จดหมายเหตุวัฒนธรรมกำแพงเพชร โดย อาจารย์สันติ อภัยราช
พฤศจิกายน 09, 2025, 09:27:53 pm *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: จดหมายเหตุวัฒนธรรมกำแพงเพชร โดย อาจารย์สันติ อภัยราช
ยินดีต้อนรับสมาชิก และผู้เยื่ยมชมทุกๆท่าน
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2 3 ... 10
 1 
 เมื่อ: พฤศจิกายน 05, 2025, 05:16:44 pm 
เริ่มโดย apairach - กระทู้ล่าสุด โดย apairach
⚜️????จังหวัดกำแพงเพชรจัดพิธีบวงสรวงและเจริญพระพุทธมนต์สมโภชศาลหลักเมืองกำแพงเพชร เสริมสิริมงคลทั่วทั้งจังหวัด
⚜️วันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 เวลา 07.30 น. ที่ศาลหลักเมืองกำแพงเพชร นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร เป็นประธานในพิธีบวงสรวงและเจริญพระพุทธมนต์สมโภชศาลหลักเมืองกำแพงเพชร โดยมี นางกาญจนี รุจนเสรี ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดฯ/นายกเหล่ากาชาดจังหวัดฯ , นางสาวสุพัตรา คล้ายทิม , นายอนุชา พัสถาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ , พันเอกพงศธร เมืองแก่น รองผอ.รมน.กพ. , พล.ต.ต.โอภาส คงเมือง. ผบก.ภ.จว.กำแพงเพชร , นางสาวศรัญวรรณ โชตินิมิตรคุณ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดฯ , นางสาวณัฐพร เดชาวุธ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดฯ ,นายสุนทร รัตนากร นายกอบจ.กพ. , นายวุฒิชัย ศุภอรรถพานิช นายกเทศมนตรีเมืองกำแพงเพชร , สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกำแพงเพชรทั้ง 4 เขต , หัวหน้าส่วนราชการ , นายอำเภอ , ส่วนราชการ ตลอดจนประชาชนผู้มีจิตศรัทธา เข้าร่วมภายในพิธีเป็นจำนวนมาก  และมีพระพรหมวชิรปัญญาจารย์ (ทองดี สุรเตโช) ราชบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดราชโอรสาราม ราชวรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์
สืบเนื่องจากจังหวัดกำแพงเพชร ได้บูรณะซ่อมแซมศาลหลักเมืองกำแพงเพชรอันเป็นที่ยึดเหนียวจิตใจของประชาชนชาวกำแพงเพชร โดยมีการบูรณะเสาหลักเมืองกำแพงเพชรและใบหน้าของเจ้าหมื่นขุนศรีวรจักร รวมทั้งปรับปรุงสิ่งปลูกสร้างรายการอื่นๆ ของศาลหลักเมืองกำแพงเพชร ซึ่งขณะนี้การบูรณะซ่อมแซมศาลหลักเมืองกำแพงเพชรได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว ทางจังหวัดกำแพงเพชรจึงได้จัดพิธีสมโภชศาลหลักเมืองกำแพงเพชร เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองและเสริมสร้างความเป็นสิริมงคล
โดยภายในพิธีแบ่งเป็น 2 ช่วง ได้แก่ พิธีพราหมณ์และพิธีสงฆ์ ภายในพิธี ประธานในพิธีจุดธูปเทียนถวายเครื่องสักการะที่ไต๊ะบวงสรวง พราหมณ์ผู้ประกอบพิธี นำอธิษฐานถวายเครื่องสักการะ ประธานในพิธีและส่วนราชการ ร่วมปักรูปลรายที่เครื่องสักการะ พราหมณ์ผู้ประกอบพิธีอ่านประกาศโองการบวงสรวง จากนั้นประธานโปรยข้าวตอกดอกไม้ที่เครื่องสักการะ ถวายพวงมาลัยสักการะขอพร และรำบวงสรวงฉลองสมโภชศาลหลักเมืองกำแพงเพชร เป็นอันเสร็จพิธีบวงสรวง
จากนั้นเวลา 09.30 น. เป็นพิธีเจริญพระพุทธมนต์สมโภชศาลหลักเมืองกำแพงเพชรประธานในพิธีจุดรูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ประเคนหัดรองที่ระลึกงานสมโภชฯ จากนั้นประธานสงฆ์ให้ศีล และพระสงฆ์ประพรมน้ำพรพระพุทธมนต์แก่ผู้เข้าร่วม จากนั้นประธานในพิธี ถวายภัตตาหารเพลและจตุปัจจัยไทยธรรมแต่พระสงฆ์ พระสงฆ์อนุโมธนา กรวดน้ำ รับพร และประธานในพิธี กราบลาพระรัตนตรัยและประธานสงฆ์เป็นอันเสร็จพิธี
สำหรับประวัติศาลหลักเมืองกำแพงเพชร เป็นศาลที่มีอายุเก่าแก่นานกว่า 700 ปี มีความเชื่อกันว่า พระเจ้าวรมันต์ (เหม่) เป็นผู้ก่อสร้างขึ้นมา โดยก่อสร้างด้วยศิลาแลงรูปกลม ยาวประมาณ 2 เมตร ผังโผล่พื้นมาประมาณ 1 เมตร และมีรูปเศียรเทพารักษ์อยู่บนยอดศิลาแลง ซึ่งในสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หลังคาศาลหลักเมืองได้พังลงมาทับเสาหลักเมืองและเศียรเทพารักษ์ และหลังจากนั้นก็อยู่ในสภาพรกร้างอย่างยาวนาน ต่อมา ช่างผู้เชี่ยวชาญ จากสำนักช่างสิบหมู่ ของกรมศิลปากร ได้ทำการสำรวจความเสียหายเสาหลักเมืองเดิมและมีการนำไปบูรณเพื่ออนุรักษ์เสาหลักเมืองเดิม พร้อมกับได้จัดทำเสาหลักเมืองจำลองใหม่ขึ้นมา โดยทำจากไม้สักทอง ความสูงจากพื้นเสา 2.29 เมตร ความกว้างของฐาน 64 เซนติเมตร ซึ่งก็ได้อัญเชิญเสาหลักเมืองจำลอง ที่ได้ผ่านการทำพิธีจากกรมศิลปากร มาวางเอาไว้ให้ได้สักการบูชา โดยในช่วงวันที่ 15 เมษายนของทุกๆปี จะเป็นวันพญาวัน ซึ่งจะมีประชาชนจำนวนมากจะมารวมตัวกันที่ ศาลหลักเมืองกำแพงเพชร และมาไหว้ขอพรต่างๆ ในวันเวลา และสถานที่ดังกล่าว
ในการบูรณะศาลหลักเมืองในครั้งนี้นอกจากเป็นการฟื้นฟูสถานที่อันเป็นที่น่าเลื่อมในของประชาชนแล้ว ยังเป็นการฟื้นฟูขวัญกำลังใจและเสริมสิริมงคลแก่บ้านเมืองอีกด้วย

