บทความ
เรื่อง พระพุทธเจ้าหลวงเสด็จประพาสต้นกำแพงเพชร
คำกล่าวที่ว่า ?ผู้ใดที่มานครชุม คือ พวกเดนตาย?
พระพุทธเจ้าหลวง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 พระองค์ทรงเสด็จประพาสต้นเพื่อเยี่ยมราษฎรของพระองค์ อย่างสามัญชนธรรมดา โดยมิให้ประชาชนรับรู้และไม่มีการจัดเตรียมการ ต่าง ๆไว้รอรับเสด็จ เมื่อปี พ.ศ. 2447 ถือเป็นการเสด็จประพาสต้นเป็นครั้งแรกของพระพุทธเจ้าหลวง และมาในปี พ.ศ.2449 พระพุทธเจ้าหลวงทรงใช้ระยะเวลาแรมเดือนในการเสด็จประพาสต้นครั้งที่สอง และเช่นเดียวกันการเสด็จประพาสต้นทุกครั้งผู้ร่วมขบวนเสด็จจะต้องปิดข่าวให้มิดชิดตามพระราชประสงค์
จากคำกล่าวที่ว่า ?ผู้ใดที่มานครชุม คือ พวกเดนตาย? คำกล่าวนี้พระพุทธเจ้าหลวงทรงพระราชดำริที่จะลบคำสมประมาทของราษฎร ทั้งแสดงให้เห็นว่า พระเจ้าแผ่นดินผู้ยิ่งใหญ่ยังเสด็จมานครชุมได้ และเสด็จกลับได้อย่างปลอดภัยด้วยเช่นกัน เพราะคนสมัยก่อนเชื่อว่าผู้ใดที่มานครชุมจะไม่มีชีวิตกลับไปอย่างเด็ดขาด อาจจะด้วยเป็นไข้ป่าตาย
ขบวนเสด็จของพระพุทธเจ้าหลวงใช้เส้นทางชลมารคผ่านเส้นทางภาคเหนือตามลำน้ำเจ้าพระยาจากกรุงเทพมหานครฯ ขึ้นไปยังลำน้ำปิงจังหวัดกำแพงเพชร พระพุทธเจ้าหลวงเสด็จออกจากพระราชวังดุสิตตั้งแต่ วันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ.2449 ล่องเรือผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาจนถึงบ้านแดน เขาหน่อ ซึ่งเป็นเขตรอยต่อระหว่างจังหวัดกำแพงเพชรกับจังหวัดนครสวรรค์ ขบวนเสด็จของพระพุทธเจ้าหลวงเข้าสู่ตัวเมืองกำแพงเพชรในวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ.2449 ทรงประทับแรมที่ พลับพลา บริเวณวัดชีนางเกา ซึ่งปัจจุบันเป็นบ้านพักของรองผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร พระองค์เสด็จมาถึงอำเภอขาณุวรลักษบุรี เพื่อทอดพระเนตรวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎรและเพื่อเสด็จทอดพระเนตรคนผมแดงเมืองขาณุ แต่ในการเสด็จประพาสต้นครั้งนี้พระพุทธเจ้าหลวงทรงทอดพระเนตรชมโบราณสถานต่าง ๆ ของเมืองไตรตรึงษ์อย่างละเอียด ต่อมาในวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ.2449 พระพุทธเจ้าหลวงได้เสด็จประพาสต้นตอนเหนือของกำแพงเพชรเก่า เพื่อทอดพระเนตรโบราณสถาน วัดวาอาราม และเสด็จเข้าไปในวัดพระแก้ว ต่อไปจนถึงวัดช้างเผือก ไปที่ศาลหลักเมือง แล้วไปที่สระมนพระราชวังโบราณของเมืองกำแพงเพชร เมื่อราษฎรทราบข่าวการเสด็จของพระพุทธเจ้าหลวง มีการสร้างพลับพลาและปะรำในบริเวณสระมน โดยมีราษฎรเข้าเฝ้าเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้หลวงอนุรักรัฐกิจได้เสวยพระกระยาหารกลางวันทีบริเวณสระมน พร้อมทั้งได้จัดเตรียมลูกขุนนางเพื่อเป็นแบบในการการถ่ายภาพกับคนงามเมืองกำแพงเพชรให้กับพระพุทธเจ้าหลวงไว้ 4 คน ได้แก่ หวีด บุตรหลวงพิพิธอภัย อายุ 16 ปี ประคอง บุตรหลวงพิพิธอภัยเหมือนกัน อายุ 17 ปี ริ้ว ลูกพระพล อายุ 17 ปี และ พิง ลูกพระยารามณรงค์ อายุ 16 ปี สาวงามทั้ง 4 คนนี้ ถือเป็นผู้หญิงที่มีผิวพรรณสันฐานดีกว่าเมืองอื่นในเขตเหนือเลยก็ว่าได้ จากนั้นพระพุทธเจ้าหลวงเสด็จไปที่ศาลพระอิศวร เพื่อถ่ายภาพซากปรักหักพังของศาลพระอิศวร
วันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ.2449 ขบวนเสด็จของพระพุทธเจ้าหลวงเสด็จผ่านวัดพระบรมธาตุ แต่ไม่ประสงค์ที่จะแวะวัดพระบรมธาตุก่อน แต่มีคามประสงค์ที่จะพบกับพระโป้หรือพญาตะก่า พ่อค้าไม้ผู้มีอิทธิพลต่อชาวกำแพงเพชรในเวลานั้น พระพุทธเจ้าหลวงร่วมพูดคุยกับพะโป้และถ่ายภาพ จากนั้นพระพุทธเจ้าหลวงทรงเสด็จกลับและแวะที่วัดพระบรมธาตุเพื่อเยี่ยมชมเจดีย์บรรจุพระบรมธาตุ โดยเจดีย์ที่ค้นพบก่อนที่พะโป้จะทำการปฏิสังขรณ์เดิมนั้นมี 3 องค์ใหญ่ ซึ่งบรรจุพระบรมธาตุไว้กลางและมีการรวมเจดีย์ทั้ง 3 องค์ ให้เป็นเจดีย์เดียวกัน
ด้วยสาเหตุดังกล่าวข้างต้น เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระพุทธเจ้าหลวง ทางชุมชนนครชุม ชาวบ้าน และวัดพระบรมธาตุ จังหวัดกำแพงเพชร จึงมีการจัดงานครบรอบการเสด็จประพาสต้นของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทอดพระเนตรถึงความสุขทุกข์ของราษฎรในทุก ๆ ด้าน พระองค์ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจที่สำคัญในหลาย ๆ ด้านและคืนความสุขให้ราษฎรของพระองค์ในขณะเดียวกัน นับจากนั้นเป็นต้นมานครชุมที่ไม่มีผู้ใดกล้าไปก็กลับมามีชีวิตชีวาและเป็นที่อยู่อาศัยให้กับคนชาวกำแพงเพชรได้อยู่อย่างสุขสบายตราบมาจนถึงทุกวันนี้
อ้างอิงเอกสาร
หนังสือเสด็จประพาสต้น ในวาระครบรอบ 100 ปี ในปีพุทธศักราช 2549 ทำโดยสภาวัฒนธรรมจังหวัดกำแพงเพชรร่วมกับสภาวัฒนธรรมตำบลนครชุม
อาจารย์สันติ อภัยราช ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดกำแพงเพชร
นางสาวหทัยชนก สุรินรัตน์ รหัสนักศึกษา 551121507
โปรแกรมวิชาภาษาไทย คณะครุศาสตร์