จดหมายเหตุวัฒนธรรมกำแพงเพชร โดย อาจารย์สันติ อภัยราช
เมษายน 20, 2024, 07:39:45 pm *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: จดหมายเหตุวัฒนธรรมกำแพงเพชร โดย อาจารย์สันติ อภัยราช
ยินดีต้อนรับสมาชิก และผู้เยื่ยมชมทุกๆท่าน
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: นางสาวสุภารัตน์ โพธิ์รอด , เสวนา ๑๐๘ ปี พระพุทธเจ้าหลวงประพาสต้นกำแพงเพชร  (อ่าน 3185 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
apairach
Administrator
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1413


ดูรายละเอียด อีเมล์
| |
« เมื่อ: สิงหาคม 29, 2014, 10:16:48 am »

                                                                เสวนา ๑๐๘ ปี พระพุทธเจ้าหลวงประพาสต้นกำแพงเพชร

                 เมื่อย้อนเวลากลับไปในอดีตไม่มีประวัติศาสตร์ครั้งใดของจังหวัดกำแพงเพชรที่จะยิ่งใหญ่เหมือนเหตุการณ์  ครั้งที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินจังหวัดกำแพงเพชร  พสกนิกรชาวกำแพงเพชรมีโอกาสเฝ้ารับเสด็จชื่นชมพระบารมีอย่างใกล้ชิด ยังความปลาบปลื้มปีติและความภาคภูมิใจมาจนถึงทุกวันนี้
                 ครั้งหนึ่งที่ชาวกำแพงเพชรไม่เคยลืมเลือนและยังคงจดจำมาจนถึงทุกวันนี้ก็คือ การเสด็จประพาสต้นหัวเมืองฝ่ายเหนือเป็นการส่วนพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ ๕ เพื่อทรงทราบทุกข์สุขของราษฎรใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทอย่างแท้จริงด้วยพระองค์เอง  พระองค์ทรงเสด็จประพาสจังหวัดกำแพงเพชรเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ ๑๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๔๙ พระองค์ทรงเสด็จประพาสเขานอ (เขาหน่อ) ทรงแวะบ้านตาแสนปม และประทับแรม ณ หาดแสนตอ เมืองขาณุวรลักษบุรี  เช้าวันที่ ๑๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๔๙ พระองค์ทรงเสด็จไปทอดพระเนตรคนผมแดง จากนั้นเสด็จไปประทับแรม ณ ตำบลบางแขม ต่อมาวันที่ ๒๐ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๔๙ พระองค์ทรงเสด็จพระราชดำเนินทางชลมารคต่อไปยังวังนางร้างและได้ประทับแรม ณ ที่นี้ด้วย วันที่ ๒๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๔๙ พระองค์เสด็จประพาสผ่านบ้านโคน ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นเมืองเทพนคร ไปประทับแรมที่ท่าขี้เหล็ก วันที่ ๒๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๔๙ พระองค์เสด็จประพาสวัดวังพระธาตุ เมืองไตรตรึงส์ จากนั้นเสด็จไปประทับแรมที่เมืองกำแพงเพชร ต่อมาวันที่ ๒๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๔๙ พระองค์ทรงประพาสป้อมประตูคูเมืองวัดพระแก้ว และทรงถ่ายรูปคนงามเมืองกำแพงเพชร จากนั้นประพาสเทวสถานพระอิศวร วันที่ ๒๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๔๙ พระองค์เสด็จประพาสแนวกำแพงเมือง ประตูเจ้าอินเจ้าจัน ประตูชัย ป้อมเพชร วัดกำแพงงาม วัดพระนอน และวัดพระยืน วันที่ ๒๕ สิงหาคม         พ.ศ. ๒๔๔๙ พระองค์เสด็จประพาสคลองสวนหมาก บ้านพระโป้ และวัดพระบรมาตุ ตำบลนครชุม ต่อมาวันที่ ๒๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๔๙ พระองค์เสด็จไปทรงถ่ายรูปบุคคลในตระกูลกำแพงเก่า จากนั้นเสด็จประพาสที่วัดเสด็จและวัดคูยาง จากนั้นเสด็จล่องจากกำแพงเพชร พักเสวยพระกระยาหารกลางวันที่ปากอ่าง จากนั้นเสด็จไปประทับแรม ณ วังอีร้างหรือนางร้าง และวันที่ ๒๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๔๙ ทรงประทับแรม ณ บ้านแดน นับว่าเป็นที่สิ้นสุดการเสด็จประพาสต้น ณ เมืองกำแพงเพชร พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเสด็จประพาสจังหวัดกำแพงเพชรเป็นเวลา ๑๐ วัน ทำให้พสกนิกรในจังหวัดกำแพงเพชรซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์เป็นอย่างยิ่งและอีกครั้งหนึ่งที่สำคัญของชาวจังหวัดกำแพงเพชรก็คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระราชดำเนินจังหวัดกำแพงเพชร เป็นจำนวน ๓ ครั้ง โดยที่ครั้งที่ ๑ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จ     พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินจังหวัดกำแพงเพชร เมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๐ เวลา ๑๐.๓๐ น. เพื่อบำเพ็ญพระราชกุศลและบวงสรวงสังเวยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ณ บริเวณวังโบราณ     อำเภอเมืองกำแพงเพชร โดยหลักฐานในพงศาวดารระบุว่า ปี พ.ศ. ๒๑๒๖ เป็นปีที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงกรีธาทัพผ่านเมืองกำแพงเพชรและแวะประทับที่วัดยม (ปัจจุบันคือวัดกะโลทัย) ท้ายเมืองกำแพงเพชร วันรุ่งขึ้น พระองค์ทรงแวะพักทัพชัยที่ตำบลหนองปลิง อยู่สามเพลา ในวันที่ ๒๕ มกราคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินจังหวัดกำแพงเพชร ในวันดังกล่าว ด้วยเหตุผลที่ว่า วันนี้ในปี พ.