จดหมายเหตุวัฒนธรรมกำแพงเพชร โดย อาจารย์สันติ อภัยราช
กันยายน 15, 2025, 10:43:56 am *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: จดหมายเหตุวัฒนธรรมกำแพงเพชร โดย อาจารย์สันติ อภัยราช
ยินดีต้อนรับสมาชิก และผู้เยื่ยมชมทุกๆท่าน
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 10
 21 
 เมื่อ: มิถุนายน 30, 2025, 03:57:42 pm 
เริ่มโดย apairach - กระทู้ล่าสุด โดย apairach
“ขุนเจน”บรรพบุรุษผู้สลักรากวัฒนธรรมของอำเภอลานกระบือ
ศิวกร แสงแก้ว
ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอลานกระบือ

เคยสงสัยไหมว่าชื่อ "ลานกระบือ" มาจากไหน? ครั้งแรกที่ได้ยินชื่ออำเภอนี้ของจังหวัดกำแพงเพชร นึกภาพฝูงควายนับร้อยยืนเรียงรายบนลานกว้าง เป็นภาพที่ชวนให้จินตนาการถึงอดีตอันไกลโพ้น และเมื่อได้มีโอกาสเดินทางไปสัมผัสดินแดนแห่งนี้ด้วยตัวเอง กลับพบว่าความเป็นมาของลานกระบือลึกซึ้งและน่าสนใจยิ่งกว่าที่คิด โดยเฉพาะเมื่อได้รู้จักกับ "ขุนเจน" วีรบุรุษผู้สร้างรากฐานให้กับผืนแผ่นดินแห่งนี้
จากป่าดงดิบสู่ชุมชนเข้มแข็ง
ย้อนกลับไปในยุคต้นรัตนโกสินทร์ พื้นที่ที่เรารู้จักในนาม "ลานกระบือ" ในปัจจุบันเคยเป็นเพียงป่าดงดิบอุดมสมบูรณ์ มีทรัพยากรธรรมชาติที่น่าทึ่งคือ "ดินโป่ง" แหล่งแร่ธาตุสำคัญที่ดึงดูดสัตว์ป่านานาชนิด โดยเฉพาะฝูงควายป่าที่มักมารวมตัวกันที่นี่จนเกิดเป็นที่มาของชื่อ "ลานควาย"
ทุกครั้งที่เดินทางผ่านถนนสายหลักของอำเภอลานกระบือ อดไม่ได้ที่จะจินตนาการภาพในอดีตเมื่อครั้งที่ผืนดินแห่งนี้ยังเป็นทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ ที่มีเพียงเสียงฝูงควายป่าร้องขานสลับกับเสียงลมพัดผ่านทุ่งหญ้า ก่อนที่ผู้คนจากภาคอีสานและพื้นที่ใกล้เคียงจะทยอยอพยพเข้ามาตั้งรกรากในสมัยรัชกาลที่ 4
 
ภาพที่ 1 จำลองอำเภอลานกระบือในอดีต
ขุนเจน ผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลง
ท่ามกลางการอพยพและการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ มีชายผู้หนึ่งที่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำคนสำคัญ นั่นคือ "ขุนเจน" หรือ "กำนันเจน" บุรุษผู้ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกำนันคนแรกของตำบลลานกระบือ
จากการพูดคุยกับผู้เฒ่าผู้แก่ในพื้นที่ ได้รับรู้ว่าขุนเจนเป็นชาวลานกระบือรุ่นบุกเบิก ที่มีรากเหง้าจากตระกูลใหญ่ที่อพยพมาจากภาคกลางในสมัยรัชกาลที่ 5 ปัจจุบันวงศ์ตระกูล "เจนจบ" คือลูกหลานของท่าน การที่ท่านได้รับตำแหน่งกำนันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่สะท้อนถึงความไว้วางใจจากทั้งทางการและชาวบ้าน
เมื่อได้ยืนอยู่หน้าอนุสาวรีย์ขุนเจนที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2563 รู้สึกถึงพลังและคุณูปการอันยิ่งใหญ่ที่ท่านมอบให้แก่ชุมชนแห่งนี้ แม้เวลาจะผ่านไปกว่าร้อยปี แต่คำสอนและแนวทางการปกครองของท่านยังคงมีอิทธิพลต่อลานกระบือจนถึงทุกวันนี้
 
ภาพที่ 2 จำลองขุนเจนกับอำเภอลานกระบือ
คุณูปการอันเป็นอมตะ
การจัดการน้ำอย่างชาญฉลาด
หากได้เดินทางไปตามทุ่งนาในลานกระบือ อาจจะสังเกตเห็นระบบเหมืองฝายขนาดเล็กที่กระจายอยู่ทั่วพื้นที่ นี่คือมรดกอันล้ำค่าที่ขุนเจนได้ริเริ่มไว้ ด้วยความรู้เกี่ยวกับภูมิประเทศและการจัดการทรัพยากร ท่านได้สร้างระบบที่ช่วยให้เกษตรกรสามารถจัดสรรน้ำอย่างเท่าเทียมและยั่งยืน
รู้สึกทึ่งกับหลักการ "แบ่งปันเท่าเทียม" ที่ขุนเจนนำมาใช้ เพราะแม้ในยุคที่เทคโนโลยียังไม่ก้าวหน้าเท่าปัจจุบัน แต่ระบบนี้ก็สามารถจัดการทรัพยากรน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ต่างจากหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่เราพูดถึงกันในปัจจุบัน
ศูนย์รวมจิตใจของชุมชน
หนึ่งในสถานที่สำคัญที่แนะนำให้ไปเยี่ยมชมเมื่อมาถึงลานกระบือคือ วัดแก้วสุริย์ฉาย วัดแห่งนี้มีความพิเศษเพราะเกิดจากการบริจาคที่ดินส่วนตัวของขุนเจน ท่านเล็งเห็นความสำคัญของการมีศูนย์กลางทางจิตวิญญาณให้กับชุมชน
เมื่อได้เข้าไปสัมผัสบรรยากาศภายในวัด รู้สึกถึงความสงบและพลังแห่งศรัทธาที่สืบทอดมาหลายชั่วอายุคน ชาวบ้านเล่าให้ฟังว่า ขุนเจนไม่เพียงสร้างวัด แต่ยังส่งเสริมงานบุญประเพณีต่างๆ เช่น พิธีกรรม "ธรรมะสู่ไร่นา" ที่ใช้หลักธรรมะในการแก้ไขปัญหาขัดแย้งเรื่องที่ดินทำกิน
ประเพณีแห่พระด้วยเกวียน มรดกทางวัฒนธรรมที่ยังมีชีวิต
หากโชคดีที่ได้มีโอกาสมาลานกระบือในช่วงสงกรานต์ ทำให้ได้เห็นประเพณี "แห่พระด้วยเกวียน" ที่ขุนเจนริเริ่มไว้ ภาพที่เห็นคือล้อเกวียนที่ถูกประดับตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจง กลายเป็นพุทธบูชาที่งดงามจนแทบลืมหายใจ
ชาวบ้านเล่าด้วยรอยยิ้มว่า ประเพณีนี้ได้พัฒนามาเป็นการแข่งขันศิลปะประดิษฐ์ระหว่างหมู่บ้าน ซึ่งนอกจากส่งเสริมความสามัคคีแล้ว ยังเป็นช่องทางถ่ายทอดภูมิปัญญาการจักสานพื้นบ้านสู่คนรุ่นใหม่ ทำให้อดประทับใจไม่ได้กับวิสัยทัศน์ของขุนเจนที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของการรักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม
มรดกที่ยังมีชีวิต
เมื่อเดินทางรอบอำเภอลานกระบือ รู้สึกเหมือนได้สัมผัสกับจิตวิญญาณของขุนเจนที่ยังคงมีชีวิตอยู่ในทุกถนน ทุกวัด และในวิถีชีวิตของชาวบ้าน คำสอนของท่านเรื่อง "การปกครองดีต้องเริ่มที่การฝึกตน" และการส่งเสริมให้ประชาชนดำเนินชีวิตตามหลักศีล 5 ได้กลายเป็นแนวคิดพื้นฐานของคำขวัญอำเภอลานกระบือว่า "เมืองแห่งคุณธรรม"
อนุสาวรีย์ขุนเจนที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2563 ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการรำลึกถึงคุณูปการของท่าน การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นรอบอนุสาวรีย์ยังช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่นอีกด้วย
 
