จดหมายเหตุวัฒนธรรมกำแพงเพชร โดย อาจารย์สันติ อภัยราช
มีนาคม 29, 2024, 01:20:26 pm *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: จดหมายเหตุวัฒนธรรมกำแพงเพชร โดย อาจารย์สันติ อภัยราช
ยินดีต้อนรับสมาชิก และผู้เยื่ยมชมทุกๆท่าน
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: พระพุทธเจ้าหลวงประพาสต้นกำแพงเพชร  (อ่าน 3113 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
apairach
Administrator
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1410


ดูรายละเอียด อีเมล์
| |
« เมื่อ: สิงหาคม 30, 2014, 11:12:19 pm »

พระพุทธเจ้าหลวงประพาสต้นกำแพงเพชร
           พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ทรงเสด็จประพาสต้นชมความงดงามของกำแพงเพชร เมืองเก่าแห่งประวัติศาสตร์ไทย ในวันที่ ๑๘ ? ๒๗ สิงหาคม ๒๔๔๙ ด้วยเรือหางแมงป่องล่อในการเสด็จประพาสต้นของพระพุทธเจ้าหลวง เพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกตของประชาชน พระองค์ทรงเสด็จโดยสามัญชน  ไม่มีพิธีรีตองตามขนบธรรมเนียมประเพณีแต่อย่างใด เพื่อทรงสำราญพระราชอิริยาบถกับข้าราชบริพานอย่างง่ายๆ เมื่อพอพระราชหฤทัยสถานที่ใด ก็โปรดเกล้าฯให้จัดที่ประทับแรมแบบสามัญโดยมีเป้าหมายสำคัญอีกประการหนึ่งคือ พระองค์ทรงตรวจเยี่ยมดูแลทุกข์สุขด้วยพระองค์เอง ซึ่งนับว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นอย่างยิ่ง                                 
           ในสมัยก่อนจังหวัดกำแพงเพชรมีความเชื่อในเรื่องของการมาที่นครชุมว่า ถ้าใครมาที่นครชุมจะต้องหันหน้าออกไปทางกำแพงเพชร ห้ามหันหน้าเข้าทางนครชุม ไม่งั้นจะมีอันเป็นไปถึงชีวิต ด้วยสาเหตุนี้พระพุทธเจ้าหลวงจึงเสด็จไปที่นครชุมจังหวัดกำแพงเพชรเพื่อลบคำสบประมาทและความหวาดกลัวความเชื่อที่ผู้อื่นได้กล่าวไว้ พระพุทธเจ้าหลวงจึงเสด็จไปที่นครชุม เพื่อให้ประชาชนรู้ว่านครชุมไม่ได้น่ากลัวดังคำร่ำลือ                                                                    
           ประพาสต้น หมายถึงการเสด็จโดยไม่ไม่เป็นทางการ ไม่ประสงค์ที่จะให้มีการต้อนรับ เพื่อพระองค์จะได้มีโอกาสทอดพระเนตรความทุกข์สุขของประชาชน  อย่างไม่มีการเตรียมการไว้ พระพุทธเจ้าหลวงออกจากพระราชวังสวนดุสิต ตั้งแต่วันที่ ๒๗ กรกฎาคม ๒๔๔๙ รอนแรมมาทางเรือ ผ่านลำน้ำเจ้าพระยา ถึงบ้านแดน เขตรอยต่อระหว่างกำแพงเพชรกับนครสวรรค์ ในครั้งกระนั้น                     
           เมื่อวันที่ ๑๘ สิงหาคม พระองค์ทรงเสด็จเข้าสู่ตัวเมืองกำแพงเพชรในวันที่ ๒๒ สิงหาคม และประทับแรมที่พลับพลา บริเวณใกล้กับวัดชีนางเกา ปัจจุบันเป็นบ้านพัก รองผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร  ซึ่งพลับพลานี้เคยรับเสด็จเจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ ในรัชกาลที่ ๕ เสด็จมาในปี พ.ศ. ๒๔๔๘ ก็มาประทับที่นี้เช่นกัน ต่อมาพลับพลาแห่งนี้ ได้ใช้เป็นที่เรียนของกุลบุตรกุลธิดา ในจังหวัด  เรียกกันว่าโรงเรียนพลับพลา      
