จดหมายเหตุวัฒนธรรมกำแพงเพชร โดย อาจารย์สันติ อภัยราช
พฤษภาคม 01, 2024, 08:29:28 pm *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: จดหมายเหตุวัฒนธรรมกำแพงเพชร โดย อาจารย์สันติ อภัยราช
ยินดีต้อนรับสมาชิก และผู้เยื่ยมชมทุกๆท่าน
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ใบบอกเมืองกำแพงเพชร  (อ่าน 3974 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
apairach
Administrator
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1414


ดูรายละเอียด อีเมล์
| |
« เมื่อ: กันยายน 07, 2010, 01:50:37 pm »

สกุลของคุณครูวัฒนา ศุภดิษฐ์
จากใบบอกเมืองกำแพงเพชร และจดหมายเหตุประพาสต้นกำแพงเพชร
เอกสารสำคัญ ของเมืองกำแพงเพชร
 
                     บันทึกโดยอาจารย์สันติ อภัยราช
      ในสมัยโบราณ การติดต่อระหว่างหัวเมืองประเทศราช เมืองพระยามหานคร และเมืองต่างๆในพระบรมโพธิสมภาร มีการติดต่อและรายงานโดยการใช้ ใบบอก มีประโยชน์ในการรายงาน เรื่องราชการ ใบบอกเป็นเอกสารทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญอย่างหนึ่ง อาจมีข้อเท็จจริงอยู่ในใบบอก ประสมกันอยู่ แต่อาจเป็นต้นเค้าของหลักฐานในการสืบค้นให้ลึกลงไปในอดีตที่ยังไม่มีใครสนใจนัก ประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่เป็นประวัติศาสตร์ของเมืองหลวงของราชธานี ส่วนประวัติศาสตร์ของหัวเมืองมิใคร่มีผู้ใดใส่ใจ ใบบอกจึงเป็นหลักฐานที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ฉายภาพในอดีตของแต่ละเมืองอย่างชัดเจนในสมัยนั้นๆ
        ใบบอกเมืองกำแพงเพชร มีจำนวนมาก ตั้งแต่สมัย รัชกาลที่ 1 จนถึงรัชกาลที่ 8 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ก่อนหน้านั้นเราไม่พบ อาจมีแต่ถูกทำลายไปสิ้นในสมัยเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2
ใบบอกของเมืองกำแพงเพชรมีมากในสมัยปฏิรูปการเมืองของรัชกาลที่ 5 เพื่อให้หัวเมืองได้รายงานความเคลื่อนไหวทุกเรื่อง แม้แต่เรื่องเล็กน้อยเพื่อสะดวกในการควบคุมดูแล มิให้กระด้างกระเดื่องหรือแข็งเมือง และสามารถควบคุมจัดการมิให้หัวเมืองได้มีโอกาสจัดการอะไรด้วยตนเองได้ นับว่าเป็นการลด ความสำคัญของเจ้าผู้ครองนครลง กำแพงเพชรก็เช่นกัน
        ใบบอกเมืองกำแพงเพชร จะขึ้นต้นด้วย ที่ตั้งคือเมืองกำแพงเพชร ใช้จุลศักราช เป็นสำคัญในการวันเดือนปี และจะขึ้นต้นด้วยคำว่า???
      ข้าพเจ้า พระยารามรณรงคสงครามรามภักดีอภัยพิริย์ภาหะ ผู้สำเร็จราชการเมือง
พระอินทแสนแสง ปลัดเมือง พระมนตรีราชยกบัตร...... ซึ่งทั้งสามท่านเป็นกรรมการเมืองกำแพงเพชร แสดงถึงมิให้รายงานคนเดียวเพื่อให้ข้อความเป็นจริง ตอนจบลงนาม พร้อมประทับตราทุกท่าน บางฉบับจะมีเฉพาะชื่อของพระยารามรณรงคสงครามรามภักดีอภัยพิริย์ภาหะเพียงท่านเดียว และต่อด้วยกรมการเมืองเลย
       เจ้าเมืองกำแพงเพชร มีชื่อราชทินนามว่า พระยารามรณรงคสงครามรามภักดีอภัยพิริย์ภาหะ มาตั้งแต่สมัยอยุธยามักเรียกกันสั้นๆว่าพระยาราม น่าจะสืบเชื้อสาย ในคนตระกูลเดียวกันมาหลายยุคหลายสมัย... มีหลักฐานจากหลายแห่งในพงศาวดารเกือบทุกฉบับ ซึ่งเราจะมิได้กล่าวถึงในที่นี้แต่จะกล่าวถึงเฉพาะ พระยารามรณรงคสงครามรามภักดีอภัยพิริย์ภาหะ ในใบบอกเมืองกำแพงเพชรที่ค้นคว้ามา เริ่ม
