หัวข้อ: ประวัติสำนักสงฆ์คีรีเทพประสิทธิ์ สำนักสงฆ์คีรีเทพประสิทธิ์ เดิมใช้ชื่อ สถานปฏิบ เริ่มหัวข้อโดย: apairach ที่ กันยายน 18, 2025, 07:28:45 pm ประวัติสำนักสงฆ์คีรีเทพประสิทธิ์
สำนักสงฆ์คีรีเทพประสิทธิ์ เดิมใช้ชื่อ สถานปฏิบัติธรรมคีรีเทพประสิทธิ์ “คีรี แปลว่า ภูเขา” “เทพประสิทธิ์ หมายถึง เหล่าทวยเทพหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อนุญาตให้สร้างขึ้น “ ซึ่งเป็นสถานที่สับปายะเงีบยสงบเหมาะสำหรับพระสงฆ์และผู้ที่จะเข้ามาปฏิบัติธรรมอย่างมาก อยู่นอกหมู่บ้านชุมชน 2 กิโลเมตร เป็นภูเขา ชื่อว่า”เขาผาก “ที่ใช้ชื่อนี้เนื่องจากเดิมในบริเวณภูเขานี้ จะมีไม้ไผ่ “ชื่อว่าผาก”ขึ้นอยู่ที่บนภูเขาแห่งนี้เป็นจำนวนมาก พอถึงฤดูที่มีหน่อไม้ ชาวบ้านก็จะเข้ามาหาหน่อไม้ ไปต้มจิ้มน้ำพริกบ้าง บ้างก็เอาไปทำหน่อไม้ดอง ซึ่งหน่อไม้ชนิดนี้ จะมีความหวานและกอบมากหากนำไปปรุงอาหารก็จะได้รสชาติที่อร่อย แต่ในช่วง ปีพ.ศ.2515 ได้มีชาวบ้านมาแผ้วถางทำไร่ข้าวโพด จนทำให้ต้นไม้ใหญ่ที่ ขึ้นอยู่บนนี้ เช่น ไม้มะค่าโมง ไม้แดง ไม้ประดู่ ไม้ชิงชัน ไม้ตะแบก และไม้อื่นรวมถึงไม้ไผ่ เกือบสูญพันธุ์ พอถึงช่วงฤดูแล้งก็จะไฟป่าเข้ามาไหม้ทุกปี ต่อมาในปี 2538 สมัยนั้นผมเป็น อบต.ก็ได้ชวนผู้ใหญ่บ้านแลคณกรรมการหมู่บ้านเริ่มเข้ามอนุรักษ์ กรอบกับ ในปีนั้น มีคนถูกลวงมาฆ่าและทิ้งศพไว้ชาวบ้านมาพบกระดูก เลยจึงไม่ค่อยมี่ใครเข้ามา นอกจากคนที่มาล่าสัตว์เท่า ในปี 2539 จัดตั้งเป็นป่าพระราชเสาวนีย์ นั้นต่อมาในปี 2542 จึงได้กันเขต จัดตั้งเป็นป่าชุมชน ชื่อ” ป่าชุมชนบ้านมอสูง”ภูเขาแห่งนี้อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ(ชื่อป่าคลองขลุง - คลองสวนหมาก) ปัจจุบันได้ทำแนนวกันไฟรอบภูเขาเป็นระยะทางยาว 9 กิโลเมตร สำนักสงฆ์คีรีเทพประสิทธิ์ ก่อตั้งเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2558 โดยพระครูถาวรวชิรโสภณ (เดิมหลวงพ่อประเสริฐ ถาวโร เจ้าอาวาส วัดหนองใหญ่ศรีโสภณ โดยช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2558 ผมได้ถวายไม้ตะค้าม เพื่อนำไปทำเสาวิหาร ท่านได้นำพระและคณะสิทธิ์มาตัดไม้ หลังตัดต้นไม้เสร็จ ระหว่างรอรถมาบรรทุกไม้ ท่านบอกว่าได้ยินคนคุยกันอยู่บนยอดเขาเป็นจำนวนมาก ท่านจึงถามผมว่าใครขึ้นไปทำอะไรบนยอดเขา ผมตอบว่าไม่มีเพราะบนยอกเขาจะมีเครือเถาวัลย์ เป็นจำนวนมา หลวงพ่อท่านจึงขอขึ้นไปดูบนเขา พอท่านมาถึงตรงที่สร้างศาลาในปัจจุบันท่านยืนหลับตาหันหน้าขึ้นไปที่ยอดเขา ท่านบอกว่าเมื่อ 3 ปีที่แล้วท่านเคยนิมิตมาที่นี่ และมี่คนใส่ชุดขาวลงมากราบและขอให้มาช่วยบูรณะสถานที่ให้ด้วย