จดหมายเหตุวัฒนธรรมกำแพงเพชร โดย อาจารย์สันติ อภัยราช
มีนาคม 29, 2024, 06:38:21 pm *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: จดหมายเหตุวัฒนธรรมกำแพงเพชร โดย อาจารย์สันติ อภัยราช
ยินดีต้อนรับสมาชิก และผู้เยื่ยมชมทุกๆท่าน
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ย้อนรอยพระมหากษัตริย์ไทยกับเมืองกำแพงเพชร นางสาวอรพรรณ นูธิกุล 551121527  (อ่าน 3111 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
apairach
Administrator
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1410


ดูรายละเอียด อีเมล์
| |
« เมื่อ: สิงหาคม 29, 2014, 08:32:42 pm »

      กินข้าวแล้วล่องลงมาขึ้นที่วัดพระธาตุ ซึ่งแต่เดิมเป็นพระเจดีย์อย่างเดียวกับที่วังพระธาตุใหญ่องค์หนึ่ง ย่อมสององค์  พญาตะก่าสร้างรวมสามองค์ เป็นองค์เดียว แปลงรูปเป็นพระเจดีย์มอญแต่ยังไม่แล้วเสร็จพระยาตะก่าตาย พะโป้จึงได้มาปฏิสังขรณ์ต่อ ได้ยกยอดฉัตรซึ่งมาแต่เมืองมะระแหม่งพึ่งแล้ว แต่ฐานชุกชียังถือปูนไม่รอบ พระเจดีย์นี้ทาสีเหลือง มีลายปูนขาว แลดูในแม่น้ำงามดี?จากบทความข้างต้น เป็นบทความที่พระองค์ทรงบันทึก ตอนที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวหรือพระพุทธเจ้าหลวง ได้เสด็จพระราชดำเนินมายังจังหวัดกำแพงเพชร เป็นการเสด็จประพาสต้นที่นำความปลาบปลื้มล้นพ้นมาสู่เมืองกำแพงเพชร
      ยังคงมีใครอีกหลายคนที่ยังไม่รู้ว่าการเสด็จประพาสต้นนั้นคืออะไร การเสด็จประพาสต้นนั้น หมายถึงการเสด็จโดยไม่ไม่เป็นทางการ ไม่ประสงค์ที่จะให้มีการต้อนรับ เพื่อพระองค์จะได้มีโอกาส ทอดพระเนตรสุขทุกข์ของประชาชนของพระองค์ อย่างไม่มีการ เตรียมการไว้ โดยพระพุทธเจ้าหลวงเสด็จประพาสต้นเมืองกำแพงเพชรตั้งแต่วันที่18สิงหาคมพ.ศ.2449 ประทับแรมเมืองกำแพงเพชร อยู่ถึง วันที่ 27 สิงหาคม รวมทั้งสิ้น 10 วัน จากการรวบรวมข้อมูลการเสด็จประพาสต้นของพระเจ้าหลวงมายังเมืองกำแพงเพชร เป็นข้อมูลที่ได้จากการร่วมงานมหกรรมเฉลิมพระเกียรติ พระมหากษัตริย์ไทยกับเมืองกำแพงเพชร ข้อมูลจากจดหมายเหตุวัฒนธรรมกำแพงเพชร โดย อาจารย์สันติ อภัยราช และข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลกลางทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม จากการรวบรวมข้อมูลเบื้องเพื่อให้ผู้อ่านได้ทราบถึงความเป็นมาของการเสด็จประพาสต้นต้นได้มีการเล่าขานกันไว้ว่า
      พระองค์ทรงเสด็จประทับเรือพระที่นั่งเพื่อข้ามไปยังฝั่งตะวันตก เป็นลำห้วยผ่านประตูเมืองต่างๆ ผ่านคลอง ซึ่งเป็นทางผ่านที่เรียกว่า แม่พล้อ ล่องเรือไปตามลำคลอง 3 วัน ทรงเสด็จประพาสเมืองกำแพง ผ่านประตูเจ้าอินเจ้าจัน ประตูชัย ประตูป้อมเพชร วัดกำแพงงาม วัดพระนอน วัดพระยืนราชดำเนินไปในป่า ซึ่งเป็นป่าที่พะโป้กะเหรี่ยงที่อยู่ในใต้บังคับอังกฤษเป็นคนทำ ภรรยาเป็นคนไทย ชื่ออำแดงทองย้อย  พระองค์ได้ทรงถ่ายรูปที่บ้านของพะโป้ และบุคคลในตระกูลกำแพงเก่าสถานที่ต่างๆตลอดทาง แล้วทรงเสวยอาหารกลางวันที่หาดกลางน้ำ  คลองสวนหมาก โดยช่วงที่พระองค์เสด็จประพาสต้น ได้มีโรคระบาด ไข้ป่าและมีเสียงเล่าลือกันว่าหากผู้ใด ล่องเรือผ่านคลองสวนหมากห้ามหันหน้าไปทางทิศตะวันออก เพียงหันกลับไปมองจะทำให้เป็นไข้ตาย จึงทำให้  ไม่มีข้าราชการคนใดอยากมารับราชการที่กำแพงเพชร คงมีแต่ พญาตะก่า พี่ชายของพะโป้ที่ทำสัมปทานป่าไม้อยู่ มีการค้าขายสัญจรยังสองฟากฝั่ง