ขอบคุณ ปชส.กำแพงเพชร

 2 
 เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2025, 09:33:15 am 
เริ่มโดย apairach - กระทู้ล่าสุด โดย apairach
     พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พร้อมกับสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จกำแพงเพชร 3 ครั้ง
          ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2510 เสด็จบวงสรวงสังเวยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
          ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2515 เสด็จบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ส่วนพระองค์ ณ วัดคูยาง
          ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2521 เสด็จพระราชทานธงลูกเสือชาวบ้าน ของอำเภอ ต่างๆ รวม 117 รุ่น
          ครั้งที่ 1 เสด็จบวงสรวงสังเวยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตามพระราชพงศาวดารกล่าวว่า สมเด็จพระนเรศวร เสด็จมาประทับแรมที่กำแพงเพชร 3 ราตรี คราวที่ยกทัพหลวงไปเมืองแครง และได้ทรงประกาศอิสรภาพ….ความว่า
พระพุทธศักราช 2126 กรีธาทัพผ่านทางเมืองกำแพง เวลาบ่าย 5 นาฬิกา ก็ถึงตำบลวัดยม ย่านท้ายเมือง………รุ่งขึ้นโปรดให้พักทัพชัยที่ตำบลหนองปลิง 3 เพลา………..เมื่อเมืองกำแพงเพชรมีความสำคัญเช่นนี้ ทั้งสองพระองค์จึงเสด็จมาสังเวย บวงสรวง สมเด็จพระนเรศวร ถึงเมืองกำแพงเพชร  
…….ท่านศึกษาโกศินท์ จารุวัฒน์ อดีตศึกษาธิการอำเภอคลองขลุง ได้บันทึกไว้พร้อมภาพถ่ายจำนวนมาก ความว่า…
…….ทั้งสองพระองค์ เสด็จโดยเฮลิคอปเตอร์ จากสนามบินจังหวัดพิษณุโลก มาถึงกำแพงเพชรเวลา 10.30 น. ของ
วันที่ 25 มกราคม 2510 ซึ่งวันที่ 25 มกราคม เป็นวันที่สมเด็จพระนเรศวร ทรงกระทำยุทธหัตถีชนะพระมหาอุปราชา
…นายร้อยตำรวจโท ปิ่น สหัสโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร ในขณะนั้น เข้าเฝ้าถวายบังคมทูลเชิญล้นเกล้าทั้งสองพระองค์เสด็จกระทำพิธีบวงสรวง และเสด็จเยี่ยมพสกนิกรของพระองค์
….เสด็จขึ้นแท่นรับความเคารพจากกองเกียรติยศ และเสด็จปฏิสันถารกับบรรดาข้าราชการที่มารับเสด็จ มีซุ้มพ่อค้าอำเภอคลองขลุงเป็นซุ้มแรก โดยมีข้าราชครูชายหญิงรอรับเสด็จ ถัดไปเป็นโต๊ะหมู่บูชาของนายแพทย์ และโรงพยาบาลกำแพงเพชร
…..บรรดาราษฏรทุกหมู่เหล่า ต่างตั้งโต๊ะบูชาสองข้างทาง…..จังหวัดสร้างพลับพลาที่ประทับบริเวณวัดพระแก้วหน้าเมืองเป็นพลับพลาทรงไทยประยุกต์ที่งดงามมาก
….ทรงรับศีล ในพิธีสงฆ์ ก่อนเสด็จทำพิธีบวงสรวง ตามพิธีพราหมณ์……เมื่อบวงสรวงสังเวยเสร็จเสด็จชมผังเมืองและโบราณวัตถุที่ กรมศิลปากรจัดถวายทอดพระเนตร……..
…..จากนั้นเสด็จมายังศาลากลางจังหวัดกำแพงเพชร เพื่อเสวยพระกระยาหารกลางวัน จนกระทั่งเวลา 14.30 น. จึงเสด็จออกมาปลูกต้นสัก ณ บริเวณหน้าศาลากลาง โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงปลูกต้นสักด้านขวา และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ทรงปลูกต้นซ้าย ของศาลากลาง แล้วเสด็จเยี่ยมพสกนิกร ของพระองค์
……นายธรรมศักดิ์ คำเพ็ญ…….นายอำเภอขาณุวรลักษบุรี รายงานตัว…. นายธวัช แผ่ความดีนายอำเภอพรานกระต่ายเข้าเฝ้ารับเสด็จ…..นายสุนีย์ โชติมา นายอำเภอคลองขลุง ถวายพระเครื่อง …. ทุกอิริยาบถ ทั้งสองพระองค์ทรงสง่างาม และทรงมีเมตตาต่อพสกนิกรที่เข้าเฝ้า รับสั่งถามทุกข์สุข โดยละเอียด
…..ภาพที่ประทับใจที่สุด คือภาพที่ทั้งสองพระองค์ ทรงโบกพระหัตถ์อยู่บนเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ กำลังทะยานขึ้นสู่อากาศ เพื่อเสด็จสู่จังหวัดพิษณุโลก เพื่อประทับเครื่องบินพระที่นั่งเสด็จนิวัติพระนคร……….

   ครั้งที่ 2 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถและสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเสด็จพระราชดำเนินมาทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทรงถวายผ้าพระกฐินต้น ณ วัดคูยางอำเภอเมืองจังหวัดกำแพงเพชร พร้อมถวายพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์และกรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการถวายโดยเสด็จพระราชกุศลด้วย รวมเป็นเงิน หกหมื่นบาท เพื่อเป็นทุนเริ่มต้นสร้างพระอุโบสถ และพระราชทานให้อัญเชิญ พระปรมาภิไธยย่อ ภ.ป.ร. มาประดิษฐานพระอุโบสถด้านหน้า และขอพระราชทานพระนามาภิไธย สก. มาประดิษฐานที่หน้าบันพระอุโบสถด้านหลัง เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2523 และพระราชทานนามพระพุทธรูปประธานซึ่งหล่อด้วยศิลปะสุโขทัย หมวดกำแพงเพชร ขนาดหน้าตักกว้าง 6 ศอก 9 นิ้ว ว่า พระพุทธวชิรปราการ เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2527 นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณแก่ชาวกำแพงเพชร…

ครั้งที่ ๓
 เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2521 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเสด็จมาพระราชทานธงลูกเสือชาวบ้าน ของอำเภอต่างๆจำนวน 117 รุ่น ณ อำเภอเมืองกำแพงเพชร และทรงเยี่ยมราษฎรที่มาเฝ้าฯรับเสด็จฯ อยู่ในบริเวณนั้น ซึ่งราษฎรบ้านกิโลสอง บ้านกิโลสาม บ้านกิโลหก และบ้านใกล้เคียงในเขตอำเภอเมืองกำแพงเพชร ได้กราบบังคมทูลขอพระราชทาน ให้ทรงช่วยเหลือจัดหาน้ำให้ราษฎร เพื่อใช้ในการเพาะปลูก และการอุปโภคและบริโภค ได้ตลอดปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำริ เมื่อ วันที่ 30 มกราคม 2521 ให้กรมชลประทานพิจารณาวางโครงการชลประทาน เพื่อจัดหาน้ำให้ในบริเวณดังกล่าว และพระราชทานแนวทางในทางการพิจารณาวางโครงการ ให้กรมชลประทาน ใช้ประกอบการพิจารณาด้วย
         นับว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณ ต่อชาวกำแพงเพชรยิ่งนัก ที่พระองค์เสด็จกำแพงเพชร ถึง 3 ครั้ง ชาวกำแพงเพชร ไม่มีวันที่จะลืมเลือนวาระอันสำคัญนี้เลย…………

