จดหมายเหตุวัฒนธรรมกำแพงเพชร โดย อาจารย์สันติ อภัยราช
พฤษภาคม 15, 2024, 03:56:50 am *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: จดหมายเหตุวัฒนธรรมกำแพงเพชร โดย อาจารย์สันติ อภัยราช
ยินดีต้อนรับสมาชิก และผู้เยื่ยมชมทุกๆท่าน
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องสั้น เรื่อง ความทรงจำ โดย นางสาวปิยนุช ประกอบกิจ  (อ่าน 2685 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
apairach
Administrator
Hero Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1417


ดูรายละเอียด อีเมล์
| |
« เมื่อ: สิงหาคม 26, 2012, 06:37:38 pm »

เรื่องความทรงจำ
แสงแดดยามบายสามยังคงความร้อนแรงไม่เปลี่ยนแปลง  ยามที่สายลมพัดผ่านมาก็นำเอาไอร้อนมากระทบใบหน้าที่เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อพราว ไหลย้อยลงมากระทบกับหลังมือที่วางอยู่บนหน้าขาทำให้ผมถูกดึงออกจากการมองทัศนียภาพข้าทางหันกลับมาเช็ดเหงื่อไคลที่ไหลย้อย
                        ? ที่นี้ยังเหมือนเดิม?  ผมคิดในใจ
ที่นี้คือบ้านเกิดของผม  มันยังคงความทุรกันดาร  แห้งแล้งเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนแปลง  ในสมัยที่ผมยังอาศัยอยู่ที่นี้มันก็ผ่านมาตั้งกว่าสิบปีแล้ว  ที่ผมจากที่นี้ไปความทุรกันดารก็ยังคงเหมือนเดิม หลังจากที่ผมได้ทุนไปเรียน  ต่อที่กรุงเทพฯคณะแพทยศาสตร์ในมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งของรัฐ  ผมก็ไม่ได้กลับมาที่นี้อีกเลย เพราะหลังเรียนจบผมก็ทำงานใช้ทุนอยู่ประมาณห้าปีและขอย้ายกลับมาที่นี้ ที่ที่ผมมีความผูกพันอย่างมาก คือสถานที่ที่มีความทรงจำมากมาย   เป็นสถานที่ทำให้ผมมีวันนี้ เป็นสถานที่ที่ผมสูญเสียบุคคลที่ผมรักไป  ความทรงจำนั้นยังคงฝังรากลึกอยู่ในใจของผม  ในดวงตาของผมยังฉายภาพเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นเมื่อครั้งยังวัยเยาว์
                       ?ไอ้จ้อยตื่น?  ผมสะดุ้งขึ้นด้วยของหลวงที่มาพร้อมกับไหวคู่กายฟาดลงที่ก้นของผม
                         ผมงัวเงียลุกขึ้นไปแปลงฟันที่ห้องน้ำก่อนที่จะต้องตามหลวงตาออกไปบิณฑบาต ผมเดินผ่านต้นไทรที่อยู่หน้ากุฏิของหลวงตา ซึ่งเป็นสถานที่ที่หลวงตาเจอผมนอนร้องเสียงดังอยู่  ตอนนั้นผมตัวเล็กมากเล็กกว่าเด็กที่เกิดใหม่ทั่วไป  หลวงตาจึงตั้งชื่อผมว่า?จ้อย?ตอนแรกหลวงตาคิดว่าผมคงไม่รอดแน่  เพราะว่าผมตัวเล็กมากแถมยังนอนตากน้ำค้างจนตัวเหลืองไปหมด จะพาไปโรงพยาบาลก็อยู่ไกลจากหมู่บ้านหลายสิบกิโล  มืดค่ำอย่างนี้คงไม่มีรถ แกเลยให้เด็กวัดไปตามยายแม้นหมอตำแยประจำหมู่บ้านมาช่วยดู?รอดหรือไม่รอดก็แล้วแต่เวรแต่กรรม?หลวงตาแก่ว่า
แต่ผมก็รอดมาได้ถึงทุกวันนี้ ?ผมคงทำบุญมามากเมื่อชาติทีแล้วผมถึงไม่ตาย? ผมพูดเมื่อหลวงตาเล่าจบ แล้วหลวงตาก็พูดว่า ?เออเอ็งมันมีบุญแต่ข้ามันมีกรรมถึงได้เกิดมาเจอคนดือด้านอย่างเอ็ง ไอ้จ้อย สอนเท่าไรไม่รู้จักจำ??จากนั้นท่านก็เทศน์อีกยาว ตอนนั้นผมได้แต่ฟังแต่ไม่ได้เก็บเอามาปฏิบัติตาม
ตอนนั้นผมมีชื่อเสียงดังไปทั่วหมู่บ้านแต่ถ้าพูดให้ถูกคงเป็นชื่อ?เสีย?มากกว่า ผมเป็นหัวโจกของเด็กในหมู่บ้านมักจะชวนเพื่อนไปลักมะม่วงในสวนของชาวบ้าน พอถูกจับได้ก็เจอหวายของหลวงตาหวดเสียจนหลังอาน แต่กลับไม่รู้สึกผิด จนหลวงตาเริ่มเอือมระอากับพฤติกรรมของผม
       ?ไอ้จ้อยถ้าเอ็งยังดื้อด้าน ขี้ลัก ขี้ขโมยข้าจะเอาเอ็งไปทิ้งที่ถนน?