หลวงพ่อจึงหันมาถามผมว่าหากหลวงพ่อจะเข้ามาก่อสร้างเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมจะได้ไหม ผมเลยตอบว่า ก็ดีเลยเพราะจะได้ช่วยอนุรักษ์ป่าไม้ และสัตว์ป่าด้วยเพราะยัง มีสัตว์ป่าที่ไกล้สูญพันธุ์อีกหลายชนิด เช่น สุนัขจิ้งจอก ตุ่น กระรอก ไก่ป่า อีเห็น กระต่าย และนกสวยงามอีกหลายชนิด หลวงพ่อท่านจึงกำหนดวันก่อสร้าง ในวันที่ 17 มีนาคม 2558 ก่อสร้างครั้งแรกได้สร้างเป็นกุฎีหญ้าคาขึ้นมา 3 หลังต่อมาได้สร้างศาลาทำบุญเป็นศาลาหญ้าคาเช่นกัน สร้างเสร็ฐทำบุญครั้งแรก ในวันที่ 13 เมษายน 2558 จากนั้นหลวงพ่อท่านได้อธิฐานจิตว่าหากหลวงพ่อจะมาอยู่จำพรรษาที่นี่ได้หลวงพ่อจะต้อง ก่อสร้างกุฎีในวันเดียว เสร็ฐ ปรากฏว่ากุฎีสร้างไม่เสร็ฐ ทั้งมี่ชาวบ้านและพระสงฆ์มาช่วยกันสร้าง หลังจากที่สร้างกุฎีไม่สำเร็จ หลวงพ่อท่านจึงจะไปก่อสร้างเจดีย์ 8 เหลี่ยมที่บนยอดเขา หลังจากบวงสรวงเรียบร้อย หลวงพ่อท่านก็ได้ให้ชาวบ้านและพระสงฆ์ขึ้นไปช่วยกันขุดดินเพื่อจะเทคาน โดยหลวงพ่อท่านได้ขนอุปกรณ์เช่นเหล็ก ไม้แบบ ขึ้นไปไว้เรียบร้อย ในช่วงนั้นตรงบริเวณจุดตรงกลางจะมี่ต้นไม้ขนาดผ่าศูนย์กลาง ประมาณ 10 เซนติเมตรขึ้นอยู่ 3 ต้น หลวงพ่อท่านจึงให้พระขุดเพื่อจะเอาต้นไม้ออกปรากฏว่าขุดลงไปประมาณ 40 เซนติเมตร ท่านไปพบหินซึ่งคล้ายทองคำ จำนวน 10 กว่าแท่ง ตอนนั้นอยู่ในช่วงตอนเพล หลวงพ่อท่านจึงได้หยุดขุดเพื่อ ฉันอาหารเพลที่บนยอดเขาใกล้ๆที่ขุดดิน หลังฉันเพลแล้วท่านนอนพักอยู่ปรากฏว่าท่านนิมิตว่า มีคนใส่ชุดขาวมาบอกว่าที่ดินที่ กำลังขุดอยู่นั้นช่วยกรบให้ด้วย จากนั้นหลวงพ่อท่านจึงไม่ได้ก่อสร้างต่อ และขนอุปกรณ์กลับวัดหนองใหญ่ศรีโสภณ และทิ้งให้พระวรุฒ วราโภ ตอนนั้นท่านบวชอยู่พรรษาแรก จำพรรษา อยู่กับพระอีก 2 รูป จำพรรษา อยู่ที่สำนักสงฆ์เป็นต้นมา …………………………………………………………………………… สิ่งที่เป็นปรากฏการเกิดขึ้นหลายครั้งที่ผมได้ประสบกับตนเอง ณ.สถานที่ นี้ ในปี พ.ศ.2559 ผมได้ทำหนังสือของบประมาณจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพื่อขุดอ่างเก็บน้ำ ที่บริเวณเขาผากแห่งนี้ เพื่อหาแหล่งน้ำไว้ให้พระได้ใช้ โดยได้รับงบประมาณมา 500,000 บาท ในขณะนั้นอยู่ในช่วงการปฏิวัติ ผมจึงได้ประสานงานติดต่อ ขออนุญาตกับ พต.วัฒนา ที่เป็นทหารมาประจำการอยู่ที่อำเภอเมืองกำแพงเพชรในขณะนั้น ท่านผู้พันวัฒนาบอกให้ดเนินการได้ ผมจึงได้ทำหนังสือแจ้งไปยังนายอำเภอ / สภ.