ครั้งที่ ๔ เสด็จลานกระบือ
น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ น้อมรำลึกและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ แด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้ทรงทุ่มเทพระวรกายเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของพสกนิกรชาวไทย
โดยหนึ่งในพระราชกรณียกิจด้านพลังงานที่สำคัญเพื่อความมั่นคงทางพลังงานและการพึ่งพาตนเองของประเทศ คือ ในปี 2524 ได้มีการค้นพบน้ำมันดิบในปริมาณมากพอในเชิงพาณิชย์ที่หลุมสำรวจ "ลานกระบือ เอ 01" อำเภอลานกระบือ จังหวัดกำแพงเพชร ในครั้งนั้น ถือเป็นประวัติศาสตร์สำคัญในวงการน้ำมันของไทย
รัฐบาลในขณะนั้นโดยนายกรัฐมนตรี พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ จึงได้นำความขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณา ขอพระราชทานพระนามาภิไธย "สิริกิติ์" นำมาเป็นชื่อของ แหล่งน้ำมันสิริกิติ์ เป็นแหล่งน้ำมันดิบบนบกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกำแพงเพชร พิษณุโลก และสุโขทัย ขนาดพื้นที่ 1,326 ตารางกิโลเมตร และตั้งชื่อน้ำมันที่ขุดขึ้นมาได้ว่า "น้ำมันดิบเพชร" ตามชื่อจังหวัดกำแพงเพชร
ในคราวนั้น สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็น
องค์ประธานในพิธีเปิดแหล่งน้ำมันสิริกิติ์ จังหวัดกำแพงเพชร
เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2526
ปัจจุบันแหล่งน้ำมันสิริกิติ์ ยังคงดำเนินการอยู่
ข้อมูลเดือนกันยายน 2568 มีอัตราการผลิตเฉลี่ย ดังนี้
• น้ำมันดิบ ประมาณ 20,000 – 22,000 บาเรลต่อวัน
• ก๊าซธรรมชาติ ประมาณ 20 – 25 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน
• ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ประมาณ 140 - 160 ตันต่อวัน
นอกจากเป็นแหล่งพลังงานสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศแล้ว แหล่งน้ำมันสิริกิติ์ ยังเป็นต้นแบบการประกอบกิจการปิโตรเลียมที่อยู่ร่วมกับชุมชนอย่างยั่งยืน โดยสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของคนในท้องถิ่น เช่น โครงการก๊าซธรรมชาติเพื่อเกษตรชุมชนและสิ่งแวดล้อม ตำบลหนองตูม อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย โดยนำก๊าซธรรมชาติส่วนเกินไปใช้กับวิสาหกิจชุมชนแทนก๊าซหุงต้ม
กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติในฐานะหน่วยงานที่กำกับ ดูแล บริหารจัดการ
แหล่งปิโตรเลียม และแหล่งเชื้อเพลิงธรรมชาติเพื่อสร้างและรักษาความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ อย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มุ่งมั่นดำเนินงานด้วยความตระหนักในพระราชปณิธานในการใช้ทรัพยากรของแผ่นดินอย่างรู้คุณค่า เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนไทยอย่างยั่งยืน
" ขอน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ตราบนิจนิรันดร์ "
ที่มา : บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กรมศิลปากร และมหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร

ครั้งที่ ๕  เสด็จ บ้านสักงาม กำแพงเพชร
ครั้งที่ ๕.๑  เสด็จ ๑๖ มีนาคม ๒๕๓๖
ครั้งที่ ๕.๒  เสด็จ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๗

เนื่องในโอกาส เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรหมู่บ้านสักงาม หมู่ที่ 1 ตำบลสักงาม อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร

สรุปพระราชดำริ 1. ให้แม่ทัพภาคที่ 3 ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร และป่าไม้จังหวัดกำแพงเพชร จัดหาพื้นที่ทำกินให้แก่ชาวเขาบ้านแม่พืช และบ้านแปลงที่สี่ ที่เคยอาศัยอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติคลองลาน และอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ โดยจัดที่ทำกินให้ครอบครัวละ 5 ไร่

2. พัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของไทยภูเขา โดยจัดอาชีพให้ผู้ชายรับจ้างปลูกป่า ผู้หญิงทำเครื่องเงิน เย็บปัก จักสาน

3. ส่งเสริมให้บริเวณพื้นที่ดังกล่าวเป็นสถานที่ท่องเที่ยว จะทำให้ขายสินค้าของที่ระลึกได้

วัตถุประสงค์ของโครงการ 1. เพื่อฟื้นฟูสภาพป่า ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร ลำน้ำวงก์ คลองสวนหมาก คลองวังเจ้า ให้กลับมีความสมบูรณ์ดังเดิม

2. เพื่อให้ราษฎรซึ่งขาดแคลนที่ดินทำกิน ทำไร่เลื่อนลอย ได้มีที่ดินทำกินเป็นหลักแหล่ง ไม่บุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อทำไร่เลื่อนลอยอีกต่อไป

3. เพื่ออนุรักษ์และส่งเสริมอาชีพที่ราษฎรถนัด เช่น การทำเครื่องเงิน ปักผ้า แกะสลัก จักสาน โดยมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จะรับราษฎรบางส่วน ไปฝึกอบรม ณ พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ และพระตำหนักสวนจิตรลดา เป็นการพัฒนาฝีมือ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด
เป็นกำเนิด ของ บ้านเล็กในป่าใหญ่ ตำบลหินดาด ปางศิลาทอง กำแพงเพชร

เสด็จพระราชดำเนินบ้านเล็กในป่าใหญ่จำนวน ๕ ครั้ง (ครั้งที่ ๗ ถึง ครั้งที่ ๑๑)

ครั้งที่ ๗ (๑) พุธที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๘ เปิดป้ายโครงการ บ้านเล็กในป่าใหญ่ เปิดศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เปิดโครงการประปาหมู่บ้าน ปลูต้นราชพฤกษ์ ๒ ต้นหน้าที่ประทับทรงงาน ทรงติดตามผลงานราษฎรอย่างละเอียด จนถึง ๓ ทุ่มเสด็จราชดำเนินกลับ

 ครั้งที่ ๘ (๒)พุธที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๓๙ เสด็จโรงเรียนบ้านอุดมทรัพย์ ปลูกต้นแก้วเจ้าจอม ๒ ต้นหน้าอาคารเรียนเปิดป้ายอาคารเรียน บ้านเล็กในป่าใหญ่พระราชทานโล่ แก่ผู้ร่วมดับไฟป่า แล้วเสด็จไปที่ทรงงาน  ทรงปล่อยปลา ทรงปลูกต้นโมกมัน เยี่ยมราษฎรมาเข้าเฝ้า  ชมนิทรรศการของแต่ละหน่วยงาน ทรงติดตามผลงานผลิตภัณฑ์ของราษฎร์และสมาชิก พระราชทานความช่วยเหลือ  เวลา ๑ทุ่ม ถึง ๒ ทุ่ม มีพายุฝนหนักมาก แต่พระองค์ทรงงาน จนพายุสงบจึงเสด็จกลับ

ครั้งที่ ๙ (๓) พุธที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๔๐ เสด็จทรงาน ทรงปลูกต้นพญาสัตบรรณ เยี่ยมพสกนิกร ชมนิทรรศการ และผลิตภัณฑ์ของประขาขน และสมาชิกศิลปาชีพ ทรงพระราชทานความช่วยเหลือแนะนำการผลิต แล้วเสด็จกลับ

ครั้งที่ ๑๐  (๔) ศุกร์ที่ ๑๒มีนาคม ๒๕๔๒ เสด็จเยี่ยมราษฎร ชมนิทรรศการผลผลิตของราษฎร และสมาชิก และพระราชทานความช่วยเหลือและผลตอบแทนของสมาชิก แล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับ

ครั้งที่ ๑๑ (๕) พุธที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๔๓เสด็จเยี่ยมราษฎร ที่โรงเรียน บ้านอุดมทรัพย์ และที่สถานที่ทรงงาน ติดตามผลงานของสมาชิก ทรงช่วยเหลือและให้ผลตอบแทนแก่ราษฏร แล้วเสด็จกลับ

แต่ละครั้ง ทรงประทับนั่งกลับพื้น มีตั่งทรงานเล็ก ตั้งอยู่ ทรง เรียบง่ายและสมถะที่สุด นับว่าน่ายกย่องและน่าสรรเสริญยิ่งนัก






 3 
 เมื่อ: ตุลาคม 30, 2025, 06:54:32 pm 
เริ่มโดย apairach - กระทู้ล่าสุด โดย apairach
น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ น้อมรำลึกและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ แด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้ทรงทุ่มเทพระวรกายเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของพสกนิกรชาวไทย

โดยหนึ่งในพระราชกรณียกิจด้านพลังงานที่สำคัญเพื่อความมั่นคงทางพลังงานและการพึ่งพาตนเองของประเทศ คือ ในปี 2524 ได้มีการค้นพบน้ำมันดิบในปริมาณมากพอในเชิงพาณิชย์ที่หลุมสำรวจ "ลานกระบือ เอ 01" อำเภอลานกระบือ จังหวัดกำแพงเพชร ในครั้งนั้น ถือเป็นประวัติศาสตร์สำคัญในวงการน้ำมันของไทย

รัฐบาลในขณะนั้นโดยนายกรัฐมนตรี พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ จึงได้นำความขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณา ขอพระราชทานพระนามาภิไธย "สิริกิติ์" นำมาเป็นชื่อของ แหล่งน้ำมันสิริกิติ์ เป็นแหล่งน้ำมันดิบบนบกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกำแพงเพชร พิษณุโลก และสุโขทัย ขนาดพื้นที่ 1,326 ตารางกิโลเมตร และตั้งชื่อน้ำมันที่ขุดขึ้นมาได้ว่า "น้ำมันดิบเพชร" ตามชื่อจังหวัดกำแพงเพชร

ในคราวนั้น สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็น
องค์ประธานในพิธีเปิดแหล่งน้ำมันสิริกิติ์ จังหวัดกำแพงเพชร
เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2526

ปัจจุบันแหล่งน้ำมันสิริกิติ์ ยังคงดำเนินการอยู่
ข้อมูลเดือนกันยายน 2568 มีอัตราการผลิตเฉลี่ย ดังนี้
• น้ำมันดิบ ประมาณ 20,000 – 22,000 บาเรลต่อวัน
• ก๊าซธรรมชาติ ประมาณ 20 – 25 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน
• ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ประมาณ 140 - 160 ตันต่อวัน

นอกจากเป็นแหล่งพลังงานสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศแล้ว แหล่งน้ำมันสิริกิติ์ ยังเป็นต้นแบบการประกอบกิจการปิโตรเลียมที่อยู่ร่วมกับชุมชนอย่างยั่งยืน โดยสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของคนในท้องถิ่น เช่น โครงการก๊าซธรรมชาติเพื่อเกษตรชุมชนและสิ่งแวดล้อม ตำบลหนองตูม อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย โดยนำก๊าซธรรมชาติส่วนเกินไปใช้กับวิสาหกิจชุมชนแทนก๊าซหุงต้ม

กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติในฐานะหน่วยงานที่กำกับ ดูแล บริหารจัดการ
แหล่งปิโตรเลียม และแหล่งเชื้อเพลิงธรรมชาติเพื่อสร้างและรักษาความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ อย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มุ่งมั่นดำเนินงานด้วยความตระหนักในพระราชปณิธานในการใช้ทรัพยากรของแผ่นดินอย่างรู้คุณค่า เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนไทยอย่างยั่งยืน

" ขอน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ตราบนิจนิรันดร์ "
ที่มา : บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กรมศิลปากร และมหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร

 4 
 เมื่อ: ตุลาคม 30, 2025, 06:52:36 pm 
เริ่มโดย apairach - กระทู้ล่าสุด โดย apairach


โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่

http://www.rdpb.go.th/thai/important/0018/0018.html

โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ จังหวัดกำแพงเพชร


สถานที่ดำเนินการ หมู่บ้านอุดมทรัพย์ หมู่ที่ 8 ตำบลหินดาต อำเภอปางศิลาทอง จังหวัดกำแพงเพชร
พระราชดำริของ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2530
ทรงมีพระราชดำริที่ บ้านสักงาม หมู่ที่ 1 ตำบลสักงาม อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร
ทรงมีพระราชดำริกับ 1. อธิบดีกรมป่าไม้
2. แม่ทัพภาคที่ 3
3. ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร
4. ป่าไม้จังหวัดกำแพงเพชร
เนื่องในโอกาส เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรหมู่บ้านสักงาม หมู่ที่ 1 ตำบลสักงาม อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร
สรุปพระราชดำริ 1. ให้แม่ทัพภาคที่ 3 ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร และป่าไม้จังหวัดกำแพงเพชร จัดหาพื้นที่ทำกินให้แก่ชาวเขาบ้านแม่พืช และบ้านแปลงที่สี่ ที่เคยอาศัยอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติคลองลาน และอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ โดยจัดที่ทำกินให้ครอบครัวละ 5 ไร่
2. พัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของไทยภูเขา โดยจัดอาชีพให้ผู้ชายรับจ้างปลูกป่า ผู้หญิงทำเครื่องเงิน เย็บปัก จักสาน
3. ส่งเสริมให้บริเวณพื้นที่ดังกล่าวเป็นสถานที่ท่องเที่ยว จะทำให้ขายสินค้าของที่ระลึกได้
วัตถุประสงค์ของโครงการ 1. เพื่อฟื้นฟูสภาพป่า ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร ลำน้ำวงก์ คลองสวนหมาก คลองวังเจ้า ให้กลับมีความสมบูรณ์ดังเดิม
2. เพื่อให้ราษฎรซึ่งขาดแคลนที่ดินทำกิน ทำไร่เลื่อนลอย ได้มีที่ดินทำกินเป็นหลักแหล่ง ไม่บุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อทำไร่เลื่อนลอยอีกต่อไป
3. เพื่ออนุรักษ์และส่งเสริมอาชีพที่ราษฎรถนัด เช่น การทำเครื่องเงิน ปักผ้า แกะสลัก จักสาน โดยมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จะรับราษฎรบางส่วน ไปฝึกอบรม ณ พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ และพระตำหนักสวนจิตรลดา เป็นการพัฒนาฝีมือ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด
4. เพื่อส่งเสริมให้หม่บ้านในโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวต่อไป
หน่วยงานรับผิดชอบ - กรมชลประทาน
- กรมพัฒนาชุมชน
- กรมป่าไม้
- กรมพัฒนาที่ดิน
- กรมส่งเสริมสหกรณ์
- กรป.กลาง
- กองทัพภาคที่ 3
ผลการดำเนินงาน 1. การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ได้ดำเนินการปรับเกรดทางรอบเขาน้ำอุ่น เพื่อเป็นแนวกันไฟและเป็นเส้นทางตรวจการณ์รอบพื้นที่โครงการ ระยะทาง 70 กิโลเมตร ก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมไม้ไผ่ในหมู่บ้านอุดมทรัพย์และดำเนินการขยายเขตการให้บริการไฟฟ้าเข้าไปในพื้นที่โครงการฯ บ้านอุดมทรัพย์
2. การพัฒนาแหล่งน้ำ ได้ดำเนินการจัดสร้างแหล่งน้ำในบริเวณพื้นที่โครงการฯ บ้านอุดมทรัพย์ อันประกอบไปด้วยการขุดสระเก็บน้ำ จำนวน 8 แห่ง เก็บน้ำได้ 100,000 ลูกบาศก์เมตร ก่อสร้างอ่างเก็บน้ำ จำนวน 1 แห่ง เก็บน้ำได้ 75,000 ลูกบาศก์เมตร ก่อสร้างแหล่งน้ำเพื่อการประปา จำนวน 1 แห่ง เก็บน้ำได้ 130,000 ลูกบาศก์เมตร และขุดลอกคลองธรรมชาติ จำนวน 1 แห่ง เก็บน้ำได้ 220,000 ลูกบาศก์เมตร สำหรับแหล่งน้ำดิบในพื้นที่มีปริมาณเพียงพอที่จะใช้ เพื่อการเกษตรและเพื่อการอุปโภค- บริโภค นอกจากนี้ ยังมีบ่อน้ำตื้น จำนวน 6 บ่อ ประปาหมู่บ้านขนาดเล็ก จำนวน 1 แห่ง
3. การพัฒนาอาชีพ
3.1 ด้านการเกษตร
- ทดสอบและพัฒนาการปลูกไม้ผลเศรษฐกิจแบบผสมผสาน เช่น ขนุน มะม่วง มะขามหวาน และกระท้อน ผลปรากฏว่า ไม้ผลส่วนใหญ่เจริญเติบโตดี
- ทดสอบและพัฒนาระบบการปลูกพืช จัดระบบการปลูกพืชในระหว่างแถวไม้ผลของเกษตรกร 5 ราย ๆ ละ 1 ไร่ ผลปรากฏว่า ถั่วเหลืองอายุสั้นพันธุ์นครสวรรค์ 1 ให้ผลผลิตค่อนข้างสูงเฉลี่ย 290 กิโลกรัมต่อไร่
- ทดสอบและพัฒนาข้าวไร่ โดยปลูกข้าวไร่เพื่อทดสอบเปรียบเทียบผลผลิต และองค์ประกอบอื่นๆ ระหว่างแถวไม้ผล 6 ราย ๆ ละ 1 ไร่ ผลปรากฏว่า ข้าวไร่มีการเจริญเติบโตดี ทั้งพันธุ์เจ้าฮ่อ และพันธุ์พื้นเมืองที่นำมาปลูกเปรียบเทียบ ส่วนผลผลิตอยู่ระหว่างวิเคราะห์ข้อมูล
- สนับสนุนกิ่งพันธุ์พืช ได้แก่ มะม่วง ขนุน ลำไย มะขามหวาน และไผ่ตง ให้แก่เกษตรกรเพื่อปลูกในพื้นที่ของตนเอง ชนิดละ 10 ต้นต่อครัวเรือน รวม 20 ครัวเรือน และได้สนับสนุนเมล็ดพันธุ์พืช ได้แก่ พันธุ์ข้าวไร่ พันธุ์ถั่วเหลือง พันธุ์ถั่วเขียว ให้แก่เกษตรกร รวม 20 ครัวเรือน
- ส่งเสริมการปลูกกล้วยน้ำว้า มะละกอ ให้แก่เกษตรกรทุกกครัวเรือน
- ส่งเสริมและพัฒนาการผลิตข้าวโพดในพื้นที่ 50 ไร่
- ส่งเสริมการปลูกพืชผักสวนครัว แบบผักปลอดสารเคมี (ผักกางมุ้ง)
- จัดทำแปลงสาธิตการปลูกไม้ผลในระบบการให้น้ำแบบประหยัด โดยสาธิตการจัดระบบการผลิตพืช และวางระบบน้ำ ทำแปลงสาธิตการทดสอบการปลูกพุทราในพื้นที่โครงการ จำนวน 130 ต้น ร่วมกับพืชผักต่าง ๆ ในพื้นที่เดียวกัน ทำการวางระบบน้ำในแปลงพุทราผลการปลูกพุทราเจริญเติบโตดี ชาวเขาสามารถที่จะนำไปเป็นตัวอย่างปลูกในพื้นที่ของตนเองได้ เพราะเป็นไม้ผลที่ค่อนข้างจะทนแล้งและให้ผลผลิตเร็ว
- ส่งเสริมการเลี้ยงไก่ เพื่อการบริโภคและจำหน่าย ทำให้เกษตรกรมีรายได้เสริมครอบครัวละ 1,400 บาท
- นำพันธุ์ปลานิล ปลาตะเพียน ปล่อยในแหล่งน้ำ จำนวน 40,000 ตัว เพื่อเป็นแหล่งอาหารโปรตีนในอนาคต
3.2 ด้านศิลปาชีพ
- ส่งเสริมอาชีพการทำเครื่องเงิน ปักผ้า และแกะสลักไม้
4. การพัฒนาสังคมและคุณภาพชีวิต
- ส่งเสริมการจัดสร้างส้วมทุกครัวเรือน
- ส่งเสริมกิจกรรมศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ปัจจุบันมีเด็กเล็กอยู่ในศูนย์ จำนวน 44 คน
- ปรับปรุงโรงเรียนบ้านอุดมทรัพย์ เพื่อเตรียมรองรับเด็กนักเรียนจากโครงการ บ้านเล็กในป่าใหญ่ ปัจจุบันมีเด็กชาวไทยภูเขา จำนวน 65 คน ได้ไปเรียนหนังสือที่โรงเรียน บ้านอุดมทรัพย์
- จัดสร้างศูนย์สงเคราะห์ราษฎรประจำหมู่บ้าน จำนวน 1 แห่ง ปัจจุบันมีเงินกองทุน จำนวน 35,100 บาท
- จัดตั้งธนาคารข้าว จำนวน 1 แห่ง มีเงินกองทุน 108,131 บาท มีผู้ใช้บริการ จำนวน 54 ราย
5. การพัฒนาป่าไม้ ได้ดำเนินการปลูกป่าบริเวณเขาน้ำอุ่น จำนวน 500 ไร่ ปลูกป่าชุมชนสำหรับเป็นไม้ฟืนไม้ใช้สอย จำนวน 100 ไร่ บำรุงรักษาแปลงสาธิต จำนวน 100 ไร่ เพาะหญ้าแฝก จำนวน 200,000 ต้น ป้องกันและควบคุมไฟป่าในพื้นที่โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ 20,000 ไร่ โครงการปลูกป่าชัยพัฒนา - แม่ฟ้าหลวง ดำเนินการปลูกเสริมป่าในพื้นที่ จำนวน 2,151 ไร่ โดยได้ดำเนินการปลูกตั้งแต่ปี 2538จนถึงปัจจุบัน สำหรับพันธุ์ไมัที่ปลูกประกอบด้วยมะค่าโมง ประดู่ ขะเจ๊าะ สะเดา มะกอกป่า ขี้เหล็ก เสลา ถ่อน สมอพิเภก สีเสียดแก่น โมกมัน กะบก ตีนเป็ด ชัยพฤกษ์ มะเกลือ เป็นต้น จากการติดตามผลการดำเนินงาน พบว่า ต้นไม้ที่ปลูกแล้ว มีอัตราการรอดตายสูง ถึงร้อยละ 90 และมีการเจริญเติบโตดีมาก กลุ่มประชาชนในท้องถิ่นได้รับการอบรมให้เป็นผู้รับผิดชอบในการเตรียมการปลูกป่า การดูแลบำรุงรักษาป่า ตลอดจนเป็นอาสาสมัครป้องกันไฟป่าให้เกิดความเข้าใจเห็นความสำคัญของ ป่าไม้ และมีการจัดยามดูแลพื้นที่ป่าทำให้ไม่มีไฟป่าเกิดขึ้น
6. การปลูกหญ้าแฝกเพื่อป้องกันการชะล้างพังทลายของดิน ได้ดำเนินการปลูกหญ้าแฝก จำนวน 188,129 ต้น ในพื้นที่รอบเนินศาลาที่ประทับทรงงาน จำนวน 8,129 ต้น ขอบสระน้ำประปาบ้านอุดมทรัพย์ จำนวน 30,000 ต้น ขอบแหล่งน้ำบ้านอุดมทรัพย์ จำนวน 100,000 ต้น และบริเวณขอบสระน้ำโรงเรียนบ้านอุดมทรัพย์ จำนวน 50,000 ต้น
7. งานอำนวยการและปฏิบัติการจิตวิทยาช่วยเหลือประชาชน ได้ดำเนินการประสานหน่วยงานที่ร่วมปฏิบัติงานในโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ ให้ดำเนินงาน ตามแผนงานของหน่วยที่ได้รับมอบหมาย และนำปัญหาข้อขัดข้องเสนอเพื่อหาแนวทางแก้ไข จัดเจ้าหน้าที่พยาบาลของหน่วยให้การดูแลรักษาราษฎรที่เจ็บป่วยอย่างต่อเนื่อง








