันไปมองดูนาฬิกาที่แขวนอยู่ อะไรกันตีสามแล้วหรือนี่ เวลามันช่างเร็วเหลือเกิน ฉันจึงต้องพยายามพาร่างที่บอบบางของฉันลุกจากที่นอนแต่มันไม่เป็นอย่างที่ใจต้องการเพราะร่างนั้นมันแฝงไปด้วยความขี้เกียจแบบจัดเต็มมันหนักสะเหลือเกิน แต่ฉันก็ต้องรวมพลังลุกออกจากที่นอน เมื่อลุกจากที่นอนได้แล้วฉันก็เดินเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตาให้มันสดชื่นพร้อมที่จะทำงานได้ งานที่ฉันทำเป็นงานที่ตระกูลของฉันทำกันมาหลายปีแล้ว เหมือนว่าเป็นมรดกตกทอดอะไรแบบนี้ และตอนนี้อาของฉันก็ได้รับมรดกนี้ไว้
ฉันอาศัยอยู่กับอาตั้งแต่ฉันเข้าเรียน ม.๑ เพื่อช่วยเขาทำงาน แล้วอาก็เลี้ยงและส่งฉันเรียนหนังสือเนื่องจากพ่อของฉันไม่สามารถจะส่งฉันเรียนได้เพราะพ่อก็มีอาชีพไม่มั่นคง ทำงานแลกข้าวไปวันๆ พ่อกลัวว่าจะเลี้ยงและส่งฉันเรียนไม่ไหว จึงส่งฉันมาอยู่กับอา  ครอบครัวของอาก็มีกันอยู่หลายคนมีอา  อาเขย  ลูกๆของเขาอีกสามคน ทุกคนก็จะมีหน้าที่ในการทำงานต่างกันไป 
ทุกวันฉันจะต้องตื่นตอนตีสาม แต่บางทีฉันก็ไม่อยากลุกแอบหลับตานอนต่อจนถึงตีสี่ แล้วค่อยลุกและฉันก็จะทำงานของฉันเสร็จประมาณเจ็ดโมงเช้า ก็จะรีบกุรีกุจอไปรีดชุดนักเรียน อาบน้ำ และแต่งตัวไปโรงเรียน ฉันทำแบบนี้เป็นประจำ มันเป็นภาพเดิมๆที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลย
แต่มันเป็นเรื่องที่แปลกมาก บางคืนตอนฉันนอนฉันจะเห็นเงาอะไรบางอย่างพุ่งตรงมาที่ฉัน มันทำให้ฉันหวาดกลัวมาก ฉันอยากจะบอกว่าฉันกลัวผีที่สุด แค่คิดก็ขนลุกแล้ว แม้กระทั่งตอนฉันอาบน้ำฉันก็รู้สึกว่ามีดวงตากำลังจ้องมองมาที่ฉัน เสียวหลังอย่างไรชอบกล แต่ฉันก็ไม่เคยเห็นตัวเต็มๆของเงานั่นสักที ถึงกระนั้นก็ไม่อยากให้สิ่งที่คิดมันเป็นจริง และเป็นที่น่าสงสัยมากทำไมเงานั้นถึงมาให้ฉันเห็นเพียงคนเดียว ทำไมไม่ไปหาคนอื่นๆในบ้านบ้าง พอฉันไปเล่าให้ใครฟังก็ไม่มีคนเชื่อฉัน ?บ้า ตาฝาด ผีมันมีที่ไหน นอนดึกก็เป็นแบบนี้แหละ?   ทุกคนจะตอบฉันเมื่อฉันถามและคำตอบของทุกคนก็จะแบบนี้ทั้งนั้น ฉันจึงคิดว่าฉันอาจจะตาฝาดขึ้นมาจริงๆก็เป็นได้
ในคืนหนึ่ง  ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมา แสงไฟมันส่องมาที่ตาของฉัน ปวดตามาก แต่คืนนี้ฝนตกปรอยๆแบบว่าตกมาให้นอนแบบเบาสบาย สักพักหนึ่งฉันก็ต้องสะดุ้งโหยง ฉันได้ยินเสียงประตูเปิด เปิดช้าๆอย่างน่ากลัว ตามมาด้วยเงาร่างสูงใหญ่ที่ฉันคุ้นตามาก เหมือนกับเงาที่ฉันเห็นทุกคืน ฉันนอนตัวแข็งทื่อ เป็นความกลัวสุดขีด เงานั้นค่อยๆขยับเข้ามาใกล้ฉันทีละนิด ทีละนิด ฉันตั้งสติได้เลยพนมมือ ท่องนะโม แล้วก็คาถาชินบัญชร เอาให้รู้กันไปเลยว่ามันจะทนฟังได้หรือเปล่า แล้วฉันก็ท่องจนจบ เงานั้นมันยังอยู่ที่เดิม ทำให้ฉันหัวใจแทบวาย ?