ตั้งแต่ พระยารามรณรงคสงครามรามภักดีอภัยพิริย์ภาหะ (เกริก) ในสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี คือราวพุทธศักราช 2310 ? 2325 เรียกกันโดยสามัญว่าเจ้าคุณเกริก ไม่ทราบชื่อภริยา เจ้าคุณเกริก มีบุตรหนึ่งคนชื่อเจ้าคุณนุชๆมีภริยาชื่อเกา ภายหลังบวชเป็นชี และได้สร้างวัดมีนามว่าวัดชีนางเกา(อยู่บริเวณเยื้องกับที่ทำการไปรษณีย์กำแพงเพชร) ในสมัยรัชกาลพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ได้โปรดให้นายนุช ร่วมทัพไปตีทัพแขกที่เมืองปัตตานี กับนายบุญศรี บุตรชาย ได้ชัยชนะกลับมา ได้รับพระราชทานความดีความชอบให้ดำรงตำ แหน่งพระยารามรณรงคสงครามรามภักดีอภัยพิริย์ภาหะแทนบิดาเมื่อบิดาถึงแก่อนิจกรรมแล้วพระราชทานครอบครัวแขก มาหนึ่งร้อยครอบครัว มาอยู่ที่บริเวณเกาะแขก ซึ่งอยู่ตอนใต้โรงพยายาบาลกำแพงเพชร (ปัจจุบันไม่มีแขกปัตตานีในบริเวณบ้านแขกแล้ว) และพระราชทานดาบฝักทอง ให้เป็นบำเหน็จมือ ซึ่งต่อมาดาบฝักทองได้เป็นพระแสงราชศัตราประจำเมืองกำแพงเพชร ส่วนคุณบุญศรีบุตรชาย ได้พระราชทานให้ไปกินเมืองศรีสัชชนาลัย นามว่าพระยาฤทธิเดช และได้พระราชทาน
หม่อมฉิม ให้เป็นภริยา นับว่ามีความดีความชอบมาก สังเกตจากการพระราชทานสิ่งของและบุคคลให้
ในส่วนของพระยาฤทธิเดช กับหม่อมฉิม มีธิดาชื่อคุณหญิงพลับๆ ได้สมรสกับพระยายกบัตรเมืองสุโขทัย
มีบุตรธิดา 4 คน คือ พระยานิ่ม พระยาพุ่มพิจิตร เจ้าคุณอ่อง และพระยารณชัย...และเนื่องจากไปกินเมืองอื่น จึงมิได้สืบค้นต่อ...
        ส่วนพระยารามรณรงคสงครามรามภักดีอภัยพิริย์ภาหะ (พระยากำแพง นุช) กับท่านผู้หญิงเกาหรือท่านผู้หญิงชี มีธิดาท่านหนึ่งนามว่า ท่านผู้หญิงแพง ท่านผู้หญิงแพงได้สมรสกับ เจ้าคุณนาค และได้รับพระราชทานตำแหน่ง เป็นพระยากำแพง พระยากำแพงนุชและท่านผู้หญิงแพง มีบุตรธิดา 7 ท่าน ล้วนได้รับพระราชทานตำแหน่งที่สำคัญทั้งสิ้น แสดงถึงบารมีของพระยากำแพงนุช ยังมีถึงลูกหลานอย่างทั่วถึงจึงได้รับพระราชทานตำแหน่งสำคัญเรียงตามอายุคือ
        1. พระยากำแพง(บัว) ได้เป็นเจ้าเมืองกำแพงเพชร ต่อจากพระยากำแพงนาค นามพระราชทานว่าพระยารามรณรงคสงครามรามภักดีอภัยพิริย์ภาหะ (บัว)
        2. พระยากำแพง(เถื่อน) ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นถวิล ได้เป็นเจ้าเมืองกำแพงเพชร ต่อจากพระยากำแพง(บัว) ได้รับพระราชทานให้เป็นเจ้าเมืองกำแพงเพชรนามพระยารามรณรงคสงครามรามภักดีอภัยพิริย์ภาหะ (เถื่อน)
        3. พระยากำแพง(น้อย) ได้เป็นเจ้าเมืองกำแพงเพชร ต่อจากพระยากำแพง(เถื่อน) ได้รับพระราชทานนามว่า พระยารามรณรงคสงครามรามภักดีอภัยพิริย์ภาหะ (น้อย)
        4. พระยากำแพง(เกิด) ได้เป็นเจ้าเมืองกำแพงเพชรต่อจากพระยากำแพง(น้อย) ได้รับพระราชทานนามว่า พระยารามรณรงคสงครามรามภักดีอภัยพิริย์ภาหะ(เกิด)
        5. หม่อมสุดใจ ได้ถวายตัวเป็นพระสนมในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2
        6. พระยาพลไกร(อ๋อง)
        7. คุณฉิม ( สืบไม่ได้น่าจะเป็นสตรี)