โดย : นาง บุศรา รัชตะนาวิน, ripw klonglung prathumthanee 13180, วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2545

 5 
 เมื่อ: ตุลาคม 30, 2025, 06:49:20 pm 
เริ่มโดย apairach - กระทู้ล่าสุด โดย apairach
พสกนิกรชาวจังหวัดกำแพงเพชร ต่างน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เมื่อได้เห็นต้นสักใหญ่ที่ยังคงยืนตระหง่านและงดงาม ซึ่งเป็นต้นไม้ที่พระองค์ท่านได้ทรงปลูกไว้เป็นที่ระลึกเมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่
ภาพถ่ายที่ตั้งอยู่คู่กับต้นสัก แสดงให้เห็นถึงประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่าที่จารึกไว้ว่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงปลูกต้นสักเป็นที่ระลึก เมื่อครั้งตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (ในหลวงรัชกาลที่ 9) เสด็จมาบวงสรวงสังเวยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชที่ศาลากลางจังหวัด (ปัจจุบันคือที่ว่าการอำเภอเมืองกำแพงเพชรหลังเก่า) ซึ่งเป็นวันกองทัพไทย ทรงปลูกต้นสักหน้าศาลากลาง เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2510 โดยเป็นภาพถ่ายในอดีตที่สมเด็จพระพันปีหลวงทรงปลูกต้นไม้ด้วยพระองค์เอง ท่ามกลางคณะข้าราชการและประชาชนที่เฝ้ารับเสด็จอย่างใกล้ชิด
ต้นสักที่สมเด็จพระพันปีหลวงทรงปลูกในวันนั้น บัดนี้ได้เจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์เต็มที่ มีลำต้นสูงใหญ่ เป็นพยานถึงกาลเวลาที่ผ่านไปกว่า 58 ปี และยังคงเป็นเครื่องเตือนใจถึงความผูกพันระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์กับพสกนิกรชาวกำแพงเพชร และเป็นสัญลักษณ์แห่งความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติ
ต้นสักดังกล่าวตั้งอยู่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองกำแพงเพชรหลังเก่า (ซึ่งในอดีตเคยเป็นศาลากลางจังหวัด) ถือเป็น "ราชอนุสรณ์" ที่สำคัญยิ่งของจังหวัด ที่ชาวกำแพงเพชรจะร่วมกันดูแลรักษาให้คงอยู่คู่แผ่นดินสืบไป และเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์และธรรมชาติวิทยาที่สำคัญ “ต้นไม้ทรงปลูก” ที่แสดงถึงพระราชปณิธานของสมเด็จพระพันปีหลวง ในการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ของชาติ ซึ่งเป็นสิ่งที่พระองค์ท่านทรงให้ความสำคัญมาอย่างต่อเนื่อง
ด้านนายสันติ อภัยราช ผู้ทรงคุณวุฒิด้านวัฒนธรรมจังหวัดกำแพงเพชร เป็นหนึ่งในผู้ที่เคยรับเสด็จสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2538 เสด็จมาทรงงานที่โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ ยังคงซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณถึงพระองค์ท่านเมื่อครั้งนั้น ซึ่งเป็นวันที่ประทับอยู่ในความทรงจำของลูกหลานชาวไทยภูเขาและชาวบ้านในพื้นที่ตลอดไป ความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้นคือความปลื้มปิติอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯ อย่างใกล้ชิด พระองค์ทรงมีพระพักตร์ที่เปี่ยมด้วยความเมตตาและห่วงใย

 6 
 เมื่อ: ตุลาคม 30, 2025, 05:06:18 am 
เริ่มโดย apairach - กระทู้ล่าสุด โดย apairach
พสกนิกรชาวจังหวัดกำแพงเพชร ต่างน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เมื่อได้เห็นต้นสักใหญ่ที่ยังคงยืนตระหง่านและงดงาม ซึ่งเป็นต้นไม้ที่พระองค์ท่านได้ทรงปลูกไว้เป็นที่ระลึกเมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่
ภาพถ่ายที่ตั้งอยู่คู่กับต้นสัก แสดงให้เห็นถึงประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่าที่จารึกไว้ว่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงปลูกต้นสักเป็นที่ระลึก เมื่อครั้งตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (ในหลวงรัชกาลที่ 9) เสด็จมาบวงสรวงสังเวยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชที่ศาลากลางจังหวัด (ปัจจุบันคือที่ว่าการอำเภอเมืองกำแพงเพชรหลังเก่า) ซึ่งเป็นวันกองทัพไทย ทรงปลูกต้นสักหน้าศาลากลาง เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2510 โดยเป็นภาพถ่ายในอดีตที่สมเด็จพระพันปีหลวงทรงปลูกต้นไม้ด้วยพระองค์เอง ท่ามกลางคณะข้าราชการและประชาชนที่เฝ้ารับเสด็จอย่างใกล้ชิด
ต้นสักที่สมเด็จพระพันปีหลวงทรงปลูกในวันนั้น บัดนี้ได้เจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์เต็มที่ มีลำต้นสูงใหญ่ เป็นพยานถึงกาลเวลาที่ผ่านไปกว่า 58 ปี และยังคงเป็นเครื่องเตือนใจถึงความผูกพันระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์กับพสกนิกรชาวกำแพงเพชร และเป็นสัญลักษณ์แห่งความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติ
ต้นสักดังกล่าวตั้งอยู่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองกำแพงเพชรหลังเก่า (ซึ่งในอดีตเคยเป็นศาลากลางจังหวัด) ถือเป็น "ราชอนุสรณ์" ที่สำคัญยิ่งของจังหวัด ที่ชาวกำแพงเพชรจะร่วมกันดูแลรักษาให้คงอยู่คู่แผ่นดินสืบไป และเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์และธรรมชาติวิทยาที่สำคัญ “ต้นไม้ทรงปลูก” ที่แสดงถึงพระราชปณิธานของสมเด็จพระพันปีหลวง ในการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ของชาติ ซึ่งเป็นสิ่งที่พระองค์ท่านทรงให้ความสำคัญมาอย่างต่อเนื่อง
ด้านนายสันติ อภัยราช ผู้ทรงคุณวุฒิด้านวัฒนธรรมจังหวัดกำแพงเพชร เป็นหนึ่งในผู้ที่เคยรับเสด็จสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2538 เสด็จมาทรงงานที่โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ ยังคงซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณถึงพระองค์ท่านเมื่อครั้งนั้น ซึ่งเป็นวันที่ประทับอยู่ในความทรงจำของลูกหลานชาวไทยภูเขาและชาวบ้านในพื้นที่ตลอดไป ความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้นคือความปลื้มปิติอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯ อย่างใกล้ชิด พระองค์ทรงมีพระพักตร์ที่เปี่ยมด้วยความเมตตาและห่วงใย

 7 
 เมื่อ: ตุลาคม 18, 2025, 10:10:12 am 
เริ่มโดย apairach - กระทู้ล่าสุด โดย apairach
คนยอดคน ยอดฝีมือ ยอดความคิด  
มีชีวิต เพื่อคนอื่น อย่างหรรษา
คุณมงคล พลายชมพูนุท ยอดศรัทธา
ท่านก้าวหน้า ด้วยฝีมือ เลื่องลือนาม
 
 จากคุณครู กศน.ไม่ท้อถอย
ก้าวหน้าสู่ ผอออ น่าเกรงขาม
ได้ผอออ.เชี่ยวชาญ อย่างงดงาม
ท่านทำตาม อุดมการ ประสานใจ

 บุกงานกว่า  สามสิบปี แสนมีค่า
เพื่อชีวา คนด้อยโอกาส อย่างสดใส
จาก กอศอนอ. สู่สอกอรอ.เลิศวิไล
ท่านมงคล แสนยิ่งใหญ่ ในใจชน

