จดหมายเหตุวัฒนธรรมกำแพงเพชร โดย อาจารย์สันติ อภัยราช
เมษายน 25, 2024, 03:08:58 am *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: จดหมายเหตุวัฒนธรรมกำแพงเพชร โดย อาจารย์สันติ อภัยราช
ยินดีต้อนรับสมาชิก และผู้เยื่ยมชมทุกๆท่าน
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: รู้จัก สวรรค์ ในศาสนา พุทธ คริสต์ อิสลาม จะไปสวรรค์กันได้อย่างไร  (อ่าน 16937 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
apairach
Administrator
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1414


ดูรายละเอียด อีเมล์
| |
« เมื่อ: เมษายน 26, 2012, 09:21:51 am »

รู้จัก สวรรค์ ในศาสนา พุทธ คริสต์ อิสลาม    ในศาสนาพุทธ
   สวรรค์ หรือ เทวโลก มี 6 ชั้น ซึ่งเรียกว่า ฉกามาพจร มีดังนี้


1. จาตุมหาราชิกา มีท้าวมหาราชทั้ง 4 เป็นผู้ปกครอง คือ
-     1. ท้าวธตรฐ ปกครองเทวดา 3 พวก ได้แก่ คนธรรพ์ วิทยาธร กุมภัณฑ์
      -2. ท้าววิรุฬหก ปกครองพวกครุฑ
      -3. ท้าววิรูปักษ์ ปกครองพวกนาค
-       4. ท้าวเวสสุวรรณ ปกครองพวกยักษ์

2. ดาวดึงส์ มีพระอินทร์ เป็นผู้ปกครอง
3. ยามา มีท้าวสุยามเทวราช เป็นผู้ปกครอง
4. ดุสิต มีท้าวสันดุสิตเทวราช เป็นผู้ปกครอง
5. นิมมานรดี มีท้าวสุนิมมิตเทวราช เป็นผู้ปกครอง
6. ปรนิมมิตวสวัตดี มีท้าวปรนิมมิตวสวัตตีมาราธิราช เป็นผู้ปกครอง

พรหมโลกมีทั้งหมด 20 ชั้น แบ่งเป็น รูปพรหม 16 ชั้น และ อรูปพรหม 4 ชั้น
2. ดาวดึงส์ มีพระอินทร์ เป็นผู้ปกครอง
         ผู้ปกครองสวรรค์ชั้นที่2
พระอินทร์ คือ เทวดาผู้เป็นใหญ่ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ กายสีเขียว มีพระเนตรถึงพันดวง ใช้วัชระ(สายฟ้า) เป็นอาวุธ มีช้างเอราวัณเป็นพาหนะ พระองค์มีมเหสี 4 องค์ คือ สุจิตรา สุธรรมา สุนันทา และสุชาดา
พระอินทร์เป็นผู้ดูแลทุกข์สุขของมนุษยโลก ยามใดที่มีเรื่องเดือดร้อนขึ้นบนโลกมนุษย์ อาสนะของพระองค์ที่เคยอ่อนนุ่มก็จะแข็งกระด้าง หรือบางครั้งก็ร้อนจนไม่สามารถประทับอยู่ได้ พระอินทร์มีชื่อเรียกอย่างอื่น เช่น ท้าวสหัสนัยน์ ท้าวโกสีย์ ท้าวสักกะ เทวราช อมรินทร์ ศักรินทร์ มัฆวาน เพชรปาณี เป็นต้น


3. ยามา มีท้าวสุยามเทวราช เป็นผู้ปกครอง
         ผู้ปกครองสวรรค์ชั้นที่3พระสยามเทวธิราช หรือเรียกว่า พระสุยามะ หรือ ท้าวสุยามะเทวราช ผู้มีอายุยืนถึง 2,000 ปีทิพย์
เป็นผู้ปกครองสวรรค์ชั้นยามา
4. ดุสิต มีท้าวสันดุสิตเทวราช เป็นผู้ปกครอง
       สวรรค์ชั้นที่ 4 ตุสิตาเทวภูมิ
เทวภูมิ อันดับที่ ๔ นี้ เป็นแดนสุขาวดี ที่สถิตย์อยู่ แห่งปวงเทพเจ้าชาวฟ้าทั้งหลาย
ผู้มีความยินดีและ ความแช่มชื่นอยู่เป็นนิตย์ โดยมีเทพเจ้าผู้มเหศักดิ์
ทรงนามว่า สมเด็จท้าวสันดุสิตเทวาธิราช ทรงเป็น อธิบดี
จึงมีนามว่า ตุสิตาเทวภูมิ
สมเด็จพระศรีอริยเมตไตรย พระโพธิสัตว์
ผู้มีชื่อเสียงเลื่องลือเป็นที่รู้จักกันในหมู่พุทธบริษัทว่า
จักได้ ตรัสเป็นพระพุทธเจ้า ในอนาคตอันตรกัปที่ ๑๓ แห่ง ภัทรกัปนี้
พระองค์ก็สถิตอยู่ ณ สรวงสวรรค์ชั้นนี้
5. นิมมานรดี มีท้าวสุนิมมิตเทวราช เป็นผู้ปกครอง
สวรรค์ชั้นที่5 นิมมานรดีเทวภูมิเทวภูมินี้
เป็นที่สถิตของปวงเทพเจ้า ผู้มีความยินดีเพลิดเพลินในกามคุณารมณ์
ที่เนรมิตขึ้นตามความพอใจของตนเอง โดยมีเทพเจ้ามเหศักดิ์ ทรงนามว่า สมเด็จท่านท้าวสุนิมมิตเทวาธิราช
ทรงเป็นอธิบดีผู้ปกครอง จึงได้ชื่อว่า นิมมานรดีภูมิ คือ ภูมิเป็นที่อยู่แห่งทวยเทพ
อันมีสมเด็จพระนิมมิตเทวาธิราช ทรงเป็นอธิบดี
ภายในเทพนคร มีปราสาทเงิน ปราสาททอง และปราสาทแก้ว ทั้งมีกำแพงแก้ว กำแพงทอง อันเป็นของทิพย์
เป็นวิมานที่อยู่ของเหล่าเทวดา