        พระยากำแพง(เกิด) กับท่านผู้หญิงทรัพย์ มีบุตรธิดา 9คน คือ
        1. คุณย่าหุ่น แต่งงานกับหลวงพินิจ
        2. คุณย่านก แต่งงานกับคุณปู่เสือ
        3. คุณย่าขำ ถึงแก่กรรมตั้งแต่เยาว์วัย
        4. หลวงวิเศษสงคราม(ดิศ)
        5. คุณย่าผึ้ง แต่งงานกับพระพล( เรียม นุชนิยม)
        6. หลวงพิพิธอภัยผู้ช่วย (ต่าย)
        7. พระยากำแพง (อ้น)
        8. คุณหญิงภู่ (ภริยาพระยารามรณรงคสงคราม หรุ่น อินทรสูต) คือพระยากำแพงคนสุดท้าย ในสกุลนี้
        9. คุณย่าหญิงทองหยิบ ถวายตัวเป็นนางห้าม รัชกาลที่ 4
        หลวงพิพิธอภัยผู้ช่วย (ต่าย) มีภรรยาชื่อคุณหญิงกระจับๆ เป็นภรรยาในนามของพระยากำแพง (อ้น)ซึ่งมีศักดิ์เป็นพี่สะใภ้ สันนิษฐานว่า เมื่อหลวงพิพิธอภัยผู้ช่วย (ต่าย) ถึงแก่กรรม หลวงพิพิธอภัย (หวล)ผู้เป็นบุตร ได้มาเป็นบุตรบุญธรรมของพระยากำแพง(อ้น) จากพระราชนิพนธ์จดหมายเหตุประพาสต้นกำแพงเพชรในรัชกาลที่ 5 บันทึกว่า หลวงพิพิธอภัย( หวล) เป็นบุตรพระยากำแพง(เกิด) ผู้ถวายดาบ
ฝักทองแด่รัชกาลที่ 5
        หลวงพิพิธอภัย (หวล) มีภรรยา 2 คน คือนางจัน มีบุตร ธิดา 2 คน คือ
1.นางหวีด รามสูต ภรรยารองอำมาตย์ตรี ขุนทรงราชผล (พลี ศุภดิษฐ์) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสาวงามกำแพงเพชร ในพระราชนิพนธ์จดหมายเหตุประพาสต้น ของพระพุทธเจ้าหลวง ได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าหลวง พระองค์บันทึกไว้ว่า...... ผู้หญิงเมืองนี้ นับว่ารูปพรรณสัณฐานดีกว่าเมืองอื่นในข้างเหนือ คนงามทั้ง 4 ที่จะให้ถ่ายรูปนั้น เขาให้ถือกระเช้าหมากคอยแจก คือหวีด บุตรหลวงพิพิธอภัย อายุ 16 ปี คนนี้รุ้จักโปสต์ถ่ายรุป จึงได้ถ่ายรูปเฉพาะคนเดียว......... แม่หวีดผู้นี้คือมารดาของ คุณครูวัฒนา ศุภดิษฐ์
ขุนทรงราชผล (พลี ศุภดิษฐ์) ได้บันทึกไว้ว่า ได้แต่งงานกับแม่หวีด เมื่อเดือนแปด ปีมะแม พุทธศักราช 2450 หลังจากพระพุทธเจ้าหลวงเสด็จกลับ 1 ปี แม่หวีด ถึงแก่กรรม เมื่อวันเสาร์แรม สองค่ำ เดือนยี่ ปีมะเมีย ตรงกับวันที่ 18 มกราคม พุทธศักราช 2461 เวลา 7 นาฬิกา อายุได้ 29 ปี (แม่หวีดเกิดเมื่อวันศุกร์ เดือนสาม ปีขาน พุทธศักราช 2433 )
2.นายหอม รามสูต (มีรายละเอียดมากยังไม่นำเสนอ)
ส่วนภรรยาอีกคนหนึ่งคือ นางพัน มีบุตรธิดา 8 คน จะไม่นำเสนอในครั้งนี้
.....นับว่าสิ้นสุดประวัติศาสตร์กำแพงเพชร เมื่อสิ้นสุดสมัยรัชกาลที่ 5 ส่วนรายละเอียดได้เก็บไว้นำเสนอในคราวต่อไป

