จดหมายเหตุวัฒนธรรมกำแพงเพชร โดย อาจารย์สันติ อภัยราช
พฤศจิกายน 04, 2025, 02:17:03 am *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: จดหมายเหตุวัฒนธรรมกำแพงเพชร โดย อาจารย์สันติ อภัยราช
ยินดีต้อนรับสมาชิก และผู้เยื่ยมชมทุกๆท่าน
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: พระพันปีหลวงเสด็จกำแพงเพชร  (อ่าน 51 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
apairach
Administrator
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1530


ดูรายละเอียด อีเมล์
| |
« เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2025, 09:33:15 am »

     พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พร้อมกับสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จกำแพงเพชร 3 ครั้ง
          ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2510 เสด็จบวงสรวงสังเวยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
          ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2515 เสด็จบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ส่วนพระองค์ ณ วัดคูยาง
          ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2521 เสด็จพระราชทานธงลูกเสือชาวบ้าน ของอำเภอ ต่างๆ รวม 117 รุ่น
          ครั้งที่ 1 เสด็จบวงสรวงสังเวยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตามพระราชพงศาวดารกล่าวว่า สมเด็จพระนเรศวร เสด็จมาประทับแรมที่กำแพงเพชร 3 ราตรี คราวที่ยกทัพหลวงไปเมืองแครง และได้ทรงประกาศอิสรภาพ….ความว่า
พระพุทธศักราช 2126 กรีธาทัพผ่านทางเมืองกำแพง เวลาบ่าย 5 นาฬิกา ก็ถึงตำบลวัดยม ย่านท้ายเมือง………รุ่งขึ้นโปรดให้พักทัพชัยที่ตำบลหนองปลิง 3 เพลา………..เมื่อเมืองกำแพงเพชรมีความสำคัญเช่นนี้ ทั้งสองพระองค์จึงเสด็จมาสังเวย บวงสรวง สมเด็จพระนเรศวร ถึงเมืองกำแพงเพชร  
…….ท่านศึกษาโกศินท์ จารุวัฒน์ อดีตศึกษาธิการอำเภอคลองขลุง ได้บันทึกไว้พร้อมภาพถ่ายจำนวนมาก ความว่า…
…….ทั้งสองพระองค์ เสด็จโดยเฮลิคอปเตอร์ จากสนามบินจังหวัดพิษณุโลก มาถึงกำแพงเพชรเวลา 10.30 น. ของ
วันที่ 25 มกราคม 2510 ซึ่งวันที่ 25 มกราคม เป็นวันที่สมเด็จพระนเรศวร ทรงกระทำยุทธหัตถีชนะพระมหาอุปราชา
…นายร้อยตำรวจโท ปิ่น สหัสโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร ในขณะนั้น เข้าเฝ้าถวายบังคมทูลเชิญล้นเกล้าทั้งสองพระองค์เสด็จกระทำพิธีบวงสรวง และเสด็จเยี่ยมพสกนิกรของพระองค์
….เสด็จขึ้นแท่นรับความเคารพจากกองเกียรติยศ และเสด็จปฏิสันถารกับบรรดาข้าราชการที่มารับเสด็จ มีซุ้มพ่อค้าอำเภอคลองขลุงเป็นซุ้มแรก โดยมีข้าราชครูชายหญิงรอรับเสด็จ ถัดไปเป็นโต๊ะหมู่บูชาของนายแพทย์ และโรงพยาบาลกำแพงเพชร
…..บรรดาราษฏรทุกหมู่เหล่า ต่างตั้งโต๊ะบูชาสองข้างทาง…..จังหวัดสร้างพลับพลาที่ประทับบริเวณวัดพระแก้วหน้าเมืองเป็นพลับพลาทรงไทยประยุกต์ที่งดงามมาก
….ทรงรับศีล ในพิธีสงฆ์ ก่อนเสด็จทำพิธีบวงสรวง ตามพิธีพราหมณ์……เมื่อบวงสรวงสังเวยเสร็จเสด็จชมผังเมืองและโบราณวัตถุที่ กรมศิลปากรจัดถวายทอดพระเนตร……..
…..จากนั้นเสด็จมายังศาลากลางจังหวัดกำแพงเพชร เพื่อเสวยพระกระยาหารกลางวัน จนกระทั่งเวลา 14.30 น. จึงเสด็จออกมาปลูกต้นสัก ณ บริเวณหน้าศาลากลาง โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงปลูกต้นสักด้านขวา และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ทรงปลูกต้นซ้าย ของศาลากลาง แล้วเสด็จเยี่ยมพสกนิกร ของพระองค์
……นายธรรมศักดิ์ คำเพ็ญ…….นายอำเภอขาณุวรลักษบุรี รายงานตัว…. นายธวัช แผ่ความดีนายอำเภอพรานกระต่ายเข้าเฝ้ารับเสด็จ…..นายสุนีย์ โชติมา นายอำเภอคลองขลุง ถวายพระเครื่อง …. ทุกอิริยาบถ ทั้งสองพระองค์ทรงสง่างาม และทรงมีเมตตาต่อพสกนิกรที่เข้าเฝ้า รับสั่งถามทุกข์สุข โดยละเอียด
…..ภาพที่ประทับใจที่สุด คือภาพที่ทั้งสองพระองค์ ทรงโบกพระหัตถ์อยู่บนเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ กำลังทะยานขึ้นสู่อากาศ เพื่อเสด็จสู่จังหวัดพิษณุโลก เพื่อประทับเครื่องบินพระที่นั่งเสด็จนิวัติพระนคร……….