           ในช่วงเช้าของวันที่ ๒๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๔๙  พระองค์ทรงเสด็จ ผ่านวัดเล็กๆ ทำด้วยศิลาแลง ผ่านที่ว่าการเมืองที่สร้างยังไม่เสร็จ ( บริเวณสนามเด็กเล่นเทศบาลซึ่งรื้อไปแล้ว ) เสด็จเข้าทางประตูน้ำอ้อย ปัจจุบันรื้อไปแล้วเช่นกัน  ได้ทอดพระเนตร สามประตู คือ ประตูน้ำอ้อย ประตูบ้านโนน ประตูดั้น เสด็จเข้าไปในวัดพระแก้วตอนหน้าเป็นวิหารใหญ่อย่างวัด พระศรีสรรเพชญ์ กรุงศรีอยุธยา มณฑป ที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต ถ้าพระแก้วมาอยู่ที่กำแพงเพชรตามตำนาน ต้องมาอยู่ที่วัดแห่งนี้แน่นอน ทรงตรัสชมว่าพระเจดีย์วัดพระแก้ว เป็นเจดีย์ลอมฟาง ทำได้งามมาก เสด็จต่อไปจนถึงวัดช้างเผือก ไปที่ศาลหลักเมือง แล้วไปที่ สระมน พระราชวังโบราณของเมืองกำแพงเพชร ราษฎรสร้างพลับพลาและปะรำในบริเวณสระมน มีราษฎรมาเข้าเฝ้าเป็นจำนวนมาก มีสำรับกับข้าว มาเลี้ยงหลายสิบสำรับ                  
           พระพุทธเจ้าหลวงเสด็จประพาสต้นเมืองกำแพงเพชรรวมทั้งสิ้น ๑๐ วัน  เช้าวันที่ ๒๕ สิงหาคม      พ.ศ.๒๔๔๙ ทรงลงเรือข้ามฟากไปฝั่งตะวันตกยังไม่ขึ้นที่วัดพระธาตุเลยไปคลองสวนหมาก แต่ต้นทางที่จะเข้าไปเรียกว่า แม่พล้อ พระองค์ทรงขึ้นไปถ่ายรูปบ้านสองหลัง แล้วจึงกลับออกมาจอดเรือเสวยพระกระยาหารบริเวณหาดกลางน้ำ เสร็จแล้วจึงล่องเรือลงมาขึ้นที่พระธาตุ ซึ่งแต่เดิมเป็นพระเจดีย์อย่างเดียวกับที่วัดพระธาตุใหญ่องค์หนึ่งโดยพระยาตะก่า แต่ยังไม่เสร็จพระยาตะก่าก็เสียชีวิตลง พะโป้จึงได้มาปฏิสังขรณ์ต่อได้ยกยอดฉัตรซึ่งมาแต่เมืองมะระแหม่ง พระเจดีย์ทาสีเหลือง มีลายปูนขาว แลดูในแม่น้ำงามดี  นอกจากนี้ชาวกำแพงเพชรยังได้รับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชพร้อมกับสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จกำแพงเพชรถึง ๓ ครั้ง                        
            ครั้งที่ ๑ เมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๑๐ เสด็จบวงสรวงสังเวยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและยังทรงเสด็จออกมาปลูกต้นสัก ณ บริเวณหน้าศาลากลาง โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ  ทรงปลูกต้นสักด้านขวาและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถทรงปลูกต้นสักด้านซ้ายของศาลากลาง แล้วเสด็จไปเยี่ยมพสกนิกรของพระองค์ ภาพที่ชาวกำแพงเพชรประทับใจคือพระองค์ทั้งสองทรงโบกพระหัตถ์ให้แก่ชาวจังหวัดกำแพงเพชรเป็นอย่างยิ่ง                              
           ครั้งที่ ๒ เมื่อวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๑๕ ทรงเสด็จบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ส่วนพระองค์ ณ วัดคูยาง และยังพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์และกรมการศาสนาได้ร่วมถวายโดยเสด็จพระราชกุศลเป็นเงินจำนวน ๖๐,๐๐๐ บาท  เพื่อใช้เป็นทุนสร้างวัด นอกจากนี้ยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระปรมาภิไธยย่อ ภ.ป.ร. มาประดิษฐานหน้าบันพระอุโบสถด้านหน้า และพระนามาภิไธยย่อ ส.ก. มาประดิษฐานที่หน้าบันพระอุโบสถด้านหลัง เมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม  พ.ศ. ๒๕๒๓ และพระองค์ทรงพระราชทานนาม พระพุทธรูปประธานซึ่งหล่อแบบศิลปะสุโขทัย หมวดกำแพงเพชร ขนาดหน้าตักกว้าง ๖ ศอก ๙ นิ้ว ว่า  พระพุทธวชิรปราการ  เมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๒๗                     