                                ใบบอกกำแพงเพชร ในสมัยรัชกาลที่ 5 มีจำนวนมากแต่จะนำเสนอในบางส่วนที่น่าสนใจ
เรื่องที่ 1 การเบิกเงินของหัวเมืองกำแพงเพชร เพื่อจ่ายค่าทำทางสายโทรเลข เมื่อวันพุธขึ้นหนึ่งค่ำเดือนสิบ ปีระกาสัปตศก ศักราช 1247
        ความโดยย่อกล่าวถึงสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภานุรังษีสว่างวงษ์ กรมหลวงภานุพันธ์
วรเดช สำเร็จราชการกรมไปรษณีย์โทรเลข กราบทูลว่า ให้หม่อมเทวาธิราชนุกุล ไปทำทางสายโทรเลข เบิกเงิน 1,400 บาทจากเมืองกำแพงเพชรเป็นเงินเดือน จำนวน 7 เดือน
เรื่องที่ 2 รายงานการสืบสวนจับกุมผู้ร้ายระหว่าเมืองกำแพงเพชรกับเมืองตากเมื่อวันพุธขึ้นหนึ่งค่ำเดือนสิบ ปีระกาสัปตศก ศักราช 1247

เรื่องที่ 2 รายงานการสืบสวนจับกุมผู้ร้ายระหว่าเมืองกำแพงเพชรกับเมืองตากเมื่อวันพุธขึ้นหนึ่งค่ำเดือนสิบ ปีระกาสัปตศก ศักราช 1247
        ความโดยย่อกล่าวถึง ระหว่างเมืองกำแพงเพชรกับเมืองตากมีโจรผู้ร้ายชุกชุมมาก ลูกค้าอังกฤษทำมาค้าขายเป็นที่ลำบากมาก ให้พระยารามฯแต่งพระมนตรีราชยกระบัตรออกชำระจับตัวผู้ร้ายให้ได้ จับได้ไอ้เสือถิ่น ไอ้เสือแย้ม ปล้นจีนถุ้ง และ ไอ้เอมผู้ร้ายปล้นฆ่าที่เมืองตาก มาซ่อนตัวที่ลานดอกไม้ จับตัวได้และพิจารณาตัดสินความแล้ว
        