   ครั้งที่ 2 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถและสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเสด็จพระราชดำเนินมาทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทรงถวายผ้าพระกฐินต้น ณ วัดคูยางอำเภอเมืองจังหวัดกำแพงเพชร พร้อมถวายพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์และกรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการถวายโดยเสด็จพระราชกุศลด้วย รวมเป็นเงิน หกหมื่นบาท เพื่อเป็นทุนเริ่มต้นสร้างพระอุโบสถ และพระราชทานให้อัญเชิญ พระปรมาภิไธยย่อ ภ.ป.ร. มาประดิษฐานพระอุโบสถด้านหน้า และขอพระราชทานพระนามาภิไธย สก. มาประดิษฐานที่หน้าบันพระอุโบสถด้านหลัง เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2523 และพระราชทานนามพระพุทธรูปประธานซึ่งหล่อด้วยศิลปะสุโขทัย หมวดกำแพงเพชร ขนาดหน้าตักกว้าง 6 ศอก 9 นิ้ว ว่า พระพุทธวชิรปราการ เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2527 นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณแก่ชาวกำแพงเพชร…

ครั้งที่ ๓
 เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2521 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเสด็จมาพระราชทานธงลูกเสือชาวบ้าน ของอำเภอต่างๆจำนวน 117 รุ่น ณ อำเภอเมืองกำแพงเพชร และทรงเยี่ยมราษฎรที่มาเฝ้าฯรับเสด็จฯ อยู่ในบริเวณนั้น ซึ่งราษฎรบ้านกิโลสอง บ้านกิโลสาม บ้านกิโลหก และบ้านใกล้เคียงในเขตอำเภอเมืองกำแพงเพชร ได้กราบบังคมทูลขอพระราชทาน ให้ทรงช่วยเหลือจัดหาน้ำให้ราษฎร เพื่อใช้ในการเพาะปลูก และการอุปโภคและบริโภค ได้ตลอดปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำริ เมื่อ วันที่ 30 มกราคม 2521 ให้กรมชลประทานพิจารณาวางโครงการชลประทาน เพื่อจัดหาน้ำให้ในบริเวณดังกล่าว และพระราชทานแนวทางในทางการพิจารณาวางโครงการ ให้กรมชลประทาน ใช้ประกอบการพิจารณาด้วย
         นับว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณ ต่อชาวกำแพงเพชรยิ่งนัก ที่พระองค์เสด็จกำแพงเพชร ถึง 3 ครั้ง ชาวกำแพงเพชร ไม่มีวันที่จะลืมเลือนวาระอันสำคัญนี้เลย…………