นี่มันไม่กลัวแม้กระทั่งคาถาชินบัญชรเลยหรอ เวรกรรม เราจะทำยังไงดี มันช่างแข็งแกร่งอะไรเพียงนี้?  เหมือนมันจะรู้ว่าเราเห็นมันเข้าแล้ว มันก็ค่อยๆขยับเข้ามาใกล้ฉันอีก ฉันกลัวมากแทบช็อกตายได้เลยก็เป็นได้  มันขยับเข้ามาเรื่อยๆฉันเริ่มเห็นเงามันชัดขึ้น ดวงตามันใหญ่มาก ขนาดมันยังไม่ได้เข้าใกล้ฉันมากเท่าไหร่ ถ้ามันเข้าใกล้ฉันมากกว่านี้ตาของมันจะใหญ่เท่าไหนกันนะ  มันเริ่มเข้ามาใกล้ ใกล้จนถึงตัวฉันพอดี
แล้วฉันก็ต้องประหลาดใจกับสิ่งที่ฉันเห็น ฉันเห็นเงานั่นเป็นอาเขยของฉันเอง ฉันก็โล่งใจว่าไม่ใช่ผี แต่ทำไมอาเขยถึงมาหาเราตอนกลางคืนด้วย แล้วเงาที่เป็นอาเขยก็ลงมานอนกับฉันที่กำลังนอนตัวแข็งทื่ออยู่ เขาพยายามจะกอดรัดฟัดเหวี่ยงฉัน เมื่อฉันตั้งสติได้ฉันก็ร้องกรี๊ดให้คนช่วย ด้วยเสียงกรี๊ดที่สงพลังของฉัน ทำให้ทุกคนในบ้านพากันตื่นอย่างรวดเร็ว เปิดไฟทั่วบ้าน ทำให้บ้านที่มืดสนิทกลายเป็นบ้านที่ตอนนี้มีไฟแจ่มแจ้งทั้งบ้าน
และเมื่อทุกคนวิ่งมาที่ต้นตอของเสียงก็พบว่าอาเขยกำลังนอนกอดฉันอยู่ ทุกคนได้แต่ตะลึงในภาพที่ได้เห็น ฉันได้แต่กลัว มือเท้าเกร็งไปหมด ไม่รู้ว่าฉันกลัวอะไร น้ำตาไหลไม่หยุด  ทุกคนจึงเข้ามาปลอบฉัน เมื่อฉันพอจะหายจากอาการตระหนกแล้ว ฉันจึงเล่าความจริงให้ทุกคนฟังถึงเหตุการณ์เมื่อกี้ ทุกคนก็เข้าใจและได้หันไปต่อว่าอาเขยที่ทำหน้ามึน ไม่รู้เรื่องกับสิ่งที่เกิดขึ้นแม้แต่อย่างน้อย 
อะไรกัน เงาที่ฉันคิดว่ามันเป็นผี มันกลับกลายเป็นอาเขยที่จะย่องเข้ามาทำมิดีมิร้ายกับฉันเองหรอ นี่ ขนาดเป็นญาติกันแท้ๆยังคิดที่จะทำกันได้ แล้วจะนับภาษาอะไรกับคนอื่น
คนเรารู้หน้า ไม่รู้ใจจริงๆ













นางสาวพรทิพย์  พ่วงแตง    นักศึกษาโปรแกรมวิชาภาษาไทย
คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร
บันทึกการเข้า
apairach
Administrator
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1413


ดูรายละเอียด อีเมล์
| |
« ตอบ #1 เมื่อ: สิงหาคม 29, 2012, 09:23:44 pm »

โครงเรื่องดี ชื่อเรื่องดี น่าสนใจ มีการถ่วงเรื่องที่น่าสนใจ ถ้ามีย่อหน้า มีบทสนทนาชัดเจน จะน่าสนใจมาก ให้ ๘ คะแนน พยายามต่อไป
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.11 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!