กำลังรุ่ง สนุกงาน สำราญจิต
มีความคิด สร้างสรรค์ ไม่สับสน
ท่านลาออก ราชการ เทพไทดล
ชีวิตบน ความรักงาน อย่างมั่นคง

ตำแหน่งผอ.ออ.ลูกเสือ ที่ค่ายใหญ่
วชิราวุธ เกรียงไกร ดังประสงค์
ขอท่านได้ มีความสุข เสือณรงค์
ใดจำนง จงดังใจ ได้สมจินต์
 
ด้วยจิตคารวะ

สันติ อภัยราช
ประธานกรรมการสถานศึกษา สกร.อเมือง จ.กำแพงเพชร


 8 
 เมื่อ: ตุลาคม 16, 2025, 06:41:39 am 
เริ่มโดย apairach - กระทู้ล่าสุด โดย apairach
คุณยายเย้ย เกิดในสกุลรามสูต มีศักดิ์เป็นเหลนของพระยากำแพง เถื่อน เจ้าเมืองกำแพงเพชร ลำดับที่ 4 และเป็นหลานของพระมนตรีราชยกกระบัตร (กาง) เกิดประมาณปี พ.ศ. 2436 ในสมัยรัชกาลที่ 5  พ่อชื่อเยื้อน แม่ชื่อสาหร่าย มีพี่ชายต่างพ่อ เป็น ส.ส. คนแรกของจังหวัดตากคือ คุณพระประณาทกรณี (ถม อินทรสูต) มีน้องชายพ่อเดียวกันอีก 2 คน คือคุณหลวงสารศิลปวุฒิ (สายหยุด รามสูต) เป็นผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดแม่สอดคนแรก และ นายหยด รามสูต นายอำเภอเมืองตาก เป็นหนึ่งในขบวนการต่อต้านญี่ปุ่นและ เสรีไทยในจังหวัดตาก เมื่อในหลวงรัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสต้นเมืองกำแพงเพชร ระหว่างวันที่ 18-26 สิงหาคม พ.ศ. 2449 คุณยายเย้ยตามพ่อไปรับเสด็จที่ถนนราชดำเนิน สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้าสุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี ชี้หน้าพ่อเยื้อนของคุณยายเย้ย รับสั่งว่า”อ้าว ตาคนนี้ เมื่อครู่ เจออยู่ที่ศาล”  พ่อเยื้อนมีอาชีพเป็นทนายความและคุณยายเย้ยทำหน้าที่ช่วยเขียนคำฟ้องด้วยลายมือสวยงาม คุณยายเย้ยสมรสกับมหาช่วง ทองอยู่ มีธิดา 4 คน คือนางอำนวยเพ็ญ ยาวะประภาษ ครูภาษาไทย โรงเรียนวัดสุทธิวราราม นางสาวอัมพร ทองอยู่ ผู้ช่วยครูใหญ่ โรงเรียนอนุบาลกำแพงเพชร นางศศิธร สมจิตต์ ครูภาษาไทยโรงเรียนกำแพงเพชร  "วัชรราษฎร์วิทยาลัย" และนางสาวเอมอร ทองอยู่ ครูคณิตศาสตร์ โรงเรียนศรีอยุธยา  คุณยายเย้ย เป็นผู้หญิงเก่ง มีสิทธิมีเสียงอยู่ระดับหนึ่งในสังคม ไม่ได้เก็บเนื้อเก็บตัวทำอาหาร เย็บปักถักร้อย จัดการบ้านเรือน เพียงอย่างเดียว  แต่ได้รับการฝึกปรือจากพ่อแม่ให้มีความทันสมัย เล่าเรียนเขียนอ่านงานวิชาการจนลึกซึ้ง เป็นที่พึ่งของครอบครัว เป็นเสาหลักที่คอยประคับประคองให้ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข เป็นภาพสะท้อนของผู้หญิงที่เปี่ยมไปด้วยคุณธรรม จริยธรรม เคร่งครัดในวัฒนธรรมประเพณี  มีความสามารถรอบด้าน ทุกครั้งที่ลูกหลานไปเยี่ยม สิ่งแรกที่คุณยายเย้ยทำคือพาพวกเราไปสักการะศาลหลักเมืองกำแพงเพชร สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองกว่า 700 ปี เป็นที่นับถือและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจมาหลายชั่วอายุคน คุณยายเย้ยผ่านชีวิตห้าแผ่นดินด้วยความผาสุก ภาคภูมิใจในความสำเร็จของลูกหลานเหลน เป็นข้าราชการรับใช้สถาบันหลักของชาติด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และความจงรักภักดีในแวดวงที่ไม่ต่างจากบรรพบุรุษ นักปกครอง ผู้พิพากษา อัยการและครูบาอาจารย์  มีช่วงชีวิตอยู่ 2 ช่วงที่คุณยายเย้ยเผชิญมรสุมชีวิตจากภัยธรรมชาติและความประมาทของมนุษย์คือ นำ้ท่วมใหญ่ทั้งจังหวัดในปี พ.ศ. 2504 และไฟไหม้ครั้งใหญ่ เมื่อวันศุกร์ ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2506 ไหม้บ้านเรือนบนถนนเทศาทั้งสายประมาณร้อยหลังคาเรือน  บ้านไม้ใกล้แม่น้ำปิงของคุณยายเย้ยก็ไม่รอด อันตรธานไปชั่วพริบตา ยังมีสติพอที่จะเก็บข้าวของ เครี่องยศของบรรพบุรุษ หุ้มห่อด้วยผ้าปูที่นอนไปนั่งลี้ภัยที่วัดบาง คุณยายเย้ยจากลูกหลานเหลนไปเมื่อปี พ.ศ. 2534 สิริอายุ 98 ปี

 9 
 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2025, 11:35:31 am 
เริ่มโดย apairach - กระทู้ล่าสุด โดย apairach
เลี้ยงต้อนรับผู้เกษียณจากโรงพยาบาลกำแพงเพชร ปี๒๕๖๘ เข้าชมรมศิษย์เก่ารพ.กำแพงเพชร

ถึงเวลา เกษียณ พากเพียรยิ่ง                รักทุกสิ่ง โรงพยาบาล กำแพงหนอ
ขอต้อนรับ เข้าชมรม ใจเฝ้ารอ                พี่พี่ขอ  ต้อนรับ อย่างจับใจ

ชมรมศิษย์เก่าโรงพยาบาลกำแพงเพชร      งามก่องเก็จ เมืองกำแพง แสนสดใส
บุคลากร คนสำคัญ เกษียณไป                 ยังยิ่งใหญ่ ในหัวใจ ประชาชน

เราทำงาน ดูแล คนป่วยไข้                      หลายปีไป ยังห่่วง คิดสับสน
ถึงเวลา เข้าชมรม เราทุกคน                     สุขเหลือล้น ได้พัก ประจักษ์จริง

เพ็ญกมล กุลสุ รองผอออ                       ฝ่ายบริหาร ชำนาญพอ ในทุกสิ่ง
เป็นที่รัก เป็นที่หวัง ให้พึ่งพิง                    เป็นคนจริง เป็นที่รัก ที่พักใจ

กฤษณษ บำรุงศรี รองผอออ                     ฝ่ายบริหาร อย่างเพียงพอ ทุกเงื่อนไข
เธอคนเก่ง คนดี ในฤทัย                         เธอยิ่งใหญ่  ในหัวใจ  พะเน้าพะนอ

พรสุรีย์ คำเพ็ญ ใจเย็นนัก                       คนประจักษ์ หัวหน้า ห้องคลอดขอ
รักทารก รักเพื่อนพ้อง  รักเพียงพอ             เสียสละ มากหนอ อย่างพอดี

ยุคนธร จิตรเกื้อกูล แสนพูนเพิ่ม                ศัลยกรรม คนเดิม รักศักดิ์ศรี
นพมาศ ศรีเทียม  มีชีวี                          ดูแลที่ ภายนอก อย่างเจาะจง