ภาพที่ 3 อนุสาวรีย์ขุนเจนในปัจจุบัน
หมายเหตุ ภาพถ่ายโดย ศิวกร แสงแก้ว บันทึกภาพเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568

บทส่งท้าย จากอดีตสู่ปัจจุบัน
จากป่าดงดิบที่เต็มไปด้วยควายป่าสู่ชุมชนเข้มแข็งที่มีวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ลานกระบือได้พัฒนามาอย่างต่อเนื่องบนรากฐานที่ขุนเจนและบรรพบุรุษได้วางไว้ ในปี พ.ศ. 2504 ชื่อ "ลานควาย" ได้เปลี่ยนเป็น "ลานกระบือ" เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานในทางราชการ และพื้นที่ได้รับการยกฐานะเป็นกิ่งอำเภอในปี พ.ศ. 2520 ก่อนจะกลายเป็นอำเภอเต็มรูปแบบในปี พ.ศ. 2527
ทุกครั้งที่เดินทางกลับมาเยือนลานกระบือ อดไม่ได้ที่จะรู้สึกประทับใจกับการผสมผสานระหว่างความเชื่อดั้งเดิมและวิทยาการใหม่ที่ชาวลานกระบือนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน วิสัยทัศน์ของขุนเจนที่มองการณ์ไกลได้กลายเป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้ชุมชนแห่งนี้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
หากมีโอกาสได้มาเยือนลานกระบือ ขอแนะนำให้แวะชมอนุสาวรีย์ขุนเจน สัมผัสบรรยากาศของวัดแก้วสุริย์ฉาย และพูดคุยกับชาวบ้านถึงเรื่องราวของกำนันคนแรกแห่งลานกระบือ จะได้เรียนรู้ว่าแม้เวลาจะผ่านไปนานเพียงใด แต่คุณค่าของการอุทิศตนเพื่อส่วนรวม การรักษาวัฒนธรรม และการพัฒนาอย่างยั่งยืนจะยังคงส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นไม่มีวันสิ้นสุด เฉกเช่นมรดกอันล้ำค่าที่ขุนเจนได้มอบไว้ให้กับชาวลานกระบือ


อ้างอิง
VSPORT NEWS ONLINE. (27 ธันวาคม 2563). กำแพงเพชร-เทศบาลตำบลลานกระบือ จัดการแข่งขันรันกระบือ fun run ครั้งที่ 2 ระยะทาง 5 กิโลเมตร รำลึกขุนเจน อดีตกำนันคนแรกของอำเภอลานกระบือ. เข้าถึงได้จาก วีสปอร์ต กำแพงเพชร ข่าวกีฬาท้องถิ่นเพื่อคนกำแพง: https://www.vsportkamphaeng.com/post/8295
สันติ อภัยราช. (22 เมษายน 2552). วัฒนธรรม พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ เอกลักษณ์ และภูมิปัญญา กำแพงเพชร. เข้าถึงได้จาก โทรทัศน์วัฒนธรรม: http://sunti-apairach.com/book/book1pdf/booksec1_091.pdf
อภิมุข Channel. (2564, 31 พฤษภาคม). "(ขุนเจน)บรรพบุรุษลานกระบือ" ขออะไรได้ง่ายๆ [วิดีโอ]. YouTube, https://www.youtube.com/watch?v=YeCzOyR3Pvc&t=1s.
อภิมุข โรจน์นวกร. (6 มกราคม 2564). อนุเสารีย์ขุนเจนอดีตกำนันคนแรก. เข้าถึงได้จาก เทศบาลตำบลลานกระบือ: https://www.lankrabue.go.th/news_detail?hd=1&doIP1&checkIP=chkIP&id=48885&checkAdd=chkAd&dum=43169_ypk


กิจกรรมท้ายบทความ
“ขุนเจน”บรรพบุรุษผู้สลักรากวัฒนธรรมของอำเภอลานกระบือ
   อ่านเรื่อง “ขุนเจน”บรรพบุรุษผู้สลักรากวัฒนธรรมของอำเภอลานกระบือ เพื่อต่อยอดการเรียนรู้ ลองมาเรียนรู้ร่วมกันโดยลองตอบคำถาม 5 ข้อ ด้านล่างนี้ คำตอบไม่มีถูกไม่มีผิด สามารถตอบคำถามจากสิ่งที่คิดและรู้สึกได้เลย
1. สิ่งที่ประทับใจเกี่ยวกับขุนเจนมากที่สุดคือ ..........................................................................................
...
เพราะอะไรจึงประทับใจ...
...
...
...
2. ถ้าน้องได้มีโอกาสย้อนเวลากลับไปพบขุนเจน น้องอยากถามอะไรกับท่านมากที่สุด
...
คิดว่าคำตอบที่จะได้รับจะเป็นประโยชน์กับน้องอย่างไร
...
...
3. หลักการ "แบ่งปันเท่าเทียม" ของขุนเจน น้องคิดว่าสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไรบ้าง
...
...
...

4. น้องคิดว่าการที่จะเป็นผู้นำที่ดีเหมือนขุนเจนได้ ต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง
...
...
...
5. ลองเขียนข้อความสั้นๆ ถึงขุนเจน เพื่อขอบคุณท่านที่ได้สร้างรากฐานให้ชุมชนลานกระบือ
...
...
...



 22 
 เมื่อ: มิถุนายน 25, 2025, 10:44:09 am 
เริ่มโดย apairach - กระทู้ล่าสุด โดย apairach
=== กิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการสร้างนักเล่าเรื่อง เพื่อถ่ายทอดเทคนิควิธีการนำเสนอข้อมูลของชุมชน เพื่อพัฒนาศักยภาพ นักเล่าเรื่องและการจัดทำสื่อวีดิทัศน์ เพื่อประชาสัมพันธ์ชุมชนคุณธรรมหนองปลิง (บ้านคลองบางทวน) ===