6. ปรนิมมิตวสวัตดี มีท้าวปรนิมมิตวสวัตตีมาราธิราช เป็นผู้ปกครอง
สวรรค์ชั้นที่ 6 ปรนิมมิตวสวัตตีเทวภูมิ
สวรรค์ชั้นสูงสุดของแดนสุขาวดี ตั้งอยู่ในอากาศ ห่างจากนิมมานรดี 42,000 โยชน์
เทวดาในชั้นปรนิมมิตวสวัตตีภูมินี้ ทั้งที่เป็นเทพบุตรและเทพธิดา เวลาใดที่ปรารถนาจะเสวยในกามคุณ
ก็มีเทวดาที่รู้ใจเนรมิตให้ เมื่อได้เสวยกามคุณสมความปรารถนาแล้ว สิ่งที่เนรมิตมาก็จะสิ้นไป
เทวดาชั้นปรนิตมิตวสวัตตีจึงไม่มีคู่ครองประจำเหมือนเทวดาในสวรรค์ชั้นอื่น ๆ
วิมาน ทิพยสมบัติ และร่างกาย ของเทวภูมิชั้นนี้มีความสวยงามประณีต มากกว่าเทวดาในชั้นนิมมานรดี
มีอายุยาวกว่าประมาณ 4 เท่า ถือว่าเป็นยอดภูมิ คือ ภูมิที่สูงสุดของเทวดาในเทวภูมิ 6
เทวภูมิชั้นนี้ เป็นที่สถิตอยู่ของเหล่าเทพยดาจำพวกมารทั้งหลาย โดยมีสมเด็จพระปรนิมมิตเทวราช และ
[
สมเด็จพระปรนิมมิตวสวัตตีมาราธิราช ทรงเป็นอธิบดี จึงได้ชื่อว่า ปรนิมมิตวสวัตตีภูมิ คือ
ภูมิที่อยู่แห่งทวยเทพ
อำนาจปกครองมิได้อยู่แต่เฉพาะเทวดาที่อยู่ในสวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตตีภูมิเท่านั้น
แต่ยังมีอำนาจปกครองทั่วไปถึงสวรรค์ชั้นต่ำลงอีก 5 ชั้นด้วย คือ จาตุมหาราชิกา ดาวดึงส์ ยามา ดุสิต
นิมมานรดี และมีการปกครองที่แตกต่างจากเทวภูมิอื่น คือแบ่งเป็น 2 แดน อยู่กันฝ่ายละแดน
มีเขตแดนกั้นในระหว่างกลาง ต่างฝ่ายต่างอยู่ หากมีกิจจำเป็นจึงจะไปมาหาสู่แก่กัน
แดนเทพยดา มีสมเด็จพระปรนิมมิตเทวราช ทรงเป็นพระเทวาธิราชปกครอง
แดนมาร มีท้าวปรนิมมิตวสวัตตีมาราธิราช ปกครอง
เมื่อเทียบเวลาระหว่างมนุษย์ กับ สวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตตีภูมิแล้ว 1,600 ปีในมนุษย์ เท่ากับ 1
วันในสวรรค์ชั้นปรนิมมิตวาวัตตี