หลังจากนั้นชาวบ้านที่ติดต่อค้าขายก็ย้ายถิ่นฐานเข้ามาอยู่ที่คลองสวนหมากอย่างเนืองแน้น เลยทำให้เสียงเล่าลือดังกล่าวก็เลือนหายไป นอกจากนี้พระองค์ทรงเสด็จมาสักการะองค์พระเจดีย์ ซึ่งปัจจุบันคือองค์พระธาตุใหญ่ ของวัดพระบรมธาตุ สร้างโดยพญาตะก่า   แต่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ พญาตะก่าก็เสียชีวิต พะโป้จึงได้มาปฏิสังขรณ์ต่อ ได้ยกยอดฉัตรทองซึ่งมาจากเมือง     มะระแหม่ง ประเทศพม่า พระเจดีย์นี้ทาสีเหลืองมีลายปูนขาวเมื่อมองดูในน้ำแสนงามตา  มีราษฎรมากมายมารอเข้าเฝ้า แล้วทรงประทับเรือพระที่นั่งกลับเพื่อเสด็จกลับ
      จากบันทึกการเสด็จประพาสต้นขององค์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวหรือพระพุทธเจ้าหลวง ได้เสด็จพระราชดำเนินมายังจังหวัดกำแพงเพชร ผู้อ่านคงเห็นว่าเป็นการเสด็จประพาสต้นที่นำความปลาบปลื้มล้นพ้นมาสู่เมืองกำแพงเพชร เป็นภาพแห่งความทรงจำอันล้ำค่าที่ยังติดตรึงใจเราอยู่ถึงแม่เวลาจะผ่านไปร้อยแปดแล้ว นอกจากนี้พระองค์ทรงเป็นดั้งเทวดาที่มาช่วยรักษาโรคให้ชาวบ้าน ทุกคนอาจคิดว่าพระองค์ทรงมีความสามารถในการรักษาโรค ถึงได้ช่วยรักษาชาวกำแพงเพชรให้พ้นจากโรคภัยได้  ไม่เลยพระองค์ทรงเป็นยิ่งกว่าหมอเทวดา เพราะทรงสามารถชุบชีวิตประชาชนด้วยน้ำหระราชหฤทัย ที่ทรงพระเมตตาเสด็จประพาสต้นมายังเมืองกำแพงเพชรเพราะช่วงนั้น เต็มไปด้วยโรคระบาด ไข้ป่า ไม่มีข้าราชการต่างพากันหวาดกลัว ไม่มีใครอยากมารับราชการที่กำแพงเพชร แต่พระพุทธเจ้าหลวง หรือพระปิยมหาราชไม่ทรงเกรงกลัวหรือหวาดหวั่น ทรงสำราญพระราชหฤทัยยิ่งนัก เมื่อประทับอยู่ที่กำแพงเพชรถึงแม้ทรงรอนแรม ถึง 10 วัน ทำให้โรคระบาด ไข้ป่า หายไปและยังทรงมีพระเมตตาช่วยเหลือแก้ไขปัญหาให้กับเหล่าพสกนิกร ด้วยพระบารมีของพระองค์ นี้เป็นเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่พระองค์ได้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อเหล่าพสกนิกรของพระองค์  และทรงเสด็จประพาสต้นยังเมืองกำแพงอีกครั้ง แต่ครั้งที่สองนี้มีประชาชนทราบข่าวการเสด็จ จึงทำให้การเสด็จประพาสต้นครั้งที่สองนี้ไม่ค่อยสำราญพระราชหฤทัยนัก แต่เมื่อใดที่พระบาทของพระพุทธเจ้าหลวงย่างก้าวลงที่ใด บนพื้นปฐพี เหมือนมีมนตร์อันศักดิ์สิทธิ์ ทำให้ทุกชีวิตในกำแพงเพชรมีความหวัง เมื่อพระองค์เสด็จประพาสต้นมากำแพงเพชร
      นอกจากองค์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวหรือพระพุทธเจ้าหลวง ได้เสด็จพระราชดำเนินมายังจังหวัดกำแพงเพชรแล้ว จังหวัดกำแพงเพชรทรงได้รับพระมหากรุณาธิคุณ จากองค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราชและพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถเสด็จพระราชดำเนินจังหวัดกำแพงเพชรถึงสามครั้งโดยครั้งที่ 1 ทรงเสด็จมาเมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ . 2510  ถึงกำแพงเพชรเวลา 10.30 น. เพื่อบวงสรวงสังเวยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และทรงปลูกต้นสัก ณ บริเวณ หน้าศาลากลางจังหวัด โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงปลูกต้นด้านขวา และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถทรงปลูกต้นด้านซ้าย ของศาลากลางเพื่อเป็นมิ่งขวัญแก่ประชาชน และหวังให้ประชาชนของพระองค์ได้อาศัยอยู่ภายในใต้ร่มพระบารมี อย่างร่มเย็นเป็นสุข ภายใต้พระบรมโพธิสมภารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