วันอังคารที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๖๘
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกำแพงเพชร โดย นายอภินันท์ มุสิกะพงษ์ วัฒนธรรมจังหวัดกำแพงเพชร มอบหมายให้ นางสาวระวีวรรณ โตวารี ผู้อำนวยการกลุ่มกิจการพิเศษ และข้าราชการสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด ดำเนินการจัดกิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการสร้างนักเล่าเรื่อง เพื่อถ่ายทอดเทคนิควิธีการนำเสนอข้อมูลของชุมชน เพื่อพัฒนาศักยภาพ นักเล่าเรื่องและการจัดทำสื่อวีดิทัศน์ เพื่อประชาสัมพันธ์ชุมชนคุณธรรมหนองปลิง (บ้านคลองบางทวน) โดยมีนางกิตติวรา วิริยา ปลัดเทศบาลเมืองหนองปลิง เป็นประธานเปิดการอบรม นางสาวสุชาดา อารีทม รองปลัดเทศบาลเมืองหนองปลิง นายทศพล พึ่งสูงเนิน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ ๓ บ้านคลองบางทวน ครู เด็ก เยาวชน และชาวบ้านในพื้นที่ เข้าร่วมกิจกรรม ณ ห้องประชุมสภาเทศบาลเมืองหนองปลิง ตำบลหนองปลิง อำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร
ด้วยสํานักงานปลัดกระกระทรวงวัฒนธรรม กําหนดดําเนินโครงการการพัฒนาศักยภาพนักเล่าเรื่อง “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ เพื่อพัฒนาศักยภาพและสนับสนุนเด็กและเยาวชนในจังหวัด ให้เป็นนักเล่าเรื่องที่มีความรู้ มีทักษะในการจัดทำคลิปที่มีเนื้อหา (Content) เกี่ยวกับคุณค่า อัตลักษณ์ ตํานาน เรื่องเล่า และแหล่งท่องเที่ยวของชุมชน และสามารถถ่ายทอดให้กับนักท่องเที่ยว ผู้มาเยือน และ ผู้สนใจทั่วไปได้ พร้อมเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลงานผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ กระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวชุมชน เชิงวัฒนธรรมสร้างสรรค์ สร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่คนในชุมชน
ทั้งนี้ จังหวัดกำแพงเพชร ได้คัดเลือกชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” จังหวัดกำแพงเพชร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ เพื่อพิจารณาคัดเลือกชุมชนที่มีศักยภาพและความพร้อมด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมสร้างสรรค์ในทุกมิติ โดยมีมติเห็นชอบให้ “ชุมชนคุณธรรมหนองปลิง (บ้านคลองบางทวน)” เป็นชุมชนที่ผ่านการคัดเลือกของจังหวัดกำแพงเพชร เพื่อเสนอชื่อเข้ารับการคัดเลือกเป็น ๑๐ สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ และสํานักงานปลัดกระกระทรวงวัฒนธรรม ได้กำหนดแนวทางการดำเนินโครงการพัฒนาศักยภาพนักเล่าเรื่อง “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ โดยกิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการสร้างนักเล่าเรื่อง เพื่อถ่ายทอดเทคนิควิธีการนำเสนอข้อมูลของชุมชน และพัฒนาศักยภาพนักเล่าเรื่องให้มีความรู้ มีทักษะในการจัดทำคลิปที่มีเนื้อหา (Content) เกี่ยวกับคุณค่า อัตลักษณ์ ตำนาน เรื่องเล่า และแหล่งท่องเที่ยวของชุมชน และสามารถถ่ายทอดให้กับนักท่องเที่ยว ผู้มาเยือน และผู้สนใจทั่วไป ซึ่งกิจกรรมในวันนี้ ประกอบด้วย การบรรยายเกี่ยวกับทักษะและเทคนิคการเป็นนักเล่าเรื่องที่ดี โดยนายสันติ อภัยราช อุปนายกฝ่ายวิชาการ สโมสรฝึกการพูดกำแพงเพชร การบรรยายองค์ความรู้เกี่ยวกับโบราณสถานและแหล่งโบราณคดี มรดกทรัพย์สินทางวัฒนธรรมของชาวตำบลหนองปลิง โดยนายบัณฑิต ทองอร่าม หัวหน้าอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร และการบรรยายกระบวนการส่งเสริมการเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อเพิ่มศักยภาพการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์โดยชุมชน โดยนางสาวเบญจวรรณ จันทราช หัวหน้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกำแพงเพชร

#สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกำแพงเพชร
#สาสน์ศิลป์วัฒนธรรมกำแพงเพชร

 23 
 เมื่อ: มิถุนายน 14, 2025, 12:30:33 pm 
เริ่มโดย apairach - กระทู้ล่าสุด โดย apairach
13/06/68 กิจกรรม Focus group เพื่อถอดข้อมูลเกี่ยวกับตำนาน เรื่องเล่า ชื่อบ้านนามเมือง ภูมิปัญญา อัตลักษณ์ และแหล่งท่องเที่ยวของชุมชนคุณธรรมหนองปลิง (บ้านคลองบางทวน) ===

วันศุกร์ที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๕๖๘  เวลา ๐๙.๓๐ น. นายอภินันท์ มุสิกะพงษ์ วัฒนธรรมจังหวัดกำแพงเพชร เป็นประธานเปิดกิจกรรม Focus group เพื่อถอดข้อมูลเกี่ยวกับตำนาน เรื่องเล่า ชื่อบ้านนามเมือง ภูมิปัญญา อัตลักษณ์ และแหล่งท่องเที่ยวของชุมชนคุณธรรมหนองปลิง (บ้านคลองบางทวน) ด้วยสํานักงานปลัดกระกระทรวงวัฒนธรรม กําหนดดําเนินโครงการการพัฒนาศักยภาพนักเล่าเรื่อง “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ เพื่อพัฒนาศักยภาพและสนับสนุนเด็กและเยาวชนในจังหวัด ให้เป็นนักเล่าเรื่องที่มีความรู้ มีทักษะในการจัดทำคลิปที่มีเนื้อหา (Content) เกี่ยวกับคุณค่า อัตลักษณ์ ตํานาน เรื่องเล่า และแหล่งท่องเที่ยวของชุมชน และสามารถถ่ายทอดให้กับนักท่องเที่ยว ผู้มาเยือน และ ผู้สนใจทั่วไปได้ พร้อมเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลงานผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ กระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวชุมชน เชิงวัฒนธรรมสร้างสรรค์ สร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่คนในชุมชน
ทั้งนี้ จังหวัดกำแพงเพชร ได้คัดเลือกชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” จังหวัดกำแพงเพชร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ เพื่อพิจารณาคัดเลือกชุมชนที่มีศักยภาพและความพร้อมด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมสร้างสรรค์ในทุกมิติ โดยมีมติเห็นชอบให้ “ชุมชนคุณธรรมหนองปลิง (บ้านคลองบางทวน)” เป็นชุมชนที่ผ่านการคัดเลือกของจังหวัดกำแพงเพชร เพื่อเสนอชื่อเข้ารับการคัดเลือกเป็น ๑๐ สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ และสํานักงานปลัดกระกระทรวงวัฒนธรรม ได้กำหนดแนวทางการดำเนินโครงการพัฒนาศักยภาพนักเล่าเรื่อง “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ โดยในขั้นต้น คือ กิจกรรม Focus group เพื่อถอดข้อมูลเกี่ยวกับตำนาน เรื่องเล่า ชื่อบ้านนามเมือง ภูมิปัญญา อัตลักษณ์ และแหล่งท่องเที่ยวของชุมชน ที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ระดับจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ เพื่อรวบรวม เรียบเรียงเป็นข้อมูลให้กับนักเล่าเรื่องชุมชนได้นำไปใช้ในการนำเสนอต่อนักท่องเที่ยว โดยกลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย นายไพรัช ตัณนิติศุภวงศ์ นายกเทศมนตรีเมืองหนองปลิง นายบัณฑิต ทองอร่าม หัวหน้าอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร ผู้แทนหัวหน้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกำแพงเพชร นายสันติ อภัยราช นายรุ่งเรือง สอนชู ผู้ทรงคุณวุฒิด้านวัฒนธรรม ผู้นำชุมชน ปราชญ์ชาวบ้าน ศิลปินพื้นบ้าน จากนั้น ต่อด้วยกิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการสร้างนักเล่าเรื่อง เพื่อถ่ายทอดเทคนิควิธีการนำเสนอข้อมูลของชุมชน และพัฒนาศักยภาพนักเล่าเรื่องให้มีความรู้ มีทักษะในการจัดทำคลิปที่มีเนื้อหา (Content) เกี่ยวกับคุณค่า อัตลักษณ์ ตำนาน เรื่องเล่า และแหล่งท่องเที่ยวของชุมชน และสามารถถ่ายทอดให้กับนักท่องเที่ยว ผู้มาเยือน และผู้สนใจทั่วไป และจัดทำสื่อวีดิทัศน์นักเล่าเรื่อง “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” เพื่อประชาสัมพันธ์ชุมชนคุณธรรมหนองปลิง (บ้านคลองบางทวน) ชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” จังหวัดกำแพงเพชร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ และเผยแพร่ผ่านช่องทางแพลตฟอร์มออนไลน์ อาทิ Facebook, YouTube, TikTok เป็นต้น
ในการนี้ นางสาวระวีวรรณ โตวารี ผู้อำนวยการกลุ่มกิจการพิเศษ พร้อมด้วย ข้าราชการสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด ดำเนินการจัดกิจกรรมฯ ณ ที่ทำการชุมชนคุณธรรมหนองปลิง (บ้านคลองบางทวน) หมู่ที่ ๓ ตำบลหนองปลิง อำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร

 24 
 เมื่อ: มิถุนายน 14, 2025, 09:45:14 am 
เริ่มโดย apairach - กระทู้ล่าสุด โดย apairach
คำนิยม

