จดหมายเหตุวัฒนธรรมกำแพงเพชร โดย อาจารย์สันติ อภัยราช
เมษายน 27, 2024, 12:10:14 am *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: จดหมายเหตุวัฒนธรรมกำแพงเพชร โดย อาจารย์สันติ อภัยราช
ยินดีต้อนรับสมาชิก และผู้เยื่ยมชมทุกๆท่าน
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ปริศนา พานและกรวยดอกไม้สำหรับไหว้ครู คำไหว้ครู ปาเจรา จริยา โหนติ คุณุตตรา นุสา  (อ่าน 7281 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
apairach
Administrator
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1414


ดูรายละเอียด อีเมล์
| |
« เมื่อ: มิถุนายน 08, 2015, 05:54:29 pm »

ปริศนา พานและกรวยดอกไม้สำหรับไหว้ครู
 คำไหว้ครู
ปาเจรา จริยา โหนติ คุณุตตรา นุสาสกา
      ข้าขอประณตน้อมสักการ บูรพคณาจารย์ ผู้กอรปเกิดประโยชน์ศึกษา
      ทั้งท่านผู้ประสาทวิชา อบรมจริยา แก่ข้าในกาลปัจจุบัน
      ข้าขอเคารพอภิวันท์ ระลึกคุณอนันต์ ด้วยใจนิยมบูชา
      ขอเดชกตเวทิตา อีกวิริยะพา ปัญญาให้เกิดแตกฉาน
      ศึกษาสำเร็จทุกประการ อายุยืนนาน อยู่ในศีลธรรมอันดี
     ให้ได้เป็นเกียรติเป็นศรี ประโยชน์ทวี แก่ข้าและประเทศไทย เทอญ
การไหว้ครู ในอดีตนั้น นิยมใช้ดอกไม้และสิ่งที่ไม่ต้องซื้อหา เก็บเอาจากภายในบ้านโดยไม่ต้องลงทุน หรือเก็บเงินกันจำนวนนับร้อย ในปัจจุบัน  ส่วนพานบูชาครูก็มักใช้ ดินเหนียว และดอกไม้ที่หาได้ในบ้านมาประดับ ไม่ต้องซื้อหา  จะใช้ หญ้าแพรก ข้าวตอก ดอกมะเขือ และดอกเข็ม เป็นองค์ประกอบในพานดอกไม้แต่ละอย่างล้วนเป็นปริศนาที่เด็กไทยควรศึกษา
         หญ้าแพรก เป็นตัวแทนที่แสดงถึงความเข้มแข็ง อดทนถึงแม้จะแห้งแล้ง คนเดินเหยียบย่ำ หญ้าแพรกก็จะไม่ตาย พอได้รับโอกาสที่เหมาะสม ได้รับความชุมชื้น ก็จะแตกยอดเจริญงอกงามเป็นอย่างดี  ครูจึงต้องเป็นผู้ที่เข้มแข็งอดทนต่อปัญหาต่าง ๆ ของนักเรียนนักศึกษามากมาย และค่อย ๆสะท้อนปลูกฝังความมุ่งมั่นอดทน เข้มแข็งไปสู่นิสัยของนักเรียน นักศึกษา ฝึกให้เขาเข้มแข็งอดทนให้จงได้ หญ้าแพรกสามารถเก็บจากสนามหน้าบ้าน ข้างทางเดินมาโรงเรียน เป็นการประหยัดและพอเพียง เป็นแบบอย่างที่ดีในสังคมไทย
ข้าวตอก เป็นข้าวที่เกิดจากการใช้เมล็ดข้าวสารไปคั่ว โดยมีฝาครอบไว้ เมื่อได้รับความร้อนระดับหนึ่ง เมล็ดข้าวก็จะพองตัวและแตกตัวออกเป็นข้าวตอก มีกลิ่นหอม  เช่นเดียวกับการให้การศึกษา ครูผู้สอนต้องให้การอบรมคู่กันไปด้วย "อบเพื่อให้สุกรมเพื่อให้หอม" เช่นเดียวกับการทำข้าวตอก ข้าวตอกเป็นอาหาร ในสังคมไทย ที่ทุกบ้านทำนา จะคั่วข้าวตอกไปกิน ระหว่างเดินทาง เป็นภูมิปัญญาในการถนอมอาหาร ให้เก็บไว้กินได้หลายวัน ไม่ต้องซื้อหาเช่นกัน
            การสั่งสอนอบรมของครู บางครั้งต้องมีการว่ากล่าวตักเตือน ติติงหรือทำโทษ ในการกระทำที่ไม่เหมาะสมเสมือนการใช้ความร้อนกับเมล็ดข้าว โดยมีกฏระเบียบหรือแนวปฏิบัติ เสมือนเป็นฝาครอบ ไม่ให้ลูกศิษย์ออกนอกลู่นอกทาง ครูจึงต้องทำหน้าที่สั่งสอนอบรมให้ให้ลูกศิษย์ เป็นดังเช่นข้าวตอก คือ "สุกและหอม" ซึ่งหมายถึง การสั่งสอนแนะนำให้เขามีความรู้ความสามารถและเป็นคนดีที่ยอมรับนั่นเอง และมีประโยชน์ต่อสังคมในอนาคต
ดอกมะเขือ ลักษณะของดอกมะเขือ เวลาบานจะสีขาวสะอาดและดอกจะโน้มคว่ำลงพื้นดินซึ่งก็เป็นปริศนาธรรม แสดงถึงความสะอาดบริสุทธิ์ของจิตใจ เป็นคนซื่อสัตย์ อ่อนน้อมถ่อมตนเสมอ ทุกบ้านมีสวนครัวที่ปลูกมะเขือไว้กินกันทุกบ้าน ดังนั้นการนำดอกมะเขือมาเป็นสัญลักษณ์ในพานไหว้ครู จึงไม่ต้องซื้อหา  เป็นการประหยัด และพอเพียงเช่นกัน ในพานและกรวยในวันไหว้ครู
             ดอกเข็ม ลักษณะของดอกเข็มจะมียอดดอกแหลม ซึ่งเป็นปริศนาธรรมว่า ครูต้องจัดการเรียนการสอนเพื่อปลูกฝังความคิด ให้นักเรียนนักศึกษาเป็นคนฉลาด  รู้จักวิเคราะห์วิจารณ์ ใช้ความคิดให้เป็นประโยชน์แก้ปัญหาต่าง ๆ ที่พบเห็น ความเฉียบคมทางความคิดจะทะลุทะลวงทุกปัญหาได้ และเช่นเดียวกัน ดอกเข็ม มีในทุกบ้าน คนโบราณนิยมและปลูกไว้ทำรั้วบ้าน  จึงหาง่ายและไม่ต้องลงทุน
   ดังนั้น  หญ้าแพรก ข้าวตอก ดอกมะเขือ และดอกเข็ม จึงเป็นปริศนาธรรมที่นับเป็นภุมิปัญญาสำคัญของครูและเด็กไทยสมัยก่อน  นี่แหละคือความพอเพียงที่แท้จริง  ไม่ต้องไปลงทุนจ้างร้านดอกไม้ทำพานไหว้ครู ในราคาหลายร้อยอีกต่อไป ถ้าเด็กเข้าใจ ครูเข้าใจ โรงเรียนเข้าใจ  ทุกอย่างก็ลงตัว

