หัวข้อ: ๑๗ มีนาคม วันนายขนมต้ม สามัญชน ไพร่ เชลยศึก คนแรกที่ประวัติศาสตร์บันทึกไว้อย่างให้เกียรต เริ่มหัวข้อโดย: apairach ที่ มีนาคม 16, 2012, 06:16:16 pm ๑๗ มีนาคม วันนายขนมต้ม สามัญชน ไพร่ เชลยศึกคนแรกที่ประวัติศาสตร์บันทึกไว้อย่างให้เกียรติ (http://upic.me/i/8o/0images3.jpg) (http://upic.me/show/33866402) อังวะธิราชเจ้า พุกาม นายขนมต้ม เป็นไพร่ สามัญชน และเชลยศึก คนแรก ที่ประวัติศาสตร์ไทย และประวัติศาสตร์พม่า บันทึกและยกย่องไว้ นับว่าหาได้ยากยิ่ง ที่สามัญชน จะได้ถูกบันทึกไว้ในพงศาวดาร ดังความว่า ฉลองธานตุร่างกุ้งงาม ครึกครื้น ขนมต้มชื่อชาวสยาม ตนหนึ่ง ขันต่อยตีพวกพื้น ม่านรู้ครูมวยฯ ฉับฉวยชกฉกช้ำ ฉุบฉับ โถมทุบทุ่มถองทับ ถีบท้าว เตะตีต่อยตุบตับ ตบตัก หมดหมู่เมงมอญม้าว ม่านเมื้อหมางเมินฯ เกินสิบต่อยบ่ซ้ำ สองยก ม่านกษัตริย์หัตถ์ลูบอก โอษฐ์พร้อง ชาติสยามผิยามตก ไร้ยาก ไฉนนา ยังแต่ตัวยังต้อง ห่อนได้ภัยมีฯ ฉากนี้สมพากย์พร้อง เพรงสุภา- ษิตเฮย เคยปากหากพูดมา มากครั้ง ?กรุงศรีอยุธยา ไป่ขาด ดีเลย? รูปฉากพากย์ติดตั้ง ต่อให้เห็นจริงฯ เมื่อพระเจ้ามังระโปรดให้ปฏิสังขรณ์และก่อเสริมพระเจดีย์ชเวดากองในเมืองย่างกุ้งเป็นการใหญ่นั้น ครั้นงานสำเร็จลงในปี พ.ศ. 2317 พอถึงวันฤกษ์งามยามดี คือวันที่ 17 มีนาคม จึงโปรดให้ทำพิธียกฉัตรใหญ่ขึ้นไว้บนยอดเป็นปฐมฤกษ์ แล้วได้ทรงเปิดงานมหกรรมฉลองอย่างมโหฬาร ขุนนางพม่ากราบทูลว่า "นักมวยไทยมีฝีมือดียิ่งนัก" พระเจ้ามังระจึงตรัสสั่งให้เอาตัวนายขนมต้ม นักมวยดีมีฝีมือตั้งแต่ครั้งกรุงเก่ามาถวาย พระเจ้ามังระได้ให้จัดมวยพม่าเข้ามาเปรียบกับนายขนมต้ม โดยจัดให้ชกต่อหน้าพระที่นั่ง ปรากฏว่านายขนมต้มชกพม่าไม่ทันถึงยกก็แพ้ถึงเก้าคนสิบคนก็สู้ไม่ได้ พระเจ้ามังระทอดพระเนตรยกพระหัตถ์ตบพระอุระตรัสสรรเสริญนายขนมต้มว่า ตรัสชม นายขนมต้มว่า คนไทยนี้มีพิษสงรอบตัว แม้มือเปล่ายังเอาชนะคนได้ถึงเก้าคนสิบคน นี่หากว่ามีเจ้านายดี มีความสามัคคีกัน ไม่แตกสามัคคี และไม่เห็นแก่ความสุขส่วนตัว และโคตรตระกูลแล้ว ไฉนเลยกรุงศรีอยุธยาจะเสียทีแก่ข้าศึก ดั่งที่เห็นอยู่ทุกวันนี้ พระเจ้ามังระทรงให้รางวัลแก่ขนมต้ม เป็นนางสนมถึงสองคนเพื่อไปทำเมีย แต่ขนมต้มปฏิเสธและทูลขอให้พระเจ้ามังระ ทรงพระราชทานอภัยโทษแก่คนไทยได้เป็นอิสระ ไม่ตกเป็นเชลยของพม่าอีกต่อไป พระเจ้ามังระเป็นกษัตริย์ตรัสแล้วไม่คืนคำ ทรงปลดปล่อยคนไทยเป็นอิสระจากการตกเป็นเชลยศึกของพม่า นายขนมต้ม เกิดวันอังคาร เดือนยี่ ปีมะเมีย พ.ศ. ๒๒๙๓ ในสมัยพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ ครั้งกรุงศรีอยุธยา ที่บ้านกุ่ม (ปัจจุบันคือ ตำบลบ้านกุ่ม อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา) บิดาชื่อนายเกิด มารดาชื่อนางอี่ มีพี่น้อง ๒ คนคือ ๑.