จดหมายเหตุวัฒนธรรมกำแพงเพชร โดย อาจารย์สันติ อภัยราช

หมวดหมู่ทั่วไป => จดหมายเหตุวัฒนธรรมกำแพงเพชร => ข้อความที่เริ่มโดย: apairach ที่ สิงหาคม 26, 2012, 12:31:29 pm



หัวข้อ: เรื่องสั้น เรื่อง ล้มลุก...คุกคลาน (โดย นายเอกชัย แสงอาวุธ โปรแกรมวิชา ภาษาไทย คณะครุศาสตร์)
เริ่มหัวข้อโดย: apairach ที่ สิงหาคม 26, 2012, 12:31:29 pm
เสียงไก่ขันเจี๊ยวแจ้วยามเช้าตรู่ มีสามีภรรยาครอบครัวหนึ่ง อาศัยอยู่ในชุมชนที่ไม่ใหญ่นัก มีบ้านไม้ยกพื้นหลังคาสังกะสีเก่าๆ สีน้ำตาล หลังบ้านเป็นภูเขาที่มีความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพันธ์ไม้ต่างๆ บริเวณรอบบ้านมีต้นไม้น้อยใหญ่กระจายทั่วทั้งบริเวณบ้านลมก็พัดเอื่อยๆ  ? โอ๊ย! โอ๊ย ! พี่พงศ์ หนูปวดท้อง โอ๊ย! โอ๊ย!? พงศ์ซึ่งเป็นสามีของเธอก็ได้พาไปหาหมอที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง พอไปโรงพยาบาลได้นำภรรยาของเขาไปเข้าห้องคลอด พอหมอเข้าไปได้สักครู่ หมอก็ได้เดินออกมา ?สามีคนไข้หรือป่าวครับ? พงศ์ตอบ ?ครับใช่ครับ? ?คือคุณได้ลูกผู้ชายนะครับ? หลังจากวันนั้นเด็กน้อยคนนี้ก็เติบโตพร้อมที่จะได้เข้ารับการศึกษาอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งวันหนึ่งมีเพื่อนบ้านดูถูกพงศ์ว่า ?มีลูกผู้ชายเอาดียาก? หลังจากวันนั้นพงศ์ก็ไม่เคยบอกใครนอกจากภรรยาของเขา เพชร
   พงศ์ตั้งใจทำมาหากินอย่างสุจริตเหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ พงศ์มีอาชีพเกษตรกร ทำไร ทำนา เพื่อที่จะนำเงินให้ลูกเรียนหนังสือช่วงนี้เป็นช่วงที่ต้องเตรียมเก็บเงินเพื่อที่จะต้องเตรียมไปเรียนต่อในรั้วมหาวิทยาลัย ราวๆ เดือนมีนาคม เพชรได้ล้มหมอนนอนเสื่อ จนกระทั่งสิ้นบุญจาก พงศ์กับภูมิไปอย่างสงบ จากการที่เพชรผู้เป็นแม่ จากไปจากบ้านทำให้บ้านนี้เงียบสงัดจนบางที่คิดว่าไม่มีใครอาศัยอยู่บ้านนี้ ภูมิผู้เป็นลูกยังทำใจไม่ได้ก็เลยคิดว่าเราน่าจะหยุดเรียนเพราะไม่อยากให้พ่อลำบากและทำงานหนัก
   ในช่วงปิดภาคเรียนนั้นยังเป็นช่วงที่ทุกข์โศก อีกอย่างที่ภูมิทำคือดื่มเหล้าทุกวัน หวังว่าเหล้าจะช่วยทำให้ความเศร้ามันจางหายไป แต่ก็ยังไม่หาย ภูมิจึงตัดสินใจไปเที่ยวกับเพื่อนรุ่นเดียวกันในหมู่บ้านทุกวันเพื่อที่ทำให้หายเสียใจ เขาหวังว่ากินเหล้ากับเที่ยวบางทีอาจจะดีขึ้นเพราะมันสนุกทำให้หายชั่วครู่ชั่วยามหลังจากที่ประพฤติตัวแบบนี้มาสองสามเดือน พ่อเริ่มเข้ามาตักเตือนด้วยคำพูดเบาๆ แต่ภูมิก็ยังไม่ฟัง มาวันหนึ่งพ่อบอกเตือนอีกเหมือนเคยแต่คราวนี้ถ้าภูมิไม่สำนึกก็คงจะไม่รู้จะทำอย่าไรแล้วพ่อนึก พ่อจึงงัดไม้ตายออกมาพูดประโยคแรกที่พ่อพูดแทบจะกลั้นน้ำตาไม่ไหว  ?