เรื่องที่ 3 การขอเปลี่ยนทนายความของพระยากำแพงเพชร จากจีนแดงเป็นหลวงเทพสุภา ณ วันศุกร์แรมสองค่ำเดือนสิบปีระกาสัปตศก 1247
        ความโดยย่อกล่าวถึง นายกัก ฟ้องกล่าวโทษพระยากำแพง หลวงวัง หลวงแพ่ง หลวงพิไชยภักดี หลวงพรหม หลวงเทพอาญา นายขุนทอง นายเชยผู้คุม โดยมีจีนแดงเป็นทนายความให้ พระยากำแพงกับพวก ต่อมาพระยากำแพงกับพวก ขอเปลี่ยนทนายความจากจีนแดง เป็นหลวงเทพสุภาแพ่ง

เรื่องที่ 4 รายงานการติดตามเก็บส่วยคงค้างเพื่อนำส่งเข้าพระคลังมหาสมบัติ ณ วันพุธ ขึ้นสิบสามค่ำ
เดือนสิบเอ็ด ปีระกาสัปตศกศักราช 1247
        ความโดยย่อกล่าวถึง ตามที่ให้เก็บส่วยส่งถึงพระคลังมหาสมบัติให้เต็มเม็ดเต็มหน่วยนั้นได้พยายามเก็บส่วยอย่างละเอียดแล้ว รวมเงิน หกชั่ง สิบห้าตำลึง พร้อมบัญชีหางว่าว ให้ขุนรักษาพลคุมลงมาส่ง กรุงเทพมหานคร (ส่วยในที่นี้คือเงินรัชชูปการเงินที่เรียกเก็บจากราษฎรชายที่มิได้รับราชการทหารเป็นรายบุคคล )

เรื่องที่ 5 รายงานการใช้เงินหลวง ให้สำหรับซื้อข้าว จ่ายราชการ ณ วันศุกร์ขึ้นสิบเอ็ดค่ำเดือนยี่ ปีระกาสัปตศกศักราช 1247
        ความโดยย่อกล่าวถึง พระยารามได้แต่งขุนพิพิธสาลี ว่าที่หลวงนา ไปเบิกเงินพระราชทาน หกชั่ง
เพื่อจัดซื้อข้าวสารจ่ายข้าราชการ ข้าวเปลือกเกวียนละห้าตำลึง และจัดทำฎีกาเพื่อเบิกเงินหลวงอีกสิบชั่ง เพื่อจัดซื้อข้าวอีกสำหรับจ่ายราชการบ้านเมือง

เรื่องที่ 6รายงานการตัดไม้จากกำแพงเพชร เพื่อนำไปใช้ในการทำพระเมรุงานพระราชทานเพลิงพระศพ
กรมพระราชวังบวรสถานมงคล ณ วันศุกร์ขึ้นสิบเอ็ดค่ำเดือนยี่ ปีระกาสัปตศกศักราช 1247
        ความโดยย่อกล่าวถึงพระยารามฯ ได้รับตราพระราชสีห์ โดยหลวงพิจารณาถือมา ว่ากรมพระราชวังบวรสถานมงคลทิวงคต ให้หาไม้ไปทำพระเมรุที่ท้องสนามหลวง จึงได้ให้พระสวัสดิ์ภักดี คุมไพร่ออกตัดไม้ ได้ไม้รวมทั้งสิ้น หนึ่งร้อยหกสิบเจ็ดต้น แต่ปีนี้น้ำน้อยทำแพมาส่งไม่น่าจะทันราชการแต่ส่งไม้ไผ่สองพันลำไม้ใช้ร้อยห้าสิบต้น ได้ผูกแพบรรทุกเครื่องพระเมรุมาแล้ว

เรื่องที่ 7 คดีหลวงบรรเทา ณ วันจันทร์ขึ้นหกค่ำปีระกาสัปตศกศักราช 1247
        ความโดยย่อกล่าวถึง พระยารามฯ ได้ชำระคดีระหว่างขุนทรมาทิพย์ โจทย์ หลวงบรรเทา จำเลย ขัดข้อง จึงส่งสำนวนใส่ชะลอม และให้หลวงพิชัยภักดี ผู้ช่วย นำหลักฐานและนำทั้งโจทก์และจำเลย มาส่งที่กรุงเทพ เพื่อให้ตัดสินความ

