หัวข้อ: คอร์ปรับชัน คืออะไร บรรยายพิเศษ ผู้บริหารสถานศึกษา เสาร์ ๒๗ กค. ๖๒ โดม อนุบาล เริ่มหัวข้อโดย: apairach ที่ กรกฎาคม 26, 2019, 10:51:33 am คอร์ปรับชัน คืออะไร
บรรยายพิเศษ ผู้บริหารสถานศึกษา เสาร์ ๒๗ กค. ๖๒ โดม อนุบาลกำแพงเพชร รูปแบบและพฤติกรรมการคอร์รัปชัน แบ่งการทุจริตใน 3 ระดับ ดังนี้ 1 การทุจริตสีขาว คือ เป็นการกระทำที่ไม่เลวร้าย ไม่ได้ตั้งใจและไม่ได้คามคิดว่าจะเป็นการคอร์รัปชัน 2 การทุจริตสีเทา คือ เป็นการกระทำผิดที่คนบางกลุ่มยังีความเห็นแตกต่างออกไป เสียงส่วนใหญ่ยังมีความเห็นครุมเครือ แต่การกระทำไม่ผิดกฎหมาย 3 การทุจริตสีดำ คือ เป็นการกระทำที่ถูกตำหนิและเห็นสมควรว่าถูกลงโทษ เป็นการกระทำที่ผิดกำหมาย ผิดกระบวนการยุติธรรม หากสังคมไทยยังไม่สามารถหยุดยั้งเชื้อ "คอร์รัปชัน" นี้ได้ ประเทศไทยจะกลายเป็น หลุมดำ ที่ทำลายขีดความสามารถในการแข่งขันด้านจิตสำนึกกับประเทศอื่นๆ 1 ยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2560 – 2564) “ไม่ทนต่อการทุจริต 4 กลยุทธ์ คือ กลยุทธ์ที่ 1 ปรับฐาน ความคิดทุกช่วงวัย สถาบันการศึกษามีส่วนมากี่สุด กลยุทธ์ที่ 2 ส่งเสริมให้มีระบบและกระบวนการกล่อมเกลาทางสังคมเพื่อต้านทุจริต กลยุทธ์ที่ 3 ประยุกต์หลักปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียงเป็นเครื่องมือต้านทุจริต และ กลยุทธ์ที่ 4 เสริมพลังการมีส่วนร่วมของชุมชน (Community)และบูรณาการทุก ภาคส่วนเพื่อต่อต้านการทุจริต หัวข้อวิชา 4 วิชา ประกอบด้วย 1) การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม 2) ความอายและความไม่ทนต่อการทุจริต 3) STRONG : จิตพอเพียงต้าน 4) พลเมืองและความรับผิดชอบต่อสังคม การป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบของสภาปฏิรูป แห่งชาติ (๑) ยุทธศาสตร์การปลูกฝัง “คนไทย ไม่โกง”เพื่อปฏิรูปคนให้มีจิตสำนึก (๒) ยุทธศาสตร์การป้องกันด้วยการเสริมสร้างสังคม ธรรมาภิบาลเพื่อเป็นระบบป้องกันการทุจริตเสมือนการสร้างระบบภูมิต้านทานแก่ทุกภาคส่วนในสังคม (๓) ยุทธศาสตร์การปราบปราม เพื่อปฏิรูประบบและกระบวนการจัดการต ่อกรณีการทุจริต ได้จำแนกรูปแบบของการขัดกัน ระหว่างประโยชน์ส่วนตนและประโยชน์ส่วนรวม ออกเป็น ๗ รูปแบบ คือ ๑) การรับผลประโยชน์ต่างๆ (Accepting benefits) ๒) การทำธุรกิจกับตนเอง (Self - dealing) ๓) การทำงานหลังจากออกจากตำแหน่งหน้าที่สาธารณะหรือหลังเกษียณ ๔) การทำงานพิเศษ (Outside employment or moonlighting) ๕) การรู้ข้อมูลภายใน (Inside information) ๖) การใช้ทรัพย์สินของราชการเพื่อประโยชน์ธุรกิจ ๗) การนำโครงการสาธารณะลงในเขตเลือกตั้งเพื่อประโยชน์ทางการเมือง (Pork - barreling) ๘) การใช้ตำแหน่งหน้าที่แสวงหาประโยชน์แก่เครือญาติหรือพวกพ้อง (Nepotism) หรือ ๙) การใช้อิทธิพลเข้าไปมีผลต่อการตัดสินใจของเจ้าหน้าที่รัฐ หรือหน่วยงานของรัฐอื่น (influence) เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองหรือพวก ๆ “การปฏิบัติงานแบบใช้ระบบคิดฐานสิบ (Analog)” คือ การที่เจ้าหน้าที่ของรัฐยังมีระบบ การคิดที่ยังแยกเรื่องตำแหน่งหน้าที่กับเรื่องส่วนตนออกจากกันไม่ได้นำประโยชน์ส่วนตนและประโยชน์ ส่วนรวมมาปะปนกันไปหมดแยกแยะไม่ออกว่าสิ่งไหนคือประโยชน์ส่วนตนสิ่งไหนคือประโยชน์ส่วนรวม นำบุคลากรหรือทรัพย์สินของราชการมาใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตน เบียดบังราชการ เห็นแก่ประโยชน์ ส่วนตน เครือญาติหรือพวกพ้อง เหนือกว่าประโยชน์ของส่วนรวมหรือของหน่วยงาน จะคอยแสวงหา ประโยชน์จากตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีเกิดการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนตนและประโยชน์ส่วน รวม จะยึดประโยชน์ส่วนตนเป็นหลัก “การปฏิบัติงานแบบใช้ระบบคิดฐานสอง (Digital)” คือการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐมีระบบการคิด ที่สามารถแยกเรื่องตำแหน่งหน้าที่กับเรื่องส่วนตนออกจากกัน แยกออกอย่างชัดเจนว่าสิ่งไหนถูกสิ่งไหนผิด สิ่งไหนทำได้สิ่งไหนทำไม่ได้สิ่งไหนคือประโยชน์ส่วนตนสิ่งไหนคือประโยชน์ส่วนรวม ไม่นำมาปะปนกัน ไม่นำบุคลากรหรือทรัพย์สินของราชการมาใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตน ไม่เบียดบังราชการเห็นแก่ประโยชน์ ส่วนรวมหรือของหน่วยงานเหนือกว่าประโยชน์ของส่วนตน เครือญาติและพวกพ้องไม่แสวงหาประโยชน์ จากตำแหน่งหน้าที่ราชการไม่รับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากการ ปฏิบัติหน้าที่กรณีเกิดการขัดกัน ระหว่างประโยชน์ส่วนตนและ คำอธิบายความหมายของ “STRONG : จิตพอเพียงต้านทุจริต” ๑) S (sufficient) : ความพอเพียง ๒) T (transparent) : ความโปร่งใส ผู้นำ ผู้บริหาร บุคคลทุกระดับ องค์กรและชุมชนต้องปฏิบัติ งานบนฐานของความโปร่งใสตรวจสอบได้ดังนั้น จึงต้องมีและปฏิบัติตามหลักปฏิบัติระเบียบ ข้อปฏิบัติ กฎหมาย ด้านความโปร่งใส ซึ่งต้องให้ความรู้ความเข้าใจ(knowledge) และปลุกให้ตื่นรู้(realise) ๓) R (realise) : ความตื่นรู้ ๔) O (onward) : มุ่งไปข้างหน้า ๕) N (knowledge) : ความรู้ ๖) G (generosity) : ความเอื้ออาทร ปัจจัยอื่นที่ทำให้เกิดการคอร์รัปชัน เงินเดือนข้าราชการที่ต่ำ การขาดการศึกษาของประชาชน ช่องว่างทางรายได้ระหว่างชนชั้นต่างๆ การขาดความโปร่งใสในการบริหารราชการแผ่นดิน ความไม่มีเสถียรภาพทางการเมือง การไร้ซึ่งประชาธิปไตย การขาดเสรีภาพในการแสดงออก ระบบราชการที่เทอะทะ และ อำนาจแบบรวมศูนย์ การขจัดรากเหง้าการคอร์รัปชันแบบไทยๆ หน่วยงานต่างๆ ให้โปร่งใสไร้การคอร์รัปชัน เช่น ศาลปกครอง คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ผู้ตรวจการแผ่นดิน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน นอกจากนี้ รัฐธรรมนูญยังได้เพิ่มบทบาทแก่ NGOs และภาคประชาสังคมให้สามารถเข้ามาร่วมตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลและหน่วยงานต่างๆ ได้ง่ายขึ้นอีกด้วย จิตพอเพียง ต้าน ทุจริต ถ้าไม่ทุจริตในประเทศไทย สร้าง ม ราชภัฎ ได้ ๑๒๐๐ แห่ง สร้าง รพ.ใหญ่ ๑๗๗ แห่ง สถานีตำรวจ ๑๗๐๐๐ แห่ง รัฐสภา ๓๐ แห่ง รถไฟฟ้ารางคู่ ๑๒ สาย รถไฟฟ้า บี ที เอส ๒๐ สถานี มัธยมขนาดใหญ่ ๕๑๐๐ แห่ง โรงเรียนประถม ๕๐๐๐๐ แห่ง |