แม่เขารักลูกมากนะ ถึงแม่จะไปสบายแล้ว แต่ความหวังของแม่ยังอยู่ คืออยากให้ลูกเรียนจบสูงๆ พ่อกับแม่มีลูกแค่คนเดียวนะ พ่อก็ไม่มีอะไรจะให้นอกจากให้ลูกไปเรียนเอาความรู้ใส่ตัวจะได้สบายในอนาคต? พอภูมิได้ยินเช่นนั้นแล้วก็รู้สึก กินใจภูมิมากจนภูมิกลั้นไว้ไม่ไหวน้ำตาไหลนอง ด้วยสีหน้าที่รู้สึกผิดที่ประพฤติตัวแบบนี้พร้อมกับก้มหน้าคุกเข่าลงกราบเท้าพ่ออย่างช้าๆ จากนั้นพ่อก็ค่อยๆนั่งลงประคองภูมิขึ้นมาพร้อมน้ำตาของคำว่าหวังดีและผิดหวังที่เห็นภูมิเป็นคนแบบนี้แต่พ่อก็ไม่เคยได้พูดเพียงแค่คิดไว้ในใจ แต่อีกใจก็รู้สึกดีใจอยู่นิดๆ เพราะลูกกำลังสำนึกในสิ่งที่พ่อบอกกล่าว
   หลังจากวันนั้นมาภูมิเริ่มประพฤติตัวดีขึ้นมากจากหลังมือเป็นหน้ามือ ก่อนวันรายงานตัวนักศึกษาหนึ่งอาทิตย์ ภูมิตัดสินใจบอกพ่อเขาว่า ?พ่อครับผมขอเรียนต่อนะครับ? พ่อบอกว่า ?ตามใจลูก? พร้อมกับส่งยิ้มพร้อมกับลูบหัวเบาๆ อย่างอ่อนโยน ด้วยความดีใจ แต่ในใจพ่อทุกข์อยู่เรื่องหนึ่งพ่อไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายค่าเทอมและค่าอุปกรณ์ต่างๆ พ่อจึงตัดสินใจนำที่ดินไปจำนองกับธนาคารและจะจ่ายใช้หนี้คืนเป็นรายปี เวลาผ่านไปจากเด็กมัธยมที่เกเร ได้ย่างก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิยาลัยแห่งหนึ่งโดยเลือกเรียนครุศาสตร์ ภาษาไทย มองดูรอบๆตัวเรา นี่เราไม่ใช่เด็กแล้วนี่เขาจึงตัดสินใจตั้งใจเรียนและวางแผนอนาคต แต่เผอิญในปีแรกของการเรียน ฝนฟ้าก็ไม่ค่อยจะตก พอตกก็ตกจนน้ำท่วม จนทำให้ไร่นา ของพ่อได้รับความเสียหายจนทำให้ทางบ้านของภูมิเองเกิดความขัดสนในเรื่องค่าใช้จ่าย พ่อจึงตัดสินขายที่ดินครึ่งหนึ่งไปเพื่อที่นำเงินมาใช้จ่าย ภูมิเห็นเช่นนี้เขาจึงคิดว่าเราน่าจะหารายได้จากเวลาว่างมาหารายได้จากการทำงาน เสิร์ฟอาหารในร้านแห่งหนึ่งอยู่ใกล้กับที่พักของเขา และเปลี่ยนงานอีกมากมายจนทำให้เขามีเงินพอที่จะเรียนโดยที่แบ่งเบาภาระ พ่อได้ส่วนหนึ่ง ภูมิเขาทำแบบนี้จนเรียนจบมาเป็นอาจารย์ มาสอนอยู่ที่โรงเรียนใกล้ๆบ้าน จะได้มีเวลาค่อยดูแลพ่อ เพราะพ่ออายุมากขึ้นทุกวันวันแรกที่ภูมิเรียนจบภูมิบอกกับพ่อว่า ?พ่อครับผมลบคำสบประหมาดได้แล้วนะพ่อ ขอบคุณนะครับพ่อสำหรับทุกอย่าง ต่อไปนี้พ่อไม่ต้องดูแลผมแล้วนะแต่ผมจะดูแลพ่อเอง ผมรักพ่อครับ?