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. อังสุรีย์  พันธ์แก้ว คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร
ได้รู้จักผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. อังสุรีย์  พันธ์แก้วมากกว่า 20 ปี ตั้งแต่ท่านเริ่มมาเป็นอาจารย์สังกัดคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 ได้ยินชื่อเสียงว่า เป็นอาจารย์ที่ตั้งใจสอน ทุ่มเทกับการเรียนการสอน และกิจกรรมพัฒนานักศึกษา โดยเฉพาะในด้านศิลปวัฒนธรรม ท่านเป็นผู้ที่เสียสละประโยชน์สุขส่วนตัวเพื่อความสุขของนักศึกษาและผู้ร่วมงาน ผู้ปกครอง และผู้บริหารเสมอมาโดยไม่คำนึงถึงความยากลำบากหรือเงินทองที่เสียไป
เริ่มมาสนิทสนมกับผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. อังสุรีย์  พันธ์แก้วมากขึ้น เมื่อได้มีโอกาสทำงานร่วมกัน ในด้านการพัฒนาศิลธรรม คุณธรรม และจริธรรมให้กับนักศึกษา การปลุกจิตสำนึกให้นักศึกษาได้ตระหนักในเรื่องการอนุรักษ์ ส่งเสริม รักและหวงแหนศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น รวมถึงกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งในและนอกมหาวิทยาลัย จึงได้เห็นว่าท่านเป็นอาจารย์ที่ดีมาก มีความรู้ความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ มีความรับผิดชอบ ไม่เคยทิ้งนักศึกษา อุทิศตนให้กับงานสอน มีศิลธรรม คุณธรรม จริยธรรมและการครองตนถือเป็นแบบอย่างที่ดีแก่บุคคลอื่น ตั้งใจสอน ดูแลเอาใจใส่นักศึกษาทุกคนเหมือนลูกทั้งในและนอกเวลาราชการ ซึ่งสังเกตได้จากนอกเวลาสอนปกติ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. อังสุรีย์  พันธ์แก้ว ยังได้เป็นผู้ก่อตั้งคณะลิเกนักศึกษาครู เพชรกรุ ครุศิลป์ ซึ่งชื่นชมท่านเป็นอย่างมากในด้านเสียสละและทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจในการดูแลฝึกซ้อมการแสดงลิเกให้กับนักศึกษา ทั้ง ๆ ที่ตัวของท่านเองไม่เคยมีเชื้อสายลิเกมาก่อน  ท่านต้องเสียสละทั้งเวลา เสียสละทรัพย์ซึ่งทราบมาว่าไม่ต่ำกว่า 500,000 บาท เพื่อนำมาใช้จ่ายทั้งเรื่องการกินอยู่ในทุก ๆ วันที่ซ้อม ทั้งเรื่องชุดและอุปกรณ์การแสดงลิเกทั้งหมดท่านเป็นผู้ดูแล เพียงแค่หวังว่าให้นักศึกษาได้เรียนรู้และมีความสุขที่อยู่ในครอบครัวเพชรกรุ ครุศิลป์ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่ใคร ๆ จะทำได้เหมือนอย่างท่าน แต่ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. อังสุรีย์  พันธ์แก้ว ทำได้สำเร็จสมบูรณ์ทุกครั้งและทุกรุ่น อย่างดีที่สุดเท่าที่สัมผัสมา ผลสำเร็จเชิงประจัก จนได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑ ระดับประเทศ กับการแข่งขันลิเกชาดกชิงถ้วยพระราชทานพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารีโดยกระทรวงวัฒนธรรมแห่งประเทศไทย 
ปัจจุบันมีนักศึกษาที่จบไปแล้วหลายรุ่น แต่ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. อังสุรีย์  พันธ์แก้ว ยังทำหน้าที่ครูต่อเนื่องอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ติดตาม ส่งเสริม สนับสนุนดูแลลูกศิษย์อย่างสม่ำเสมอทุกรุ่ย ทุกวัย แม้ไปทำงานแล้ว ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. อังสุรีย์  พันธ์แก้ว ยังติดตาม ดูแล ช่วยเหลือให้กำลังใจมิได้ขาด ทั้งหมดที่ท่านทำแสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณของครูผู้รักศิษย์ ดูแลเอาใจใส่ ให้กำลังใจ เด็ก ๆ จนเด็ก ๆ ทุกคน เรียกว่า “แม่” และถือเป็นแบบอย่างในการดำรงชีวิตหลายๆ เรื่องของเด็ก ๆ
นอกจากนี้ ท่านยังเป็นผู้ที่มีความคิดริเริ่ม และสร้างสรรค์ในการพัฒนาศีลธรรม คุณธรรม และจริยธรรมของนักศึกษา โดยจัดตั้งชมรม “ค.ฅน อาสา” ขึ้น เพื่อนำนักศึกษาร่วมมือกับองค์กร หน่วยงานต่าง ๆ ในการทำกิจกรรมจิตอาสาตามนโยบายของชมรม เพื่อส่งเสริม สนับสนุน และกระตุ้นให้นักศึกษาได้มีส่วนร่วมในการพัฒนา ศีลธรรม คุณธรรม และจริยธรรมอย่างกว้างขวาง  เช่น ร่วมกับชาวบ้าน ใน การทำความสะอาดในวัด ร่วมทำบุญร่วมช่วยเหลือทางวัดในเทศกาลต่าง ๆ ช่วยเหลือบริจาคสิ่งของให้กับผู้ยากไร้ หรือประสบภัยจากน้ำท่วม โรคระบาดต่าง ๆ และผลงานที่ชัดเจนที่สุด คือ ท่านพานักศึกษาเพื่อนำเอาความรู้เกี่ยวกับลิเกไปใช้แก้ปัญหาเด็กที่มีความบกพร่องทางสติปัญญาได้สำเร็จ เด็กมีพัฒนาการที่ดีขึ้น เป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นว่าผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. อังสุรีย์  พันธ์แก้วและนักศึกษาเป็นผู้ที่มีศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรม  และสามารถนำความรู้ที่มีไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาหรือแก้ปัญหาให้คนอื่นได้จนสำเร็จ
จากผลงานดังกล่าวของผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. อังสุรีย์  พันธ์แก้ว ถือว่าเป็นผลงานที่ชัดเจนเกี่ยวกับการพัฒนาศีลธรรม คุณธรรม และจริยธรรมของนักศึกษา ทั้งด้านนโยบายและนำนโยบายไปปฏิบัติให้สัมฤทธิ์ผลที่แท้จริง จึงเป็นยอมรับจากเพื่อนร่วมงาน และสังคมทั่วไปในด้านศีลธรรม คุณธรรม และจริยธรรม 

                  นายสันติ  อภัยราช
                                                  .......................................................................
                                                 .............................................................................               


 25 
 เมื่อ: มิถุนายน 12, 2025, 04:31:13 pm 
เริ่มโดย apairach - กระทู้ล่าสุด โดย apairach
ฮืมฮืม?? จังหวัดกำแพงเพชร จัดประชุมคัดเลือกผู้ทำคุณประโยชน์ต่อกระทรวงวัฒนธรรมระดับจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568

         วันนี้(12 มิถุนายน 68) เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุม สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกำแพงเพชร ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดกำแพงเพชร นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร มอบหมายให้ นายอนุชา พัสถาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกผู้ทำคุณประโยชน์ต่อกระทรวงวัฒนธรรม ระดับจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 โดยมี นายอภินันท์ มุสิกะพงษ์ วัฒนธรรมจังหวัดฯ , นางเยาวลักษณ์ เครือคำขาว ประชาสัมพันธ์จังหวัดฯ , นางสาวภาวิณี ไม้สุวงศ์ ผู้แทน ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดฯ ,นายสันติ อภัยราช ผู้ทรงคุณวุฒิด้านศิลปะและวัฒนธรรม , นายศักดิ์ชัย สัมทับ ประธานเครือข่ายรักบริสุทธิ์ ,นายสาธิต ตันติสันติสม ผู้แทนประธานหอการค้าจังหวัดฯ ,นางชนิกา ศรีวรรธนศิลป์ ผู้แทนประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดฯ เจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้องร่วมประชุม

         การประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อคัดเลือกผู้ทำคุณประโยชน์ต่อกระทรวงวัฒนธรรม จังหวัดกำแพงเพชร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 เพื่อเสนอรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือก ระดับจังหวัด ส่งไปยังกองตรวจราชการ กระทรวงวัฒนธรรม ภายในวันที่ 13 มิถุนายน 2568 ซึ่งเป็นการดำเนินการคัดเลือกบุคคล/คณะบุคคล หรือองค์กร ที่มีคุณประโยชน์ต่อกระทรวงวัฒนธรรม ในการส่งเสริม สนับสนุน และธำรงไว้ซึ่งมรดกทางวัฒนธรรม โดยมีเป้าหมายเพื่อเชิดชูเกียรติที่ทำคุณประโยชน์ต่อกระทรวงวัฒนธรรมฯ ซึ่งผู้ที่ได้รับการคัดเลือกฯ ระดับจังหวัด จะได้รับการเสนอชื่อเข้ารับการคัดเลือกระดับประเทศ เพื่อรับโล่เชิดชูเกียรติ "วัฒนคุณากร" หรือบุคคล/องค์กร "วัฒนธรรมดีเด่น" จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมในวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงวัฒนธรรม (3 ตุลาคม 2568) หรือวันที่กระทรวงวัฒนธรรมกำหนด โดยพิจารณาจากผลงานดีเด่นที่แสดงถึงการมีส่วนร่วมสนับสนุน สืบสาน และพัฒนาผลงานศิลปะและวัฒนธรรม รวมถึงผลงานที่เกิดประโยชน์ต่อกระทรวงวัฒนธรรม และต้องเป็นไปตามคุณสมบัติ/หลักเกณฑ์ที่กำหนด ได้แก่ ผู้ทำคุณประโยชน์อาจเป็นบุคคลธรรมดา นิติบุคคล หรือคณะบุคคล ที่มีผลงานโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์ และมีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องขตตยจต

 26 
 เมื่อ: มิถุนายน 01, 2025, 10:25:33 am 
เริ่มโดย apairach - กระทู้ล่าสุด โดย apairach
ที่ประชุมมส.ครั้งที่ 14/2568 รับทราบ ทรงมีพระราชดำริโปรดแต่งตั้งเจ้าคณะจังหวัด และเจ้าอาวาสพระอารามหลวง รวม 12 รูป  

เมื่อวันที่ 30 พ.ค. ที่ตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหาร มีการประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) ครั้งที่ 14/2568 โดยภายหลังการประชุม รศ.ดร.ชัชพล ไชยพร ผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาการพระพุทธศาสนา รักษาราชการแทน ผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม แถลงผลการประชุมมส. ว่า มส.รับทราบตามที่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงมีพระลิขิต ขอพระราชทานถวายพระพร ขอพระราชทานพระราชดำริ เรื่อง การแต่งตั้งพระสังฆาธิการเป็นเจ้าคณะจังหวัด จำนวน 6 รูป เจ้าอาวาสพระอารามหลวง จำนวน 6 รูป ราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาทรงทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทแล้ว ทรงมีพระราชดำริโปรดแต่งตั้งเจ้าคณะจังหวัด และเจ้าอาวาสพระอารามหลวง รายนามดังต่อไปนี้

1.พระเทพวัชรจริยาจารย์ เจ้าอาวาสวัดกษัตราธิราช รองเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผู้รักษาการแทนเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ดำรงตำแหน่ง เจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

2.พระสุธีวชิรธรรม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดศรีจันทร์ รองเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น (ธรรมยุต) ผู้รักษาการแทนเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น (ธรรมยุต) ดำรงตำแหน่ง เจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น (ธรรมยุต)

3.พระครูวชิรปัญญากร เจ้าอาวาสวัดบ่อสามแสน รองเจ้าคณะจังหวัดกำแพงเพชร ผู้รักษาการแทนเจ้าคณะจังหวัดกำแพงเพชร ดำรงตำแหน่ง เจ้าคณะจังหวัดกำแพงเพชร

4.พระครูจารุธรรมพินิจ เจ้าอาวาสวัดอร่ามรัตนาราม  รองเจ้าคณะจังหวัดภูเก็ต (ธรรมยุต) ผู้รักษาการแทนเจ้าคณะจังหวัดภูเก็ต-ตรัง-กระบี่ (ธรรมยุต) ดำรงตำแหน่ง เจ้าคณะจังหวัดภูเก็ต-ตรัง-กระบี่ (ธรรมยุต)

5.พระครูสิริสีลวัตร เจ้าอาวาสวัดอำนาจ รองเจ้าคณะจังหวัดอำนาจเจริญ ผู้รักษาการแทนเจ้าคณะจังหวัดอำนาจเจริญ ดำรงตำแหน่ง เจ้าคณะจังหวัดอำนาจเจริญ

6.พระครูศรีศาสนกิจ เจ้าอาวาสวัดสุทธิกาญจนาราม เจ้าคณะอำเภอเมืองกาญจนบุรี (ธรรมยุต)  ผู้รักษาการแทนเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี (ธรรมยุต) ดำรงตำแหน่ง เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี (ธรรมยุต)

7.พระธรรมวชิรเมธาจารย์ ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดโสมนัสวิหาร กรรมการมส. ดำรงตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดโสมนัสวิหาร

8.พระธรรมวชิรนิวิฐ ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดประชานิยม จ.กาฬสินธุ์ ดำรงตำแหน่ง เจ้าอาวาสวีดประชานิยม

9.พระมงคลรัตนสุธี ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดศาลาลอย จ.นครราชสีมา ดำรงตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดศาลาลอย

10.พระปริยัติวชิรโมลี ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดพระยายัง ดำรงตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดพระยายัง

11. #พระเมธีวชิรภูษิต ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุ จ.กำแพงเพชร ดำรงตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุ

12.พระครูกิตติพัฒนานุยุต ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเจ็ดยอด จ.เชียงราย ดำรงตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดเจ็ดยอด

 27 
 เมื่อ: พฤษภาคม 21, 2025, 05:01:48 pm 
เริ่มโดย apairach - กระทู้ล่าสุด โดย apairach
ฮืมฮืมฮืมฮืม จังหวัดกำแพงเพชร จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อ (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านการอนุรักษ์และพัฒนาบริเวณเมืองเก่ากำแพงเพชร ครั้งที่ 1

         วันพุธที่ 21 พฤษภาคม 2568 เวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุมซุ้มกอ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดกำแพงเพชร นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร มอบหมายให้ นายอนุชา พัสถาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร เป็นประธานการประชุมรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อ (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านการอนุรักษ์และพัฒนาบริเวณเมืองเก่ากำแพงเพชร ครั้งที่ 1 ในโครงการส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และพัฒนาเมืองเก่าเพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการอนุรักษ์และพัฒนาบริเวณเมืองเก่ากำแพงเพชร โดยมี นายบรรเจิด ถมปัด ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกำแพงเพชร , นายสันติ อภัยราช ผู้ทรงคุณวุฒิด้านประวัติศาสตร์/โบราณคดี หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำองค์กรส่วนท้องถิ่น ผู้แทนส่วนราชการหน่วยงาน และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

          สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกำแพงเพชร ร่วมกับที่ปรึกษา (กิจการค้าบริษัทเทสโก้จำกัด และบริษัทแกรนด์เทค จำกัด) ได้จัดให้มีการประชุมรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อ (ร่าง) แผนปฏิบัติการฯ เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ชุมชน และประชาชน ในการอนุรักษ์และพัฒนาเมืองเก่ากำแพงเพชรให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่มีชีวิตชีวาและมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน โดยจะมีการนำเสนอ (๑) กำหนดการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการอนุรักษ์และพัฒนาเมืองเก่ากำแพงเพชร (๒) ขอบเขตการดำเนินงาน และ (๓) ผลการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการอนุรักษ์และพัฒนาเมืองเก่ากำแพงเพชร ที่ได้ดำเนินการไปแล้ว และเปิดเวทีระดมความคิดเห็นต่อร่างแผนปฏิบัติการฯ ซึ่งประกอบด้วย ๕ แผนงานสำคัญ ได้แก่ การอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรม, การส่งเสริมการมีส่วนร่วม, การพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและสิ่งแวดล้อม, การพัฒนาเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์, และการพัฒนาองค์กรบริหารจัดการเมืองเก่า

          กิจกรรมในครั้งนี้ จังหวัดกำแพงเพชรได้ให้ความสำคัญกับกระบวนการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้แผนปฏิบัติการฯ ที่จัดทำขึ้นเป็นแนวทางการดำเนินงานที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริงอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะส่งผลให้บริเวณเมืองเก่ากำแพงเพชร ได้รับการอนุรักษ์และพัฒนาที่เหมาะสม ดำรงคุณค่ามรดกทางวัฒนธรรม และได้รับประโยชน์ทั้งการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ และสังคม ซึ่งข้อเสนอแนะต่างๆ จะถูกนำไปพิจารณา และปรับปรุง ให้มีความสมบูรณ์และครอบคลุมมากยิ่งขึ้นต่อไป

 28 
 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2025, 01:42:19 pm 
เริ่มโดย apairach - กระทู้ล่าสุด โดย apairach
ฮืมฮืม??✨พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานต้นพระศรีมหาโพธิ์ เพื่อเชิญไปปลูกในพื้นที่ 77 จังหวัด พร้อมกันทั่วประเทศ เนื่องในวันวิสาขบูชา

ฮืมฮืม??วันที่ 11 พฤษภาคม 2568 เวลา 09.00 น. ที่มณฑลพิธีสวนป่า 80 พรรษา มหาราชินี 12 สค.2555 ศูนย์ราชการจังหวัดกำแพงเพชร ต.หนองปลิง อ.เมือง นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร เป็นประธานนำคณะผู้บริหาร พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ, เข้าร่วมพิธีปลูกต้น "พระศรีมหาโพธิทศมราชบพิตร" และรับชมวีดิทัศน์ “ธรรมะนาวาวัง ธรรมะพระราชทาน เนื่องในวันวิสาขบูชา” โดยมีนางกาญจนี รุจนเสรี ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดกำแพงเพชร/นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกำแพงเพชร, นางสาวสุพัตรา คล้ายทิม รองผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร, พร้อมด้วยข้าราชการ, ตุลาการ, ศาล, ทหาร, ตำรวจ,อัยการ, หัวหน้าส่วนราชการ ,เจ้าหน้าที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนประชาชน และสื่อมวลชนในพื้นที่เข้าร่วมพิธีในวันและเวลาดังกล่าวโดยพร้อมเพรียง

     พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานต้นพระศรีมหาโพธิ์ เพื่อเชิญไปปลูกในพื้นที่ 77 จังหวัด พร้อมกันทั่วประเทศและพระราชทานนามว่า “พระศรีมหาโพธิทศมราชบพิตร” (พระ – สี – มะ – หา – โพ – ทิ – ทด – สะ – มะ – ราด – ชะ – บอ – พิด) มีความหมายว่า “พระศรีมหาโพธิ์พระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และยังทรงพระราชทานวีดิทัศน์ “ธรรมะนาวาวัง ธรรมะพระราชทาน เนื่องในวันวิสาขบูชา” เพื่อเผยแพร่ในพิธีดังกล่าวด้วย

 29 
 เมื่อ: พฤษภาคม 08, 2025, 10:40:09 am 
เริ่มโดย apairach - กระทู้ล่าสุด โดย apairach
ท่านพิธีกรท่านสมาชิกและแขกผู ้มีเกียติทุกท่าน
เสยงนาตกทไมเคยหยดไหล…ความประทบใจทคลองลาน
หลายคนอาจได้ยินผ่านวิดีโอ หรือในแอปนอนหลับ
แตสาหรบฉน เสยงนนมความหมายลกซงกวานนมาก มันคือเสียงของความสงบ เสียงที่ค่อย ๆ ละลายความ
 วุ ่นวายในใจ และพาฉันย้อนกลับไปยังหนึ ่งในความทรงจ าที่ชัดเจนที่สุดในชีวิต... ฉนไดไปเยอนนาตกคลอง
 ลานเมื่อไม่กี่เดือนกอน อ าเภอคลองลาน จังหวัดก าแพงเพชร จากตัวเมืองใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที แตสง
 ทฉนไดรบกลบมานน…ไกลเกนกวาคาวา "ทองเทยว" ทนททลงจากรถ สงแรกทสมผสไดคอ “เสยง” เสียงของ
 สายนาทไหลกระทบหน ดงมาตงแตลานจอดรถ ฉนเงยหนามอง เหนไอนาลอยคลงเหนอยอดไม เป็นสัญญาณ
 วา…อกไมกกาว ฉนจะไดพบกบธรรมชาตทยงใหญ ระหว่างเดินเข้าไปประมาณ 100 เมตร ฉันเดินผ่านล าธาร
 เลก ๆ มโขดหน ตนไมเขยวขจ และฝงปลาวายในนาใส มันไม่ได้ดูอลังการเหมือนในโปสเตอร์ แต่มันมีเสน่ห์
 แบบ “จรงใจ” ทจบหวใจฉนไดตงแตแรกเหน แลวฉนกมาถงหนาผานาตก… นาตกคลองลานไหลลงมาจากหนา
 ผาสูงราว 100 เมตร เสยงนากระทบหนดงกกกอง แตนาแปลกใจทมนไมรสกนากลวเลย ตรงกันข้าม มันกลับท า
 ให้ฉันเงียบ… เงียบจนรู ้สึกเหมือนได้ยินเสียงหัวใจตัวเอง ฉนนงลงบนโขดหนดานหนา สายลมพดเอาละอองนา
 เย็น ๆ มาแตะหน้า มันไม่ใช่แค่รู ้สึก “เย็น” แต่มันเหมือนธรรมชาติก าลังกอดฉันไว้…โดยที่ไม่ต้องพูดอะไรเลย
 ภาพตรงหนาสวยมาก นาตกไหลแรงแตไมกระโชก มอสเขยวปกคลมตามหน ตะไครนาเกาะแนน และเสียง
 นา…ยงคงไหลไมหยดเหมอนกบเวลา ตอนนน ฉนไมไดถายรปเลยสกใบ
ไม่ใช่เพราะลืมกล้อง… แตเพราะกลววาการยกกลองขนมาจะทาใหความรสกทลกซงตรงหนาหายไป
มันเหมือนเราได้ “อยู่” กับธรรมชาติอย่างแท้จริง ไม่ต้องรีบ ไม่ต้องวางแผน ไม่ต้องเป็นใคร…แค่เป็นตัวเรา สงท
 ฉนประทบใจอกอยางคอ ความเรยบงายของพนทรอบ ๆ มีร้านกาแฟเล็ก ๆ ชื่อว่า Coffee Park อยู่ใกล้ลานจอด
 รถ รานเลก ๆ ทมองเหนววของนาตกทงสาย ฉนสงกาแฟดา แลวนงจบเงยบ ๆ มองดละอองนาจากไกล ๆ
ขาง ๆ มนกทองเทยวอกสองสามคน นงอยเงยบ ๆ เหมอนกน ไม่มีเสียงคุย ไม่มีเสียงหัวเราะดัง
มีแต่สายตา…ที่ก าลังมองธรรมชาติอย่างเข้าใจ ในวนนน ฉนรสกวาเราไมไดมา "ดนาตก"แต่เรามา “พบ
 ธรรมชาติ” และ “พบตัวเอง”  เสยงนาทไหลลงมาอยางตอเนอง
เหมือนก าลังสอนฉันว่า…   ไม่ว่าจะเจอหินก้อนเล็ก ก้อนใหญ่แค่ไหน สายน ้าก็ยังหาทางไหลต่อไปได้เสมอ
มันอาจจะกระเด็น กระจัดกระจาย แต่สุดท้าย...มันก็ยังคงไหล ไม่หยุด ไม่ถอย กอนกลบ ฉนเดนยอนกลบไปท
 โขดหนอกครงยนมองนาตกเงยบ ๆ แลวพดกบตวเองเบา ๆ วา “ขอบคณนะ ทยงไหล…ไมเคยหยด”
ธรรมชาติสอนเราเสมอ แต่บางที…เราก็ต้องหยุด เพื่อจะฟังมันให้ได้ยิน และนนคอสงทนาตกคลองลานใหฉน .
ไม่ใช่แค่ความสวยงาม แต่คือความเข้าใจบางอย่าง ที่เราอาจไม่เคยได้ยินจากที่ไหนเลย 
นอกจาก “เสียงของธรรมชาติ” และ “ความเงียบในใจตัวเอง” 
ฉันเชื่อว่า…คนเรามีช่วงเวลาที่อยาก “หยุดพัก” แตในโลกทหมนเรวแบบน เราหยดไมไดงาย ๆ แต่ธรรมชาติที่
 คลองลาน…ท าให้ฉันได้หยุดจริง ๆ หยุดคิดเรื่องงาน หยุดห่วงอนาคต หยุดกลัวความล้มเหลว แล้วได้ “อยู่กับ
 ปัจจุบัน” อย่างเต็มที่ บางคนอาจบอกวา…แคไปนงรมลาธาร มนจะเปลยนอะไรได แต่ส าหรับฉัน 
แคไดนงเงยบ ๆ ใตรมไม ไดยนเสยงลมพดใบไมไหว ไดนงดปลาวายนา…มนกเหมอนกบการไดรเซตหวใจ
มชวงหนง ฉนยนมองนาตกอยนานมาก ตอนแรกก็คิดว่า…แค่ยืนเฉย ๆ เดี๋ยวก็เบื่อ แต่กลับกลายเป็นว่าฉันลืม
 เวลาไปเลย  เพราะหัวใจมันค่อย ๆ เบาลงทุกนาที  เหมอนทกหยดนาทตกลงมา…มนคอย ๆ พดเอาความเหนอย
 ล้าออกจากใจไปด้วย  และนนแหละ…คอความประทบใจทฉนไมเคยลม กอนกลบ ฉนเดนไปทศนยบรการ
 นักท่องเที่ยว ตรงนนมชาวเขาหลายกลมนาสนคามาขาย ทงผาทอ เครองประดบ กระเปาแบบทองถน ฉันได้คุย
 กับหญิงชราคนหนึ ่ง เธอเล่าว่า เผาของเธออยทนมาหลายชวอายคน ธรรมชาติคือบ้านของพวกเขา…และพวกเขา
 ก็ดูแลมันอย่างดีที่สุด ฉันเห็นแววตาเธอ…เต็มไปด้วยความภูมิใจ และฉนกเรมเขาใจมากขนวา…ทาไมนาตก
 แหงนจงยงคงสวยงามและบรสทธ เพราะมีคนที่ไม่เคยมองมันแค่เป็น “แหล่งท่องเที่ยว” แต่มองมันเป็น “ชีวิต”
ของตัวเอง การไปคลองลานส าหรับฉัน  ไม่ใช่แค่ความประทับใจในธรรมชาติ  แต่มันคือการได้เรียนรู ้ว่า... ชีวิต
 ที่ดีไม่จ าเป็นต้องเร่งรีบ ไม่ต้องแข่งขันตลอดเวลา บางที แค่เราหยุด แล้วฟังเสียงลมหายใจตัวเอง หรือแม้แต่เสียง
 ของนาตก…เรากจะไดยนคาตอบหลายอยาง ที่ไม่เคยได้ยินจากที่ไหน และนน…คอของขวญทธรรมชาตมอบให
 ฉัน ทกวนน เวลาทรสกเหนอย  ฉันไม่จ าเป็นต้องกลับไปคลองลานเสมอ แคหลบตา แลวนกถงภาพนาตกทไหล
 ไม่หยุด เสยงนาทกระทบโขดหน เสยงลมผานยอดไม ฉนกรสกวา…ตวเองไดกลบไปตรงนนอกครง เพราะบาง
 ความประทบใจ…แมจะอยแคไมกชวโมง แต่มันจะอยู่กับเราตลอดไป   การไดไปนาตกคลองลานครงน ไมใช
 แคการเทยวชมธรรมชาต แตเปนการคนพบความสงบและความสวยงามทแทจรง…บางครงเสยงนาตกทดงกอง
กลบทาใหเราไดยนเสยงหวใจตวเองชดเจนขน…และเขาใจวา
ธรรมชาตไมเคยหยดไหล เชนเดยวกบชวตทตองกาวเดนตอไป”