วิไลลักษณ์ ลิ้มตระกูล พูนเพิ่มรัก              ผู้ป่วยมัก  พึ่งพา ดังประสงค์
อัญชลี ภานานันท์  จิตบรรจง                  เวชกรรม ดำรง  เนิ่นนานมา

ประเสริฐ พัฒนคูหะ เป็นชายหนุ่ม              ดูแลกลุ่ม พยาธิ  อย่างห่วงหา
นางสายฝน นพเกล้า ยอดวิชา                  พยาธิวิทยา  เธอใส่ใจ

จินตนา เขาเหิร ทันตกรรม                      เป็นผู้นำ การงาน เอาใจใส่
นางนวลนาถ พงษ์พูล แสนวิไล                เธอใส่ใจ ข้อมูล เกื้อกูลกัน

นางรัตนา ใจเที่ยงธรรม นำดวงจิต             มีชีวิต ใส่ใจ   แสนสร้างสรรค์
รัตนา  กระต่ายทอง ประชาสัมพันธ์            กล่าวจำนรรจ์ ไพเราะ ช่างเหมาะจริง

นายจรัญ สุริยะมณี ห้องจ่ายยา                ได้ศึกษา ถี่ถ้วน ยาทุกสิ่ง
นายสุขสรรค์ วงษ์ประดิษฐ์ ไม่ประวิง            ห้องฉุกเฉิน ช่วยได้จริง ผู้ป่วยมา

ชัชพงษ์ พันธุ์สังวรณ์ แสนอ่อนหวาน          ทดลองการ เริ่มต้น ใช้รักษา
นางระทวย สุ่มพัฒน์ นักพัฒนา                 เธอดูแลจรรยา น่ารักนาน

นางสุดใจ หลักชัย ดูผู้ป่วย                     พนักงานเปล คือผู้ช่วย ยอดประสาน
ฐานิตา อินทนานนท์ รักการงาน                ช่วยคนไข้ ทุกกาล มานานนม

นางประทุม ผ่องแผ้ว แสนแกล้วกล้า           ช่วยคนไข้ ด้วยจรรยา แสนเหมาะสม
สุภาพร นาคคุ้ม คนขำคม                        ประจำตึก นิยม ช่วยเหลือคน

ยี่สิบเอ็ด ท่านจากไป  วัยเกษียณ                งานถ่ายเปลี่ยน คนใหม่ ไม่สับสน
แสนชื่นชม ที่รักงาน สานนิยม                     ถอดหัวโขน ไม่โศกตรม ชื่นชมใจ

ชมรมเรา แสนรัก  ท่านหนักหนา                  เราอาสา รับน้องน้อง ที่ผ่องใส
เข้าชมรม  ขอต้อนรับ จับฤทัย                     สู่เส้นชัย ราชการ เบิกบานเอย            

 10 
 เมื่อ: กันยายน 30, 2025, 08:38:41 pm 
เริ่มโดย apairach - กระทู้ล่าสุด โดย apairach
คำนิยม
เด็กหญิงวฤทยา รักพ่วง
เพื่อการคัดเลือก เด็กและเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ  ประจำปี ๒๕๖๙
กำลังศึกษาอยู่ชั้น ประถมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนอนุบาลกำแพงเพชร
          ผมนายสันติ อภัยราช อดีตครูเชี่ยวชาญ (อาจารย์ ๓ ระดับ ๙) โรงเรียนวชิรปราการวิทยาคม จังหวัดกำแพงเพชร เคยดำรงตำแหน่งประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดกำแพงเพชร ๓สมัย ปัจจุบันเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ เกือบทุกหน่วยราชการในจังหวัดกำแพงเพชร
ได้มีโอกาสรู้จัก เด็กหญิงวฤทยา รักพ่วง มาประมาณ ๒ ปี ในการเป็นกรรมการประกวดบรรยายธรรม และสัมภาษณ์สดออกอากาศ ในรายการรักไทย รักถิ่น รักแผ่นดินกำแพงเพชร อีก ๒ครั้ง และมีโอกาสร่วมกิจกรรมกับโรงเรียนอนุบาลกำแพงเพชรและกิจกรรมระดับจังหวัดหลายครั้ง
มีโอกาสพบและได้เห็นความสามารถของ เด็กหญิงวฤทยา รักพ่วง ทุกครั้งในการทำกิจกรรมกับโรงเรียน และจังหวัด และยอมรับในความสามารถในทุกด้านของเธอ อย่างหาคนรุ่นเดียวกันจะเสมอเหมือนได้
   เด็กหญิงวฤทยา รักพ่วง เป็นเด็กที่มีความกตัญญู ต่อบิดามารดา ครูอาจารย์และผู้มีพระคุณอย่างยอดเยี่ยม ได้มีโอกาสสัมภาษณ์คุณพ่อคุณแม่ของเธอ และพูดคุยกับครูอาจารย์โรงเรียนอนุบาลกำแพงเพชร ทุกท่าน ยอมรับและชื่นชมในความกตัญญู กตเวที ของเธอเป็นอย่างที่สุด
     เด็กหญิงวฤทยา รักพ่วง มีความจงรักภักดี ต่อสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จากการสัมภาษณ์ และสังเกต การปฏิบัติตัวของเธอ ในทุกครั้ง ที่พบและสนทนา และพฤติกรรมมีความชัดเจน ได้อย่างดีที่สุด ตามแนวคิดของเด็กๆ
เด็กหญิงวฤทยา รักพ่วง มีความเลื่อมใสการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยการศึกษาพฤติกรรม สัมภาษณ์ พ่อแม่ และคุณครู ทุกท่าน มีความเห็นตรงกันว่า เธอมีพฤติกรรม มีความเลื่อมใสการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างชัดเจน

เด็กหญิงวฤทยา รักพ่วง เป็นเด็กที่มีความซื่อสัตย์ สุจริต ขยัน อดทน ประหยัด และรู้คุณค่าของเงิน จากการรู้จักพ่อแม่ เป็นอย่างดี รู้จักครูเกือบทุกคน ในโรงเรียน และเพื่อนๆของเธอ หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เธอเป็นเด็กดีมาก
เด็กหญิงวฤทยา รักพ่วง  มีจิตใจที่เมตตา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ต่อเพื่อนนักเรียนและผู้ด้อยโอกาส เสมอ เห็นได้จากเธอได้รับรางวัลและยกย่อง ทั้งระดับโรงเรียน ระดับจังหวัดและระดับชาติ ดีเด่นที่สุดในโรงเรียนอนุบาลกำแพงเพชร
เด็กหญิงวฤทยา รักพ่วง  เป็นเด็กที่เรียนเก่งมาก ระดับผลการเรียนดีเยี่ยมมาตลอดทุกปีการศึกษา เป็นที่ยอมรับชองทุกคน ทั้งที่รู้จักและไม่รู้จักเธอ จากผลรางวัลจากการเรียนดี จำนวนมากมาย
เด็กหญิงวฤทยา รักพ่วง  เป็นเด็กดีที่ใฝ่คุณธรรม น่ายกย่องมากที่สุด อีกคนหนึ่ง จากผลการที่ได้รับรางวัล ประเภทคุณธรรม ย่อมยืนยันได้เป็นอย่างดี
เด็กหญิงวฤทยา รักพ่วง จึงเป็นนักเรียนที่มีคุณสมบัติ เหมาะสมและครบถ้วน
เพื่อการคัดเลือก เด็กและเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ  ประจำปี ๒๕๖๙ ทุกประการ

                                                                           ลงชื่อ ........................................
                                                                                      ( นายสันติ อภัยราช)
                                                                ตำแหน่ง ผู้ทรงคุณวุฒิทางวัฒนธรรมจังหวัดกำแพงเพชร


 



หน้า: [1] 2 3 ... 10
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.11 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!