ผมรู้ว่าหลวงตาไม่ทำจริงหลอกเพราะผมรู้ว่าหลวงตารักผม ถึงท่านไม่พูดหรือแสดงออกแต่ความรู้สึกทำให้ผมรู้ว่าหลวงตารักผม
ผมไม่เคยคิดที่จะอยากรู้ว่าพ่อแม่ที่แท้จริงของผมคือใคร ผมคิดแต่ว่าอยู่กับหลวงตาและเล่นสนุกไปวันๆอย่างนี้ก้มีความสุขดี  หลวงตาเคยถามผมว่า
?ไอ้จ้อยเอ๊ยโตขึ้นเอ็งอยากเป็นอะไร?
?อยากเป็นเด็กวัดและอยากอยู่กับหลวงตาอย่างนี้ตลอดไปครับ? ผมตอบไปด้วยความไร้เดียงสา
หลวงตาสบถลั่น ?บ๊ะ ไอ้เวรนี้ เอ็งจะเกาะข้ากินไปจนตายเลยหรอว่ะไอ้จ้อย มานี้มา?หลวงตากวักมือเรียดให้ผมขยับเขาไปใกล้ๆ ?ข้าจะบอกอะไรเอ็งให้นะไอ้จ้อย เอ็งต้องรู้จักหัดพึ่งตนเองก่อนที่จะพึ่งคนอื่น ข้าเนี้ยไม่ได้อยู่กับเอ็งไปตลอดชีวิตจะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้ ข้าไม่อยากให้เอ็งลำบากค่อยดุค่อยว่าเอ็งอยู่ทุกวันนี้ก็เพื่อให้เอ็งตั้งใจเรีนยใฝ่หาความรู้ไม่ใช้เล่นสนุกไปวันๆ เอ็งจำคำของข้าไว้ให้ดี เอ็งต้องหัดยืนด้วยขาของตนเองไม่ใช้ยืมขาคนอื่นมายืน?ผมได้แต่ฟังและไม่ได้เอามาคิดอีกเช่นเคย เพราะผมรู้ว่าอย่างไรหลวงตาก็ไม่ไปไหนเพราะหลวงตารักที่นี้มากท่านเคยบอกว่า?ข้าเกิดที่นี้และข้าก็จะตายที่นี้?
เสียเจ้าโต้งขันอยู่ใต้ถุนกุฏิปลุกให้ผมตื่นจาการนอนหลับใหล
?สายแล้วนี้หว่า ทำไหมหลวงตาไม่เห็นมาปลุก? ผมลุกขึ้นด้วยความงัวเงียแล้วเดินไปที่ห้งที่หลวงตาจำวัดอยู่แล้วเคาะประตุเรียกแต่เรียกเท่าไรก็ไม่มีเสียงตอบรับ ผมเลยผลักประตุเข้าไปปรากฏร่างผอมสูบของหลวงตานอนหายใจแผ่วเบาอยู่ผมเดินเข้าไปแล้วเอามืออิงที่หน้าผากที่ร้อนอย่างกับไฟ
?เฮ้ย มาช่วยหน่อยโว้ยหลวงตาไม่สบาย?ผมตะโกนเรียกเจ้าแก้วให้เข้ามาช่วยพาหลวงตาไปท่ารถหน้าหมู่บ้าน รอรถแล้ว รอรถเล่าก็ไม่เห็นที่ท่าว่ารถโดยสารประจำหมู่บ้านจะมา จนลุงดำที่ทำนาอยู่แถวนั้นตะโกนถามมา
?ไอ้จ้อยหลวงตาเป็นอะไรว่ะ?