นางเอื้อย ถูกพม่าฆ่าตายเมื่อเล็กๆ ๒.นายขนมต้ม นายขนมต้มต้องอยู่วัดตั้งแต่เล็กๆ อายุประมาณ ๑๐ ขวบ พ่อแม่ถูกพม่าฆ่าตายหมด และเริ่มฝึกวิชามวยไทย ตั้งแต่เริ่มแตกหนุ่ม จนในสมัยพระเจ้าเอกทัศน์ กรุงศรีอยุธยาต้องเสียแก่พม่า จึงถูกกวาดต้อนไปเมืองพม่า (http://upic.me/i/l2/0images4.jpg) (http://upic.me/show/33866578) จากเกียรติยศของ นายขนมต้ม ทางราชการจึงจัดสร้างอนุสาวรีย์ นายขนมต้มขึ้น ดังมีรายละเอียดังต่อไปนี้ อนุสาวรีย์นายขนมต้มแห่งนี้ชมรมตนบ้านกุ่มบางบาลลูกหลานนายขนมต้ม ได้ก่อตั้งขึ้นเพื่อจัดสร้างอนุสาวรีย์นายขนมต้มและศูนย์การเรียนรู้ชุมชนประจำตำบล ที่เป็นถิ่นกำเนินของนายขนมต้มที่ตำบลบ้านกุ่ม อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยนายขนมต้มเป็นนักมวยไทยชื่อดังสมัยปลายกรุงศรีอยุธยา ที่เคยไปสร้างชื้อถึงประเทศพม่าและมีชื่อเสียงในแผ่นดินกรุงศรีอยุธยา ในเรื่องแม่ไม้มวยไทย และความจงรักภัคดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ซึ่งปัจจุบันชาวตำบลบ้านกุ่มที่ถือเป็นลูกหลานนายขนมต้ม มีประสงค์ต้องการรำลึกเกียรติประวัติของนายขนมต้มและเผยแพร่เกียรติประวัติและแม่ไม้มวยไทยให้เป็นที่รู้จัก โดยได้ร่วมกันจัดสร้างรูปหล่อโลหะขนาด 2 เท่าเสร็จเรียบร้อยแล้วและนำประดิษฐานบนแท่นอนุสาวรีย์ที่หน้าโรงเรียนวัดจุฬามณี โดยจะมีการทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการพร้อมจัดกิจกรรมไว้ครูมวยไทย การส่งเสริมการละเล่นแบบไทย การแข่งขันมวยไทย การแสดงฟันดาบ การทำอาหารพื้นเมือง วันที่ 16 มี.ค. นายวิชัย ศรีขวัญ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดอนุสาวรีย์นายขนมต้ม ที่ลานกิจกรรมหน้าโรงเรียนวัดจุฬามณี ตำบลบ้านกุ่ม อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีนักมวยไทยชื่อดังในอดีตเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก เช่น อภิเดช ศิษย์หิรัญ ทั้งนี้ยังเป็นกิจกรรมเพื่อฉลองวันนายขนมต้มที่ตรงกับวันที่ 17 มีนาคมของทุกปี เหตุการณ์ที่นายขนมต้มชกชนะนักมวยพม่า เมื่อวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2317 จึงถือว่าวันที่ 17 มีนาคม ของทุกปีเป็นวันเกียรติประวัติของนักมวยไทย ถือเป็น วันมวยไทย ชาวพระนครศรีอยุธยาได้พร้อมใจกันสร้าง "อนุสาวรีย์นายขนมต้ม" ไว้ที่บริเวณสนามกีฬากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายขนมต้มนับว่าเป็นสามัญชน ไพร่ เชลยศึก คนแรกที่ประวัติศาสตร์บันทึกไว้อย่างให้เกียรติ จึงควรได้รับการคารวะ จากคนไทยทุกคน เนื่องในวัน นายขนมต้ม ๑๗ มีนาคม สันติ อภัยราช |