ศ. ๒๑๓๕ ซึ่งตรงกับวันจันทร์ แรม ๑ ค่ำ เดือนยี่ ปีมะโรง จุลศักราช ๙๕๔ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงกระทำยุทธหัตถี มีชัยต่อสมเด็จพระมหาอุปราชาแห่งกรุงหงสาวดี ซึ่งเป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่ที่แสดงออกถึงพระปรีชาสามารถ ความกล้าหาญเด็ดขาดและการเป็นผู้นำทัพที่อัจฉริยะ จนเป็นที่ยำเกรงแก่หมู่ปัจฉามิตร เป็นผลให้ประเทศไทยคงความเป็นเอกราชสืบมาจนทุกวันนี้ ในวันที่ ๒๒ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๔๙ คณะรัฐมนตรี ได้เห็นชอบตามที่กระทรวงกลาโหม เสนอให้เปลี่ยนแปลงกำหนดวันกองทัพไทย จากวันที่ ๒๕ มกราคมของทุกปี เป็นวันที่ ๑๘ มกราคมของทุกปี นอกจากเสด็จมาเพื่อบวงสรวงสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ในวันดังกล่าวแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงปลูกต้นสักบริเวณหน้าศาลากลางหลังเก่าของจังหวัดกำแพงเพชร ในวันเดียวกัน ซึ่งปัจจุบัน ต้นสักดังกล่าวยังคงแผ่กิ่งก้านสาขาสร้างร่มเงาให้แก่ชาวจังหวัดกำแพงเพชรทุกคน อันเปรียบเสมือนอนุสรณ์แห่งพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ที่มีต่อจังหวัดกำแพงเพชรอย่างหาที่เปรียบมิได้     ตราบเท่าทุกวันนี้ ในการเสด็จครั้งที่ ๒ เมื่อวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๑๕ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนิน พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีมาบำเพ็ญพระราชกุศล ถวายผ้าพระกฐินส่วนพระองค์ ณ วัดคูยาง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งในขณะนั้น พระครูวิมลวชิรคุณ (ทอน) เป็นเจ้าอาวาส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงถวายพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ เพื่อเป็นทุนเริ่มต้นในการก่อสร้างอุโบสถ ซึ่งกรมศาสนา กระทรวงศึกษาธิการ ได้ร่วมถวายเงินโดยเสด็จ    พระราชกุศล เป็นเงินหกหมื่นบาท ต่อมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระปรมาภิไธยย่อ ภ.ป.ร. มาประดิษฐานที่หน้าบันพระอุโบสถด้านหน้า และพระนามาภิไธยย่อ ส.ก. มาประดิษฐานที่หน้าบันอุโบสถด้านหลัง เมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๒๓ และพระองค์ทรงพระราชทานนาม พระพุทธรูปประธานซึ่งหล่อแบบศิลปะสุโขทัย หมวดกำแพงเพชร ขนาดหน้าตักกว้าง ๖ ศอก ๙ นิ้ว ว่า พระพุทธวชิรปราการ เมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๒๗ การเสด็จพระราชดำเนินจังหวัดกำแพงเพชรครั้งที่ ๒ นี้ มีราษฎรมาเข้าเฝ้ารับเสด็จเป็นจำนวนมากพระองค์ได้ทรงเยี่ยมเยียนราษฎรอย่างใกล้ชิด นำความสุขมาสู่ประชาชนอย่างถ้วนหน้า ทั้งสามพระองค์ทรงเกษมสำราญพระราชหฤทัย และเสด็จนิวัติพระนครในวันเดียวกัน และในการเสด็จครั้งที่ ๓ เมื่อวันที่ ๒๙ มกราคม พ.ศ.๒๕๒๑ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมาพระราชทานธงประจำรุ่นแก่ลูกเสือชาวบ้านของอำเภอต่างๆ ในจังหวัดกำแพงเพชร จำนวน ๑๑๗ รุ่น ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดกำแพงเพชร หลังจากพระราชทานธงประจำรุ่นลูกเสือชาวบ้านแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานพระบรมราโชวาทแก่ลูกเสือชาวบ้าน และพสกนิการที่มารับเสด็จ นอกจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จพระราชดำเนินไปประกอบพระราชกรณียกิจด้วยพระองค์เอง ณ จังหวัดกำแพงเพชรทั้ง ๓ ครั้งแล้ว ยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี และพระบรมวงศานุวงศ์ชั้นสูง เสด็จไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชรอยู่บ่อยครั้ง เช่น การเสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมราษฎร และทรงประกอบพระราชกรณียกิจเนื่องในโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พื้นที่โครงการในอำเภอปางศิลาทอง สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จไปทรงประกอบพิธีตัดลูกนิมิต อุโบสถวัดสิงคาราม ตำบลสลกบาตร อำเภอขาณุวรลักษบุรี
จากการเสวนาบนเวทีและการได้ชมวิดีทัศน์ทำให้ทราบถึงความเป็นมาเป็นไปของจังหวัดกำแพงเพชรที่ได้มีพระเจ้าแผ่นดินทรงเสด็จประพาสต้นและประกอบพระราชกรณียกิจต่างๆนานับประการ ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันใหญ่หลวงหาที่สุดมิได้ของชาวจังหวัดกำแพงเพชร


นางสาวสุภารัตน์   โพธิ์รอด  ๕๕๑๑๒๑๕๑๒
โปรแกรมวิชาภาษาไทย  คณะครุศาสตร์
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.11 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!