 30 
 เมื่อ: พฤษภาคม 08, 2025, 10:32:45 am 
เริ่มโดย apairach - กระทู้ล่าสุด โดย apairach
"เคยไหมที่คุณต้องการหลีกหนีความวุ่นวายและสัมผัสธรรมชาติอย่างแท้จริง?  
การเดินของผมที่ต้องหาที่ท่องเทื่ยวใหม่ ๆ การเดินทางสู่ช่องเย็นในครั้งนี้ เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำอย่างยิ่ง เมื่อ
ถึงจุดกางเต็นท์ อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ทำให้รู้สึกสดชื่นและผ่อนคลาย การได้ชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงาม
เหนือทิวเขาสลับซับซ้อน และทะเลหมอกยามเช้าที่ปกคลุมยอดเขา เป็นภาพที่ตราตรึงใจไม่รู้ลืม เสียงนกร้องและ
สายลมที่พัดผ่าน ทำให้รู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติอย่างแท้จริง รวมเป็นหนึ่งเดียวกับ ธรรมชาติ การได้สัมผัสกับ
 ธรรมชาติที่บริสุทธิ์และเงียบสงบเช่นนี้ เป็นการเติมพลังให้กับชีวิตและจิตใจอย่างแท้จริง  
1. ชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกที่ภูสวรรค์ เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการเดินขึ้นยอดภูสวรรค์ ซึ่งมีความสูง 1,429
เมตรจากระดับน้ำทะเล ใช้เวลาเดินประมาณ 1-2 ชั่วโมง เมื่อถึงยอดเขาจะสามารถชมวิวทะเลหมอกและพระ
 อาทิตย์ขึ้นได้แบบ 360 องศา  
2. กางเต็นท์พักแรมที่ช่องเย็น สัมผัสอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปีที่ช่องเย็น ซึ่งเป็นจุดกางเต็นท์ยอดนิยมของ
 นักท่องเที่ยว การพักแรมที่นี่จะทำให้ คุณได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติและเพลิดเพลินกับบรรยากาศที่เงียบสงบ
3. เดินป่าศึกษาธรรมชาติ สำรวจเส้นทางธรรมชาติที่หลากหลายภายในอุทยานฯ เช่น เส้นทางไปยังน้ำตกแม่
 กระสา หรือเส้นทางศึกษา ธรรมชาติอื่น ๆ ที่จะพาคุณผ่านป่าดิบชื้นและพบกับพรรณไม้หายาก  
4. ชมวิวที่จุดชมวิวกิ่วกระทิงและโมโกจูน้อย จุดชมวิวเหล่านี้มอบทัศนียภาพที่สวยงามของทิวเขาและป่าไม้
เหมาะสำหรับการถ่ายภาพและพักผ่อนระหว่างการ เดินทาง  
5. สัมผัสวัฒนธรรมชนเผ่าท้องถิ่น ระหว่างทางไปอุทยานฯ คุณจะได้พบกับชุมชนของชนเผ่าม้งและมูเซอ ที่มี
 การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น เช่น ผ้า ทอมือและผลไม้ตามฤดูกาล การแวะเยี่ยมชมและสนับสนุนสินค้าท้องถิ่น
 จะช่วยสร้างความประทับใจและความ เข้าใจในวัฒนธรรมของพื้นที่ ขอเชิญชวนสมาชิก เทื่ยวพักผ่อน กันที่ตำบล
 ปำงตำไว อำเภอปางศิลาทอง จังหวัดกำแพงเพชร อีก 1 ที่ ไป อุทยานแห่งชาติแม่วงค์ จังหวัดกำแพงเพชร หรือที่
 รู้จัก ในชื่อช่องเย็น มีความสูงจากจะระดับน้ำทะเล 1340 เมตร การเดินทาง จากอำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร
ไปยัง อำเภอปางศิลาทอง จังหวัดกำแพงเพชร ระยะทางรวม 102 กิโลเมตร ใช้ระเวลาการเดินทาง ประมาณ 2
ชั่วโมง เป็นแหล่งท่องเทื่ยว ศึกษาทางธรรมชาติวิถีชีวติของชนเผ่า ชาวบ้าน ที่อาศัยบริเวณตีเขา อาทิชนเผ่าม้ง ชน
 เผ่ามูเซอ และมีชุดผ้าให มทอมือเป็นชุดประจำชนเผ่าที่มีขายตาม ระหว่างทาง ให้เลือกดูเลือกชม ผลไม้ตาม
 ฤดูกาล ที่ชาวบ้านทำการปลูก หรือ หามาขาย เช่น เห็ดตามฤดูกาล หน่อไม้ ผักต่างๆตามฤดูการ สินค้าตามฤดูการ  
จุดที่ 1 คือ แก่งผาคอยนาง ลักษณะคือ ทางน้ำใหล บริเวณโดยรอบเป็นโขดหิน จุดนี้เหมาะ แก่การนั่งชมวิวน้ำ
 ใหล หรือ นั่งพัก ทานอาหาร เหมาะกับการถ่ายรูป หรือผักผ่อน เนื่องจากเป็นลานกว้าง  
จุดที่2 คือ จุดชมวิวกิ่วกระทิ่งเหมาะสำหรับถ่ายภาพภูมิทัศน์ธรรมชาติ ลักษณะคือ ยอดภูเขาที่มองลลงมาเห็นทิว
เขาด้านล่าง และเห็นธรรมชาติอย่างสมบูรณ์ และมีสายพัดอากาศเย็นมาให้สดชื่น พร้อมความเพลิดเพลินต้นหญ้า
ที่สไหวตามแรงสม ในบางฤดู การจะละอองฝนและกลิ่นดอกไม้อ่อนๆโชยตามลม  