เรื่องที่ 8 ขุนบานบุรี ฟ้องนายศิษย์กับพวก คดีทำร้ายร่างกายณ วันจันทร์ขึ้นหกค่ำปีระกาสัปตศกศักราช 1247
        ความโดยย่อว่า พระยารามบอกมาว่า ขุนบานบุรี ฟ้องนายศิษย์กับพวกทำร้ายร่างการแต่คดีซับซ้อนมาก จึงมอบให้หลวงพิไชยภักดี นำ เรื่องมาส่ง ณ กรุงเทพมหานคร

เรื่องที่ 9 เกณฑ์กองทัพกำแพงเพชร เพื่อไปทัพเมืองพิชัย ณวันจันทร์ แรมสิบสามค่ำ ปีระกาสัปตศก 1247
        ความโดยย่อว่า พระยารามฯว่าได้มีตราพระราชสีห์ ให้เกณฑ์ พระอินทรแสนแสง ปลัดหนึ่ง
ขุนหมื่น ไพร่ร้อยหนึ่งช้างสิบช้าง เข้ากองทัพเจ้าหมื่นไวยวรนาถ พร้อมอาวุธไปคอยรับกองทัพที่เมือง
พิไชย และให้เพิ่มอีกยี่สิบช้างรวม สามสิบช้าง แต่ในกำแพงเพชรมีช้างทั้งสิ้นยี่สิบสองช้าง พระอินทรแสนแสง ได้ไปส่งให้พระยาสีสิงหเทพ ณ เมืองพิไชยแล้ว

เรื่องที่ 10 หม่อมเทวาธิราชทำสายโทรเลขเมืองกำแพงเพชร ณวันจันทร์ เดือนเก้า ขึ้นสิบสามค่ำ ปีระกาสัปตศก 1247
        ความโดยย่อว่าหม่อมเทวาธราชเจ้าพนักงานโทรเลข เบิกเงินเดือน 1,400 บาท พระยารามได้แจ้งให้ทราบและให้หลวงพิไชยภักดี นำฎีกามาถวายขอหักเงินค่าไม้เกณฑ์ตัด ประจำปีระกาเบญจศก ต่อเจ้าพนักงานแล้ว