เมือง พร้อมให้ทางผู้นับเหมาของ อบจ. เข้ามาดำเนินการขุดอ่างเก็บน้ำ ขณะที่กำลังดำเนินการขุด ในวันที่เท่าไรผมจำไม่ได้ พระที่อยูที่ สำนักสงฆ์ฯ มีโยมนิมนต์ไปฉันเพลที่บ้านมอสมบัติ ในเวลา ประมาณ เที่ยงวันผมได้รับโทรศัพท์ว่ามีตำรวจสันติบาล เข้ามาตรวจสอบพื้นที่ว่าชาวบ้านแจ้งมา ผมและแม่บ้านจึงรีบมาที่สำนักสงฆ์ หลังจากมาถึงก็มีตำรวจสันติบาลนายหนึ่งเข้ามาพูดคุยในทำนองเหมือนจะมาจับผิด ผมก็ได้ชี้แจงเรื่องโครงการให้ทราบ ครู่หนึ่งก็มีเจ้าหน้าสันติบาลอีกคนหนึ่งเดินออกมาจากในศาลา ชื่อ สมผล ศักดิ์สูง ปรากฏว่า รู้จักกันกับผมเพราะเคยไปสวดมนต์ธัมจักกัปวัตนสูติ ด้วยกันที่วัดบรมธาตุพระอารามหลวง เป็นประจำ หลังจากได้คุยกันไม่ถึง 3 นาที่ได้มีเสียงฆ้องดังขึ้นมาครั้งหนึ่ง ผมจึงก้มไปดู ในศาลาปรากว่าไม่มีไครอยู่ในศาลา จากนั้นก็ได้ยินเสียงฆ้องดังขึ้นอีกเป็นช่วงจังหวะที่ผมมองขึ้นไปบนยอดเขา เห็นฆ้องขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ปรามณ 50 เซนติเมตรกำลังแก่วงเหมือนคนกำลังตี แต่เสียงที่ได้ยินนั้นเป็นเสียงเหมือนฆ้องใหญ่เพาะเสียงกระหึ่มมากดังขึ้นเกือบ 10 ครั้งติดต่อกัน (ฆ้องลูกนี้ทางร้านไทยสว่างการค้าอยู่ตลาดศูนย์การค้ากำแพงเพชรถวายมา จึงได้เอาไปแขวนไว้บนยอดเขาเวลามีไครขึ้นถึงก็จะตีฆ้องเป็นสัญญาณ) ผมจึงบอกทุกคนว่าฆ้องดังเอง ทั้งสี่คนคือผมและแม่บ้าน พร้อมเจ้าหน้าที่ สันติบาลจึงได้มองขึ้นไปแต่สันติบาลทำท่าตกใจ ถามผมว่าทำไมฆ้องจึงดังเอง ตอนนั้นผมตอบแบบอารมณ์เสีย ว่าเทวดาเขาคงรำคานมั๊ง ทางสันติบาลจึงตอบว่าผมเข้าใจแล้ว ขอให้กำนันช่วยทำเป็นป้ายโครงการแล้วเอาไปปิดตรงที่ทิ้งดินให้ด้วย เขาจึงลากลับ ปี พ.ศ.2560 ช่วงเดือนมีนาคม ตอนนั้นกำลังทำพิธีหล่อองค์พระหน้าตัก 4 ศอก 9 นิ้วซึ่งเป็นพระประธานในวิหารเวลานี้ ตอนนั้น เวลา 09.00 น.ขณะที่กำลังทำพิธีบวงสรวงได้มีงูเหลือมตัวขนาดขวดน้ำเลื้อยมาเกือบถึงที่บวงสรวง ชาวบ้านเห็นจึงเอากล้องเข้าไปถ่ายรูป ปรากว่าถ่ายติดแต่ก้อนหินเท่านั้น ปี พ.ศ.2562 ในวันที่ 19 กันยายน 2562 รถยนต์ของผมที่จอดอยู่ที่ วัดช่วงตอนประมาณ 1 ทุ่มมีเสียงดังคล้ายคนเป่าสังข์แต่เสียงจะดังเย็นกว่า ดังขึ้นหลายครั้งจึงทราบเสียงดังมาจากรถ วันที่ 22 กันยาน 2562 วันนั้นมีพิธีทอดผ้าป่า จากคุณอำนวย เล็กวงค์เดิม มาถวายเพื่อมุงหลังคาวิหารแก้ว เวลา 06.00 น. เกิดปรากฏการมีแสงสว่างเกิดขึ้นที่โครงสร้างวิหารแก้วบนยอดเขา เหมือนลักษณะคล้ายคนเอาหลอดไฟนีออนไปติดที่ เสา/และเหล็กทุกตัวทำให้แสงสว่างขึ้นทั้งหลัง วันนั้นพอมองเห็นแล้วเกิดปิติน้ำตาไหลเลย แสงที่เกิดขึ้นนานประมาณ เกือบ 5 นาที เวลา06.00 น. เวลา 09.00 น. ผ วันที่ 30 กันยายน 2562 เวลา 17.00 น.เกิดปรากฏการ เป็นแสงสีทองสุกปลั่งที่บนวิหารแก้ว วันที่ 30 พ.ค. 2567 เวลา 17.00 น.เกิดปรากฏการแสงสว่าง คล้ายคนเอาหลอดไฟนีออนสี ไปติด ที่เหล็ก ผังแบบศาลาหลังที่กำลังปลูกในปัจจุบัน ภาพที่บันทึกได้ |