จุดที่ 3 คือ โมโกจูน้อย เป็นเนินดิน เป็นจุดที่นิยมถ่ายภาพเนื่องจาก เป็นถนนลอยฟ้าที่สวยที่สุด สามารถถ่ายภูมิ
ทัศน์ท้องฟ้า สวยงามอีก1 สุด จุดนี้มีกระแสลมที่พัดผ่านช่องเขา และพัดไอน้ำมาเยือนผู้ที่มาเย็อนเป็นดูดาวใน
เวลากลางคืน เป็นจุดที่ไม่มีต้นไม้ บดบังภูมิทัศน์  
จุดที่ 4 คือ ขุนเขาน้ำเย็น จุดดั้งกล่าวเป็นที่นักท่องเทื่ยวนิยมพักแรมตั้งแค้มค้างคืน มากที่สุดอีกหนึ่งจุด เนื่องจาก
เป็น ล่องหุบเขา จึงทำเหมาะกับการพักผ่อน ผ่อนคลาย เนื่องจากเห็นวิทิวทัศน์ธรรชาติ มองเห็นความงดงามตาม
ของธรรมชาติ และไกล้ชิด ธรรมชาติ อีก1 จุด  
จุดที่ 5 รู้จักในนามช่องเย็น เนื่องจากเป็นลานกว้างอุณภูมิเฉลี่ย ประมาณ 32 องศาทั้งปีกระแสผัดผ่านตลอตทั้งปี
ในช่วงฤดูฝนมี ละอองน้ำปกคุม หรือที่รู้จักว่า ทะเลหมอก เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกสวยที่สุดในกำแพงเพชรก็ว่า
 ได้ จุดดังกล่าวเหมาะแก่การ พักผ่อน ผ่อนคลายตั้งแค้ม ชมธรรมชาติที่สวยงามกับอุทยานแห่งชาติแม่วงค์ พร้อม
 ความ เพลิดเพลินกับสายลมอ่อนๆ แสงแดดยาม เย็น กับเสียงลมที่ผัดผ่านมายังผู้มาเยืยน พร้อมเสียงนกหายาก
 (นกเงือก) ที่พบได้จากอุทยานแห่งชาติแม่วงค์ ที่ขับร้อง เป็นทำนองไพรเราะของป่ายามเย็น พร้อมเสียงสัตว์ต่างๆ
ส่งเสียงรับกัน เป็นดนตรีที่ไพรเราะ ของป่ายามเย็น จุด สุดท้ายเป็นสำรวจเส้นทางธรรมชาติ เรียกว่า เส้นทางผู้
 พิชิตภูสรรค์ ความสูง 1429 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็น การเดินผ่าน บันไดที่ทำจากปูน ประมาณ 400-600 ขั้น
และบางช่วงเป็นโขดหิน ระหว่างทางหากเป็นฤดูฝน ต้น ฤดูหนาว จะให้ความรู้สึกเดิน บนเมฆ พร้อมวิวทิวทัศน์
ทึ่งดงามตามป่าดิบชื้น พร้อมต้นหญ้าที่ถูดลมพัด และ อ่อนตามกระแสลม ลมเย็นๆ ละอองฝนเล็กๆที่มา ปะทะผู้
 มาเยือน จึงรู้ผ่อนคลายและชดชื่น พร้อมอากาศบริสุทธิ์ สูดเข้าเต็มปอด พร้อมความรู้สึกดีๆ ที่ธรรมชาติ สายลม
 นำมา หมอบให้ ถึงภูสรรค์ จะพบกับ ยอดเขาที่มองเห็น พระอาทิตชึ้นผ่านทะเลหมอก ขึ้นมาเยือนผู้ที่สามารถพิชิต
 ภูสรรค์ได้ พร้อมแสงแดดอ่อนๆ พร้อมวิวภูมิทัศน์ 360 องศาทะเลหมอกยามเช้า จุดนี้เป็นจุดที่ ชมพระอาทิตย์ขึ้น
 และพระอาทิตย์ตก ไม่ว่าจะพระอาทิตย์ตกหรือพระ อาทิตย์ขึ้น ก็ทำให้หายเหนื่อยจากการ เดิน ขึ้นมาพิชิต สาย
 ลมต้อนรับพร้อมต้นหญ้าที่คอยอ่อนแรงตามแรงลม ต้อนรับนักท่องเทื่ยวที่ขึ้นมาเยื่ยมชมธรรมชาติ งดงามของป่า
 ดิบ ชื้น พร้อมอากาศเย็นที่ปะทะร่างกาย
ข้อควรระวัง ก่อนไปเทื่ยว โค้งช่องเย็น มีราวๆ 500- 1000 เนื่องเป็นถนนที่ตัดผ่านทิวเขา และรักษาธรรมชาติ
 ทางจึงมีความคด เคี้ยวเป็นอย่างมาก เส้นทางศึกษาธรรมภูสรรค์ มีทากและ ตัวคุ่น ซึ่งดูดเลือดมนุษย์และสัตว์ จึง
 แนะนำให้เตรียม โลชั่นกัน ยุง หรือ ผลิตภัฑน์กันตัวคุ่น (สามารถซื้อได้ที่อุทยาน) และเสื้อกันฝน ในการพิชิตภู
สรรค์ ช่วงเวลาที่น่า เทื่ยวที่สุด คือช่วงเดือน ตุลาคม ถึง ช่วงเดือน กุมภาพันธ์ หรือ ปลายฝนต้นหนาว เนื่องจาก
 อากาศเย็น ผ่อนคลาย และบรรยากาศสำหรับการท่องเทื่ยวศึกษทางธรรมชาติ อุณภูมิเฉลี่ย ช่วงปลายฝนตกหนาว
18 ถึง 22 องศา สำหรับสมาชิกท่านใดที่กำลังมองหาที่เทื่ยว ธรรมชาติเพื่อผ่อนคลาย หรือเผื่อพักผ่อนขอแนะนำ
หรือฝากอุทยาน แห่งชาติแม่วงไว้ในตัวเลือกของสมาชิก ทุกท่านความประทับใจของการผม คือการ ท่องเทื่ยว
และ พักผ่อน ไป กับธรรมติ กลมกลืนไปกับธรรมชาติที่งดงาม และได้แนะนำที่ท่องเทื่ยวแก่สมาชิกทุกท่านที่รัก
 ธรรมชาติ และผ่อน คลาย  
“ธรรมชาตไม่เคยเร่งรีบ แต่ทุกสิ ่งสาเร็จเสมอ"
"การเดินทางที่ดีที่สุด คือการเดินทางที่พาเรากลับมารักตัวเองอีกครั้ง"

หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 10
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.11 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!