ครั้งที่ ๔ เสด็จลานกระบือ
น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ น้อมรำลึกและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ แด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้ทรงทุ่มเทพระวรกายเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของพสกนิกรชาวไทย
โดยหนึ่งในพระราชกรณียกิจด้านพลังงานที่สำคัญเพื่อความมั่นคงทางพลังงานและการพึ่งพาตนเองของประเทศ คือ ในปี 2524 ได้มีการค้นพบน้ำมันดิบในปริมาณมากพอในเชิงพาณิชย์ที่หลุมสำรวจ "ลานกระบือ เอ 01" อำเภอลานกระบือ จังหวัดกำแพงเพชร ในครั้งนั้น ถือเป็นประวัติศาสตร์สำคัญในวงการน้ำมันของไทย
รัฐบาลในขณะนั้นโดยนายกรัฐมนตรี พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ จึงได้นำความขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณา ขอพระราชทานพระนามาภิไธย "สิริกิติ์" นำมาเป็นชื่อของ แหล่งน้ำมันสิริกิติ์ เป็นแหล่งน้ำมันดิบบนบกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกำแพงเพชร พิษณุโลก และสุโขทัย ขนาดพื้นที่ 1,326 ตารางกิโลเมตร และตั้งชื่อน้ำมันที่ขุดขึ้นมาได้ว่า "น้ำมันดิบเพชร" ตามชื่อจังหวัดกำแพงเพชร
ในคราวนั้น สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็น
องค์ประธานในพิธีเปิดแหล่งน้ำมันสิริกิติ์ จังหวัดกำแพงเพชร
เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2526
ปัจจุบันแหล่งน้ำมันสิริกิติ์ ยังคงดำเนินการอยู่
ข้อมูลเดือนกันยายน 2568 มีอัตราการผลิตเฉลี่ย ดังนี้
• น้ำมันดิบ ประมาณ 20,000 – 22,000 บาเรลต่อวัน
• ก๊าซธรรมชาติ ประมาณ 20 – 25 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน
• ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ประมาณ 140 - 160 ตันต่อวัน
นอกจากเป็นแหล่งพลังงานสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศแล้ว แหล่งน้ำมันสิริกิติ์ ยังเป็นต้นแบบการประกอบกิจการปิโตรเลียมที่อยู่ร่วมกับชุมชนอย่างยั่งยืน โดยสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของคนในท้องถิ่น เช่น โครงการก๊าซธรรมชาติเพื่อเกษตรชุมชนและสิ่งแวดล้อม ตำบลหนองตูม อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย โดยนำก๊าซธรรมชาติส่วนเกินไปใช้กับวิสาหกิจชุมชนแทนก๊าซหุงต้ม
กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติในฐานะหน่วยงานที่กำกับ ดูแล บริหารจัดการ
แหล่งปิโตรเลียม และแหล่งเชื้อเพลิงธรรมชาติเพื่อสร้างและรักษาความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ อย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มุ่งมั่นดำเนินงานด้วยความตระหนักในพระราชปณิธานในการใช้ทรัพยากรของแผ่นดินอย่างรู้คุณค่า เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนไทยอย่างยั่งยืน
" ขอน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ตราบนิจนิรันดร์ "
ที่มา : บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กรมศิลปากร และมหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร

ครั้งที่ ๕  เสด็จ บ้านสักงาม กำแพงเพชร
ครั้งที่ ๕.๑  เสด็จ ๑๖ มีนาคม ๒๕๓๖
ครั้งที่ ๕.๒  เสด็จ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๗

เนื่องในโอกาส เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรหมู่บ้านสักงาม หมู่ที่ 1 ตำบลสักงาม อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร

สรุปพระราชดำริ 1. ให้แม่ทัพภาคที่ 3 ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร และป่าไม้จังหวัดกำแพงเพชร จัดหาพื้นที่ทำกินให้แก่ชาวเขาบ้านแม่พืช และบ้านแปลงที่สี่ ที่เคยอาศัยอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติคลองลาน และอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ โดยจัดที่ทำกินให้ครอบครัวละ 5 ไร่

2. พัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของไทยภูเขา โดยจัดอาชีพให้ผู้ชายรับจ้างปลูกป่า ผู้หญิงทำเครื่องเงิน เย็บปัก จักสาน

3. ส่งเสริมให้บริเวณพื้นที่ดังกล่าวเป็นสถานที่ท่องเที่ยว จะทำให้ขายสินค้าของที่ระลึกได้