             คนโบราณช่างชาญฉลาดที่จะสอนศิษย์ด้วยกลวิธีต่าง ๆ แม้กระทั่งการใช้ดอกไม้ต้นไม้ ฯลฯ เป็นสื่อการสอนทำให้ลูกศิษย์ให้ยุคก่อนเก่าได้เรียนรู้จากธรรมชาติ และรู้จักกตัญญูรู้คุณผู้ที่เป็นครูบาอาจารย์อยู่ตลอดไป และการที่เราใช้ "หญ้าแพรกดอกมะเขือ" ในการไหว้ครูนั้น เพราะเป็นของหาง่าย งอกงามอยู่ทั่วไป
คำปฏิญาณตน
เราคนไทย ใจกตัญญู รู้คุณชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
เรานักเรียนจักต้องประพฤติตนให้อยู่ในระเบียบวินัยของโรงเรียน
 มีความซื่อสัตย์ต่อตนเองและผู้อื่น
เรานักเรียนจักต้องปฏิบัติตนไม่ให้เป็นที่เดือดร้อนต่อตนเองและผู้อื่น
ทำได้แค่นี้  ก็ไม่ต้องถึงค่านิยม ๑๒ ประการ  ซึ่งเรา ทำแค่รูปแบบ ไม่ได้คำนึงถึงสาระสำคัญ และภูมิปัญญาที่แท้จริง ของการไหว้ครู

บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.11 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!