สวรรค์ในศาสนาอิสลาม

    ตามคำสั่งสอนของอัลเลาะห์ในศาสนาอิสลาม สอนว่า คนเราเกิดมาแล้วไม่ตาย จะมีชีวิตตลอดกาล ส่วนคำพูดที่คนเราพูดว่าตายนั้น คือเสียชีวิต วิญญาณได้ออกจากร่างกายเท่านั้น ทำให้ร่างทรงที่ประกอบด้วยธาตุต่าง ๆ ที่มาจากดินหยุดการหายใจ หยุดการเคลื่อนไหว ไม่มีการตอบสนองใด ๆ อีกแล้ว ในที่สุดร่างอันไร้วิญญาณนั้นก็จะเน่าเปื่อยสลายกลายเป็นดินตามเดิม ส่วนวิญญาณยังคงอยู่  และได้ย้ายภูมิลำเนาจากโลกนี้ไปอยู่ที่โลกใหม่ คือ กูบูร หรือ กูโบร์ เรื่องราวต่าง ๆ หลังจาก กูโบร์ไปแล้วนั้น มนุษย์ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า ไม่สามารถสัมผัสด้วยประสาทสัมผัส  แต่สามารถพิสูจน์ด้วยหลักวิชาการ เช่น วิชาการด้านพิชคณิต
วิชาการด้านเรขาคณิต   คนปัญญาอ่อนคิดไม่ถึงหรอกครับ เพราะฉะนั้นในศาสนาอิสลามไม่บังคับคนปัญญาอ่อนปฎิบัติศาสนกิจใด ๆ ทั้งสิ้น   เช่น การละหมาด 5 เวลา คนทั่วไปต้องละหมาด แต่ถ้าปัญญาอ่อนไม่ต้องละหมาดครับ  คนบ้าวิกลจริต จิตฟั่นเฟือง ก็ไม่ต้องละหมาด ไม่ต้องรับภาระใด ๆ ทั้งสิ้น
วิญญาณจะอยู่ในโลกใหม่นี้จนกว่าจะถึง วันแห่งตัดสิน หลังจากวันสิ้นโลก หรือโลกแตกนั้นแหละ  หลักจากโลกแตก หรือสิ้นโลก หรือกียามัต แล้ว จะมีการตัดสินคดีความต่าง ๆ ที่คนเรากระทำในสมัยยังมีชิวิตในโลกนี้
คนดี หรือคนที่มีความดีมากกว่าความชั่ว ก็จะไปอยู่ในแดนสวรรค์  ส่วนชั่ว หรือ ทำชั่วมากกว่าทำดีก็จะไปรับโทษในนรก  ถ้าโทษไม่หนักก็จะได้ออกจากนรกเข้าสวรรค์ คนที่โทษหนักก็คงอยู่ในนรกตลอดกาล  ในที่สุดแล้ว  คนทำดีมีอีหม่านก็จะได้พำนักอยู่ในแดนสวรรค์ตลอดกาล  คนทำชั่วไม่มีอีหม่านก็จะต้องรับโทษในนรนกตลอดกาลเช่นกัน  ชีวิตในนรกเต็มไปด้วยทุกข์ทรมานตลอดกาล  ส่วนชวิตในสวนสวรรค์ก็จะได้รับผลการตอบแทนที่สุดสบายมีความสุขตลอดชั่วกาลนาน       ( เพราะฉะนั้นท่านจะต้องรีบตัดสินใจให้เร็วที่สุดก่อนที่ชิวิตจะหาไม่ และตกนรกตลอดกาลนะจะ  ขอถือโอกาสนี้เชิญชวนพี่น้องเพื่อมนุษย์ทั้งหลายมาเถิดรับอิสลามจะได้มีชีวิตตลอดกาลในสวนสวรรค์อย่างมีความสุข ครับ)

 แนวคิดเรื่องนรกสวรรค์ในคริสต์ศาสนา          

     ในศาสนานี้ถือว่ามนุษย์ตายแล้ววิญญาณยังไม่ไปไหน ยังคงวนเวียนอยู่ที่ศพคอยวันพิพากษาและจะกลับเข้าสู่ร่างศพฟื้นออกจากหลุมฝังศพ เมื่อเทพบริวารของพระเจ้าเป่าแตรแล้วพากันไปฟังคำพิพากษาจากพระเจ้า ถ้าใครมีบาป ก็จะตกนรกชั่วนิรันดร์ ถ้าใครมีความดีมาก ก็ได้ขึ้นสวรรค์ไปอยู่กับพระเจ้า ถ้าใครมีความดีความชั่วก้ำกึ่งกัน ก็จะถูกส่งไปที่ไฟชำระ เมื่อหมดบาปแล้วจึงไปสู่สวรรค์ ดังนั้น ศพจึงต้องฝังเพื่อให้มีร่างสำหรับวิญญาณได้กลับคืนสู่ร่าง บาปนั้นเมื่อเป็นมนุษย์สามารถล้างได้โดยการ สารภาพบาปแกบาทหลวง หรืออ้อนวอนพระเจ้า พระเยซู พระแม่มาเรีย แล้วบาปนั้นจะหมด

                                                                                                                        
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 26, 2012, 09:31:38 am โดย apairach » บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.11 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!