           ครั้งที่ ๓ เมื่อวันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๒๑ เสด็จพระราชทานธงลูกเสือชาวบ้าน ของอำเภอ ต่างๆ รวม ๑๑๗ รุ่น  ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดกำแพงเพชร  หลังจากพระราชทานธงประจำรุ่นลูกเสือชาวบ้านแล้ว ยังทรงพระราชทานพระบรมราโชวาทแก่ลูกเสือชาวบ้านและพสกนิกรที่มารับเสด็จ  เมื่อเสร็จพิธีทรงเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยียนราษฎรที่มาเฝ้ารับเสด็จ ขณะนั้นประชาชน บ้านกิโลสอง  กิโลสาม  กิโลหกและชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงได้กราบทูลขอพระราชทานให้ทรงช่วยเหลือจัดหาน้ำเพื่อใช้ในการเพาะปลูกและการอุปโภคบริโภคได้ตลอดปี  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชดำริเมื่อวันที่ ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๒๑ ให้กรมชลประทานพิจารณาวางโครงการชลประทานท่อทอแดง เพื่อจัดหาน้ำให้แก่ชาวบ้านบริเวณหมู่บ้านดังกล่าว                                    
          ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ ถือว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่สำคัญ เป็นความภาคภูมิใจของชาวจังหวัดกำแพงเพชรเป็นอย่างมาก ซึ่งทำให้ชาวจังหวัดกำแพงเพชรมีความปลื้มปิติยินดีเป็นอย่างมาก ที่พระองค์ไม่ทรงละทิ้งราษฎรที่อยู่ห่างไกล แต่ทรงให้ความช่วยเหลือดูแลเป็นอย่างดี นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ หากพระพุทธเจ้าหลวงไม่ทรงเสด็จมา ชาวกำแพงเพชรก็จะไม่เจริญจนถึงปัจจุบันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบาทสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตพระบรมราชินีนาถ ที่เข้ามาช่วยเหลือเรื่องน้ำให้แก่ชาวกำแพงเพชร จึงทำให้ชาวกำแพงเพชรมีน้ำกิน น้ำใช้ อุดมสมบูรณ์มาจนถึงปัจจุบัน            
           ขอขอบพระคุณท่านอาจารย์สันติ  อภัยราช เป็นอย่างสูงที่เปิดโอกาสได้ให้ดิฉันและเพื่อนๆได้รับความรู้เกี่ยวกับการเสด็จประพาสต้นของพระพุทธเจ้าหลวงในจังหวัดกำแพงเพชร และขอบพระคุณเจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุที่ได้จัดงานนี้ขึ้นทำให้นักเรียน นักศึกษาและบุคคลต่างๆ ได้รับทราบถึงประวัติศาสตร์ของจังหวัดกำแพงเพชรมากขึ้นและอยากให้จัดงานนี้ขึ้นทุกปีเพื่อให้เยาวชนรุ่นหลังได้รับรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์และความเป็นมาของจังหวัดกำแพงเพชรเพื่อให้เกิดความรักและหวงแหนแผ่นดินบ้านเกิดของตนเอง


นางสาวณัฏฐณิชา  ขำปาน   551121514  โปรแกรมวิชาภาษาไทย คณะครุศาสตร์
     
                                                                                                                                                                                                                     
บันทึกการเข้า
apairach
Administrator
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1410


ดูรายละเอียด อีเมล์
| |
« ตอบ #1 เมื่อ: กันยายน 01, 2014, 12:41:40 pm »

ดำเนินเรื่องชัดเจน ให้ ๑๐ คะแนน
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.11 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!