        นอกจากเรื่องราวเหล่านี้แล้ว ยังมีเรื่อง ดังต่อไปนี้ คือ
        ? กงสุลอังกฤษแจ้งว่ากำแพงเพชรและตากมีโจรผู้ร้ายชุกชุม
        ? ให้หลวงชำนาญสิงขรกับหมื่นแสวงภุมรา เสียค่าตัดฟันไม้
        ? ตั้งหลวงพิไชยภักดีเป็นพระกำแหงสงครามพระพล
        ? การทำทะเบียนคนจีนในกำแพงเพชร
        ? มองม่อพม่าขอทำไม้ขอนสักที่คลองขลุง
        ? การจัดช้างไปเมืองพิชัย
        ? เรื่องฉลองพระบรมอัฐิรัชกาลที่ 4
        ? โจรผู้ร้ายชุกชุมที่ขาณุ
        ? กรมพระราชวังบวรสถานมงคลทิวงคต ใช้ชักลากไม้ทำพระเมรุ
        ? ให้ทำบัญชีวัดในกำแพงเพชร
        ? ผู้ร้ายลักม้าสีหมอกของหลวงประเวศ
        ? ค่าผูกปี ค่าแรงจีน
        ? เรียกตัวมองม่อ ไปกรมมหาดไทย
        ? จับโจรผู้ร้ายในแขวงเมืองกำแพงเพชร
        ? การลักช้างและพระรามยึดของกลาง
        ? การเกณฑ์ผู้คนดูแลเสาโทรเลขที่สร้างใหม่
        ? การผูกสีมาวัดบ้านลานดอกไม้
        ? การประเมินที่นาราษฎรกำแพงเพชร
        ? การติดตั้งสายโทรเลขประจำเมืองกำแพงเพชร
        ? หมื่นศรีสมบัติคุมเงินไปส่ง
        ? คดีหลวงพิพิธกับจีนชือเหียน
        ? ผู้ร้ายแย่งชิงนายร้อยคำปาง
        ? อำแดงแจงภรรยาหลวงพิพิธเป็นชู้กับจีนหวด
        ? เตือนนายกองปลัดกองให้เอาเงินส่วยของส่วยมาส่ง
        ? หลวงยกกระบัตรบัวชุม กล่าวโทษพระยากำแพงกับพวก
        ? พระเจ้าน้องยาเธอกรมหมื่นพิชิตปรีชากร เสด็จลำปาง ลำพูน เชียงใหม่
        ? นายสงกล่าวโทษพระวรลักษณ์แลกรมการเมือง
        ? ให้เจ้าของไม้ยื่นบัญชีไม้ต่อกรมการเมือง
        ? การก่อสร้างพัทธสีมาที่วัดทุ่งสวน
        ? ให้ส่งตัวนายสงมายังเมืองขาณุบุรี
        ? นายฉ่ำกล่าวโทษนายยัง กำนันบ้านบ่อถ้ำแขวงเมืองขาณุ
        ? จีนชิงหิน ไม้ขอนหายที่ลานดอกไม้
        ? คดีกระบือนายฉ่ำกับพวกหาย
        ? การเก็บเงินค่านาในแขวงเมืองกำแพงเพชร
        ? มิสเตอร์ยอดคูปองชาวอเมริกัน ทำไม้ขอนสักที่วังเจ้า
        ? ขอเบิกจ่ายค่าเซอร์เวย์ทางจากเมืองกำแพงเพชร
        ? อำแดงนวลกล่วโทษนายฉาย
        ? เอาตัวไอ้แยมมอบให้หลวงนามาส่งยังกรุงเทพ
        ? หลวงเทพนรินทร์ซื้อไม้ขอนสักจากกำแพงเพชรมาช่อมวิหารพระนอนจักรศรี
        ? ผู้ร้ายลักทรัพย์ลูกขุนตระเวณ
        ? ผู้ร้ายลักกระบือหลวงรามราชปลัดอำแดงกลีบตักยางของพระจัตุรงค์
        ? ขุนพินิจสุราการกล่าวโทษพระยาราม
        ? ให้ส่งพระยากำแพงกับพวกเข้ากรุงเทพ
        ? หลวงอินเกสรขอทำไม้ขอนสัก
        ? พระยากำแงแต่งหลวงเมืองเป็นทนาย
        ? พระยารามรณรงค์ยื่นทัณฑ์บนรับผิดขอกลับรับราชการตามเดิม
        ? มองเตงเผ่ ในบังคับอังกฤษ ขอเช่าไม้ตำบลคลองขลุง แขวงเมืองกำแพงเพชร
        รายละเอียดของใบบอกต่างๆนั้น ล้วนเป็นเรื่องที่ฉายภาพสังคมการเมืองและวัฒนธรรมในยุคสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวของเมืองกำแพงเพชรได้เด่นชัดมาก สมควรได้มีการศึกษาค้นคว้า เพื่อจะได้เข้าใจในสังคม เมืองกำแพงเพชรมากขึ้น
        ภาพที่ชัดที่สุดคือภาพการฉ้อราษฎรบังหลวง ของพระยากำแพงเพชร (หรุ่น)ในปีพ.ศ.2447 ก่อนที่พระพุทธเจ้าหลวงส่งพระวิเชียรปราการ (ฉาย อัมพเศวต) นายอำเภอสรรค์บุรี มาเป็นเจ้าเมืองกำแพงเพชรแทน และทำให้ตระกูลพระยากำแพงเพชร ตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรี คือ พ.ศ. 2310 จนถึง 2447 เกือบหนึ่งร้อยสี่สิบปีที่ตระกูลพระยากำแพงมี อำนาจในกำแพงเพชรมีรายละเอียดจากใบบอกดังนี้



 
  
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 07, 2010, 01:52:15 pm โดย apairach » บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.11 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!