วัตถุประสงค์ของโครงการ 1. เพื่อฟื้นฟูสภาพป่า ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร ลำน้ำวงก์ คลองสวนหมาก คลองวังเจ้า ให้กลับมีความสมบูรณ์ดังเดิม

2. เพื่อให้ราษฎรซึ่งขาดแคลนที่ดินทำกิน ทำไร่เลื่อนลอย ได้มีที่ดินทำกินเป็นหลักแหล่ง ไม่บุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อทำไร่เลื่อนลอยอีกต่อไป

3. เพื่ออนุรักษ์และส่งเสริมอาชีพที่ราษฎรถนัด เช่น การทำเครื่องเงิน ปักผ้า แกะสลัก จักสาน โดยมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จะรับราษฎรบางส่วน ไปฝึกอบรม ณ พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ และพระตำหนักสวนจิตรลดา เป็นการพัฒนาฝีมือ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด
เป็นกำเนิด ของ บ้านเล็กในป่าใหญ่ ตำบลหินดาด ปางศิลาทอง กำแพงเพชร

เสด็จพระราชดำเนินบ้านเล็กในป่าใหญ่จำนวน ๕ ครั้ง (ครั้งที่ ๗ ถึง ครั้งที่ ๑๑)

ครั้งที่ ๗ (๑) พุธที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๘ เปิดป้ายโครงการ บ้านเล็กในป่าใหญ่ เปิดศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เปิดโครงการประปาหมู่บ้าน ปลูต้นราชพฤกษ์ ๒ ต้นหน้าที่ประทับทรงงาน ทรงติดตามผลงานราษฎรอย่างละเอียด จนถึง ๓ ทุ่มเสด็จราชดำเนินกลับ

 ครั้งที่ ๘ (๒)พุธที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๓๙ เสด็จโรงเรียนบ้านอุดมทรัพย์ ปลูกต้นแก้วเจ้าจอม ๒ ต้นหน้าอาคารเรียนเปิดป้ายอาคารเรียน บ้านเล็กในป่าใหญ่พระราชทานโล่ แก่ผู้ร่วมดับไฟป่า แล้วเสด็จไปที่ทรงงาน  ทรงปล่อยปลา ทรงปลูกต้นโมกมัน เยี่ยมราษฎรมาเข้าเฝ้า  ชมนิทรรศการของแต่ละหน่วยงาน ทรงติดตามผลงานผลิตภัณฑ์ของราษฎร์และสมาชิก พระราชทานความช่วยเหลือ  เวลา ๑ทุ่ม ถึง ๒ ทุ่ม มีพายุฝนหนักมาก แต่พระองค์ทรงงาน จนพายุสงบจึงเสด็จกลับ

ครั้งที่ ๙ (๓) พุธที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๔๐ เสด็จทรงาน ทรงปลูกต้นพญาสัตบรรณ เยี่ยมพสกนิกร ชมนิทรรศการ และผลิตภัณฑ์ของประขาขน และสมาชิกศิลปาชีพ ทรงพระราชทานความช่วยเหลือแนะนำการผลิต แล้วเสด็จกลับ

ครั้งที่ ๑๐  (๔) ศุกร์ที่ ๑๒มีนาคม ๒๕๔๒ เสด็จเยี่ยมราษฎร ชมนิทรรศการผลผลิตของราษฎร และสมาชิก และพระราชทานความช่วยเหลือและผลตอบแทนของสมาชิก แล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับ

ครั้งที่ ๑๑ (๕) พุธที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๔๓เสด็จเยี่ยมราษฎร ที่โรงเรียน บ้านอุดมทรัพย์ และที่สถานที่ทรงงาน ติดตามผลงานของสมาชิก ทรงช่วยเหลือและให้ผลตอบแทนแก่ราษฏร แล้วเสด็จกลับ

แต่ละครั้ง ทรงประทับนั่งกลับพื้น มีตั่งทรงานเล็ก ตั้งอยู่ ทรง เรียบง่ายและสมถะที่สุด นับว่าน่ายกย่องและน่าสรรเสริญยิ่งนัก





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 03, 2025, 11:41:09 am โดย apairach » บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.11 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!