      ครั้งที่สอง ในวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2515 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิรินธร เสด็จมาบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐินส่วนพระองค์ ณ วัดคูยาง อำเภอเมืองจังหวัดกำแพงเพชร ทรงถวายพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เพื่อเป็นทุนเริ่มต้นในการก่อสร้างพระอุโบสถซึ่งกรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการ ร่วมถวายเงินโดยเสด็จพระราชกุศล เป็นเงินหกหมื่นบาท ต่อมาทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระปรมาภิไธยย่อ   ภ.ป.ร. มาประดิษฐานที่หน้าบันพระอุโบสถด้านหน้า และพระนามาภิไธยย่อ  ส. ก.มาประดิษฐานที่หน้าบันพระอุโบสถด้านหลัง เมื่อวันที่ ตุลาคมพ.ศ. 2523    และพระราชทานนามพระพุทธรูปประธาน ซึ่งหล่อแบบศิลปะสุโขทัย
      ครั้งที่สาม เมื่อวันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2521 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จมาพระราชทานธงประจำรุ่นลูกเสือชาวบ้าน ของอำเภอต่างๆในจังหวัดกำแพงเพชรจำนวน 117  รุ่น ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดกำแพงเพชร  เมื่อพระราชทานธงประจำรุ่นลูกเสือชาวบ้านแล้วทรงพระราชทานพระบรมราโชวาท ต่อลูกเสือชาวบ้านและพสกนิกรที่มารับเสด็จ
       ทั้งสองพระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อประชาชนชาวกำแพงเพชร และประชาชนไทยทั้งชาติ ทรงเสด็จไปเยี่ยมพสกนิกร ทั่วทั้งประเทศไม่มีสถานที่ใดในประเทศไทยที่พระเจ้าอยู่หัวไม่ได้เสด็จไปเยี่ยม นำความผาสุกร่มเย็นมาสู่คนไทยทั้งชาติทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ล้ำเลิศด้วยทศพิธราชธรรม เปี่ยมล้นด้วยพระเมตตาธิคุณ พระมหากรุณาธิคุณ มีน้ำพระราชหฤทัยห่วงใยประชาราษฎรทุกหมู่เหล่า ไม่ว่าท้องถิ่นนั้นจะทุรกันดารเพียงใด เสด็จไปทุกหนแห่ง ทำให้เกิดโครงการพระราชดำรินับร้อยนับพันโครงการ ซึ่งไม่มีพระมหากษัตริย์ใดในโลกเสมอเหมือน   
      ดังนั้นทางจังหวัดกำแพงเพชรได้มีการจัดงาน งานมหกรรมเฉลิมพระเกียรติ พระมหากษัตริย์ไทยกับเมืองกำแพงเพชร ?พลังภูมิปัญญา พลังวิถีวัฒนธรรม พลังความปรองดอง?  ระหว่างวันที่ 23 ? 25 สิงหาคม 2557 เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณจากองค์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จมาเยือน โดยแต่ละครั้งนำความปลื้มปิติ และสิ่งที่ดีมีมงคลมามอบให้ชาวกำแพงเพชรเสมอ ทุกรอยละอองธุลีพระบาทที่ทรงย่ำลง ณ สถานที่ใด พสกนิกร
ยังจดจำอยู่มิรู้คลายภาพต่างๆ ได้ประทับในดวงจิตชาวประชากำแพงเพชร  และประชาชนทั่วประเทศมิลืมเลือนที่ได้ชมพระบารมี และจะอยู่ใต้ร่มฟ้ามหาบารมี ขอพระองค์ทรงพระเจริญ


                                                                                            นางสาวอรพรรณ   นุธิกูล     รหัส 551121527 โปรแกรมวิชาภาษาไทย  คณะครุศาสตร์


บันทึกการเข้า
apairach
Administrator
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1410


ดูรายละเอียด อีเมล์
| |
« ตอบ #1 เมื่อ: กันยายน 01, 2014, 02:04:36 pm »

เขียนดี เข้าใจดำเนินเรื่องดี ให้ ๑๐ คะแนน
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.11 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!