?หลวงตาไม่สบายตัวร้อนจี๋เลยลุง?
?ตายห่า?ตาดำสบถลั่น ?เมื่อวานข้าเห็นรถมันเสียงมันพึ่งเอาไปซ่อมเมื่อเช้านี้ วันนี้คงไม่มีรถไปหลอกว่ะไอ้จ้อย? ผมรู้สึกกระวนกระวาย ทำไม่รถบ้านั้นต้องมาเสียวันนี้ด้วยว่ะ
?แล้วจะทำอย่างไรดีลุงดำ?ผมหันไปถามลุงดำ
?เอ็งสองคนพาหลวงตาไปที่กุฏิก่อนแล้วข้าจะไปตามยายแม้นไปดูให้?
?ยายแม้นแก่เป็นหมอตำแยไม่ใช้หรอลุงดำ?ไอ้แก้วถามขึ้น?
เอาเถอะแก้ขัดไปก่อนเพื่อแกจะรักษาได้?ผมไม่คิดว่ายายแม้นจะรักษาหลวงตาได้แต่ตอนนี้ไม่รู้จะทำอย่างไรผมเลยทำตามที่ลุงว่า ผมกับเจ้าแก้วพาหลวงตาไปที่กุฏิได้สักพักหนึ่งยายแม้นก็พาฟันดำๆและตากร้ายายคู่ชีพเดินขึ้นมาบนกุฏิ
แกถามอาการหลวงตาจากผมแล้วแกก็ให้ห่อยาผมไปต้มให้หลวงตา ผมได้ยินแกพูดเบาๆว่า
?คืนนี้ท่าจะไม่รอด?
ผมนำยาไปต้มด้วยสมองที่ตื้อ ความรู้โหวงเหวงใจอย่างไรบอกไม่ถูก แล้วน้ำใสๆก็ไหลออกมาจากดวงตาอย่างไม่รู้ตัวลำคอแห้งผาก ผมกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคออย่างยากลำบาก เสียงยายแม้นยังคงก้องในหู ผมเดินนำยาไปให้หลวงตาในห้อง ผมเห็นร่างผอมสูบ ปากซีดเขียวนอนสงบนิ่งอยู่ทำให้ผมร้องไห้นักขึ้นกว่าเก่า ผมปลุกหลวงตาขึ้นมากินยา เปลือกตากระพริบน้อยๆบอกว่าท่านยังคงรู้สึกตัวผมให้ท่านดื่มยาจนหมด แล้วมืออันสั้นเท่าของท่านค่อยๆเอื้อมมือมาจับมือผมไว้แน่น แล้วมือที่เหยี่วย่นนั้นคอยๆคายออกจากมือผมแล้วหนังตาของหลวงตาก็ค่อยๆปิดลงอย่างช้าๆผมสะอื้นหนักขึ้ในความเงียบสงบหูของผมได้ยินแต่เสียงสะอื้นและคำสอนของหลวงตาก้องอยู่ในหู
ผมพูดด้วยเสียงปนสะอื้น?ผมสัญญาครับหลวงตาว่าผมจะทำคำสั่งสอนของหลวงตา ผมของสัญญา?
ผมตื้นจากภวังค์เมื่อคนเก็บตั๋วรถตะโกนให้หยุดรถหน้าสถานีอนามัยประจำหมู่บ้าน ผมก้าวลงจากรถโดยสาร แล้วรถโดยสารก็ค่อยๆเคลื่อนตัวออกไปช้าๆทิ้งไว้แต่ฝุ่นสีแดง
ผมเงยหน้าขึ้นมองสถานีอนามัยของหมู่บ้าน ซึ่งเป็นสถานีอนามัยแห่งแรกและแห่งเดียวของที่นี้พึ่งจะสร้างเสร็จใหม่ๆทั้งที่มันควรมีมาตั้งแต่สิบกว่าปีที่แล้วก็ตาม





นางสาวปิยนุช   ประกอบกิจ  นักศึกษาปีที่ ๒
คณะครุศาสตร์ โปรแกรม วิชาภาษาไทย ห้อง ๒๘
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.11 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!